คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างที่นั่งทำงานอยู่ในสำนักงานที่บ้านพระอาทิตย์ จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่โต๊ะ ยกหูฟังปลายสายแนะนำตัวว่าเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของงานวิ่ง สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กรุงเทพมาราธอน 2015 ที่จะจัดกันในเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย.นั่นเอง ตอนแรกเสียงใสๆ จากพีอาร์สาวเชิญชวนร่วมวิ่ง และทำข่าวผลการแข่งขัน จึงถามไปว่างานเริ่มเมื่อไหร่ แต่พอตอบกลับมาว่าเป็นตี 2 เท่านั้นแหละ คนนอนดึกตื่นเช้าอย่างผมรีบปฏิเสธไปทันทีว่าคงไม่ไหว พร้อมถามไถ่ไปว่าทำไมถึงเช้าขนาดนั้น เธอบอกว่าวิ่งจริง ตี 3 แต่ต้องไปลงทะเบียนตั้งแต่ตี 2 เพราะงานนี้มีเหล่าบรรดาขาวิ่งไปเยอะ
ปรากฎว่าเมื่อถึงวันแข่งจริงจึงรู้ว่าตัดสินใจถูกต้องแล้ว เพราะมีดราม่าตามมาจากการแถมระยะให้กับนักวิ่ง ฮาล์ฟ มาราธอน จากเดิมที่ 21 กม.ออกไปถึง 7.6 กม. เนื่องจากมีการผิดพลาดเรื่องจุดกลับตัว
งานนี้กลายเป็นว่าเสียชื่อเสียงบานตะเกียง เพราะมีคนดังร่วมวิ่งแข่งขันมากมาย มาร์ค เคนท์ เอกอัคราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ที่ลงแข่งขันด้วยถึงกับโพสต์ในทวิตเตอร์ว่า "ผมเพิ่งเสร็จจากการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนที่ไกลที่สุดเท่าที่เคยวิ่งมาก ระยะทางเพิ่มมา 30 เปอร์เซนต์" ส่วน "ตูน บอดี้สแลม" นักร้องที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจยังลงอินสตาแกรมว่า "เมื่อเช้ามืดวันนี้ คุ้นๆ ว่าสมัครวิ่งระยะฮาล์ฟมาราธอน 21 กม. แต่สุดท้ายกดไป 28 กม. พี่ๆ เขาใจดีแถมให้ ทีหลังไม่ต้องแถมก็ได้นะครับ เกรงใจ"
ยังไม่หมดแค่นี้แม้แต่ "ณัฐ ศักดาทร" นักร้องขวัญใจวัยรุ่นที่มาร่วมวิ่งระยะเดียวกันถึงกับบ่นว่า "เกิดความผิดพลาดทีมงานจัดให้วิ่งกลับตัวผิดที่ ช่วงกิโลเมตรหลังๆ นี่ผมวิ่งเร็วมาก ไม่ใช่เพราะแรงเหลือ แต่เป็นเพราะโมโห เห็นใจนักวิ่งหลายคนที่เผื่อแรงไว้แค่ 21 กิโลเมตร แต่ต้องมาเจออีกเกือบ 7 กิโลเมตรโดยไม่รู้ตัว ข้อดีคือได้ออกกำลังกายเพิ่ม ข้อเสียคือมันอันตราย เพราะบาดเจ็บได้ง่ายๆ เลย ถ้าเตรียมตัวมาไม่พอ หรือไม่ได้เผื่อแรงไว้ ฝากไว้สำหรับใครที่จะจัดงานวิ่งด้วย โปรดช่วยกันระมัดระวังเอาใจใส่อย่าให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้อีกเลย เพื่อประสบการณ์วิ่งที่ดีของทุกคน"
จากระยะที่เพิ่มขึ้นมานั้น ดร.สุจิตรา ศรีสังข์ รองคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมแข่งขันด้วยถึงแสดงความเป็นห่วงว่าอาจสร้างอันตรายให้กับนักวิ่งที่ซ้อมมาพอดีกับระยะแข่งขัน เมื่อเจอระยะทางที่ยาวขึ้นย่อมสุ่มเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เนื่องจากเกินขีดความสามารถของร่างกาย
ซึ่งจากการแถมระยะในครั้งนี้ส่งผลให้การแข่งขันรายการนี้โด่งดังไปทั่วโลกจากการตีข่าวของสื่ออังกฤษ งานนี้เสียภาพลักษณ์ประเทศมาก แค่ขอโทษแล้วแจกเสื้อบอกระยะใหม่คงไม่ได้ช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้นหรอกจริงไหม...
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างที่นั่งทำงานอยู่ในสำนักงานที่บ้านพระอาทิตย์ จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่โต๊ะ ยกหูฟังปลายสายแนะนำตัวว่าเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของงานวิ่ง สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กรุงเทพมาราธอน 2015 ที่จะจัดกันในเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย.นั่นเอง ตอนแรกเสียงใสๆ จากพีอาร์สาวเชิญชวนร่วมวิ่ง และทำข่าวผลการแข่งขัน จึงถามไปว่างานเริ่มเมื่อไหร่ แต่พอตอบกลับมาว่าเป็นตี 2 เท่านั้นแหละ คนนอนดึกตื่นเช้าอย่างผมรีบปฏิเสธไปทันทีว่าคงไม่ไหว พร้อมถามไถ่ไปว่าทำไมถึงเช้าขนาดนั้น เธอบอกว่าวิ่งจริง ตี 3 แต่ต้องไปลงทะเบียนตั้งแต่ตี 2 เพราะงานนี้มีเหล่าบรรดาขาวิ่งไปเยอะ
ปรากฎว่าเมื่อถึงวันแข่งจริงจึงรู้ว่าตัดสินใจถูกต้องแล้ว เพราะมีดราม่าตามมาจากการแถมระยะให้กับนักวิ่ง ฮาล์ฟ มาราธอน จากเดิมที่ 21 กม.ออกไปถึง 7.6 กม. เนื่องจากมีการผิดพลาดเรื่องจุดกลับตัว
งานนี้กลายเป็นว่าเสียชื่อเสียงบานตะเกียง เพราะมีคนดังร่วมวิ่งแข่งขันมากมาย มาร์ค เคนท์ เอกอัคราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ที่ลงแข่งขันด้วยถึงกับโพสต์ในทวิตเตอร์ว่า "ผมเพิ่งเสร็จจากการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนที่ไกลที่สุดเท่าที่เคยวิ่งมาก ระยะทางเพิ่มมา 30 เปอร์เซนต์" ส่วน "ตูน บอดี้สแลม" นักร้องที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจยังลงอินสตาแกรมว่า "เมื่อเช้ามืดวันนี้ คุ้นๆ ว่าสมัครวิ่งระยะฮาล์ฟมาราธอน 21 กม. แต่สุดท้ายกดไป 28 กม. พี่ๆ เขาใจดีแถมให้ ทีหลังไม่ต้องแถมก็ได้นะครับ เกรงใจ"
ยังไม่หมดแค่นี้แม้แต่ "ณัฐ ศักดาทร" นักร้องขวัญใจวัยรุ่นที่มาร่วมวิ่งระยะเดียวกันถึงกับบ่นว่า "เกิดความผิดพลาดทีมงานจัดให้วิ่งกลับตัวผิดที่ ช่วงกิโลเมตรหลังๆ นี่ผมวิ่งเร็วมาก ไม่ใช่เพราะแรงเหลือ แต่เป็นเพราะโมโห เห็นใจนักวิ่งหลายคนที่เผื่อแรงไว้แค่ 21 กิโลเมตร แต่ต้องมาเจออีกเกือบ 7 กิโลเมตรโดยไม่รู้ตัว ข้อดีคือได้ออกกำลังกายเพิ่ม ข้อเสียคือมันอันตราย เพราะบาดเจ็บได้ง่ายๆ เลย ถ้าเตรียมตัวมาไม่พอ หรือไม่ได้เผื่อแรงไว้ ฝากไว้สำหรับใครที่จะจัดงานวิ่งด้วย โปรดช่วยกันระมัดระวังเอาใจใส่อย่าให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้อีกเลย เพื่อประสบการณ์วิ่งที่ดีของทุกคน"
จากระยะที่เพิ่มขึ้นมานั้น ดร.สุจิตรา ศรีสังข์ รองคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมแข่งขันด้วยถึงแสดงความเป็นห่วงว่าอาจสร้างอันตรายให้กับนักวิ่งที่ซ้อมมาพอดีกับระยะแข่งขัน เมื่อเจอระยะทางที่ยาวขึ้นย่อมสุ่มเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เนื่องจากเกินขีดความสามารถของร่างกาย
ซึ่งจากการแถมระยะในครั้งนี้ส่งผลให้การแข่งขันรายการนี้โด่งดังไปทั่วโลกจากการตีข่าวของสื่ออังกฤษ งานนี้เสียภาพลักษณ์ประเทศมาก แค่ขอโทษแล้วแจกเสื้อบอกระยะใหม่คงไม่ได้ช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้นหรอกจริงไหม...