xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้น “ช้างศึก” รุ่นเล็ก / ชมณัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”

ช่วงเวลาแห่งความหอมหวาน ความสำเร็จลูกหนังไทย กำลังอยู่ในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม หลังจากผงาดครองเจ้าอาเซียนทุกชุด ตั้งแต่ชุดเด็กจนถึงชุดใหญ่ ซึ่งก้าวต่อไปในระดับเอเชีย ยังต้องรอการพิสูจน์ว่าจะไปได้ไกลถึงระดับไหน เพราะหากจะไปต่อได้จำเป็นต้องมีรากฐานที่แข็งแกร่ง โดยในวันนี้ ทัพ ยู-16 และ ยู-19 จะเป็นตัวชี้วัด

ทีมชาติไทย เคยไปฟุตบอลโลกมาแล้ว ในรุ่น ยู-17 แถมไปมา 2 สมัยติดเสียด้วย คือ ปี 1997 ที่อียิปต์ และ 1999 ที่นิวซีแลนด์ แม้ตลอด 2 ครั้งจะเก็บไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ชั้นดี โดยครั้งนี้กำลังอยู่ในเส้นทางที่ได้ลุ้นอีกครั้ง หลังสามารถผ่านเข้าไปเล่นใน ศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายได้สำเร็จ

ลูกทีมของ พยงค์ ขุนเณร ผงาดครองเจ้าอาเซียน 2015 ที่เมียนมา ก่อนที่ถัดมาในศึก “เอเอฟซี ยู-16 แชมเปียนชิป 2016” รอบคัดเลือก จะคว้าอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ในโควตา 5 ทีม ผ่านไปเล่นรอบสุดท้าย 16 ทีม ที่ อินเดีย ช่วงปลายปีหน้า เพื่อคัดหา 4 ทีมสุดท้าย ไปเล่น “ยู-17 ชิงแชมป์โลก” ที่แดนภารตะ ปี 2017 แม้จะยังไม่มีการแบ่งกลุ่ม แต่ก็เป็นงานหนักไม่น้อย เพราะมีขวากหนามชิ้นโต อาทิ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อิหร่าน อิรัก และ เกาหลีใต้ ขวางอยู่

อย่างไรก็ตาม นับเป็นก้าวสำคัญที่จะได้พิสูจน์ตัวเองในระดับเอเชียอีกครั้ง และยังมีเวลาให้เตรียมตัวอีกกว่า 1 ปีเต็มก่อนเริ่มทัวร์นาเมนท์ ทว่าในรุ่นถัดมาอย่าง ยู-20 ยังไม่สามารถสานต่อความสำเร็จไปถึงฝั่งฝันได้ ยังไม่เคยสัมผัสเวทีระดับโลกแม้แต่ครั้งเดียว

โดยครั้งนี้ ทัพช้างศึก “ยู-19” มีคิวลงเล่นศึกชิงแชมป์เอเชีย “เอเอฟซี ยู-19 แชมเปียนชิป 2016” รอบคัดเลือก ซึ่งเป็นด่านแรกในการลุ้นตั๋วไปบอลโลก คัดแชมป์กลุ่ม 10 ทีม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 5 ทีม ไปเล่นรอบสุดท้ายที่ บาห์เรน ปี 2016 เพื่อคัดหา 4 ทีมสุดท้ายของเอเชีย คว้าตั๋วไปเล่น “ยู-20 ชิงแชมป์โลก 2017” ที่เกาหลีใต้ โดยในรอบคัดเลือกนี้ ไทย ได้เปรียบเล็กน้อยจากการได้เป็นเจ้าภาพรอบแบ่งกลุ่ม อยู่กลุ่ม เอช มีโปรแกรมพบ ไต้หวัน (18 กันยายน), หมู่เกาะนอร์ทเทิร์น มารีนา (2 ตุลาคม), สิงคโปร์ (4 ตุลาคม) และ เกาหลีใต้ (6 ตุลาคม) ลงเล่นที่ เอสซีจี สเตเดียม รังเหย้าของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เวลา 19.00 น. ทุกนัด

หากลูกทีมของ “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด สามารถเก็บ 9 แต้มเต็ม จาก 3 นัดแรกได้ ถือว่ามีลุ้นสูง รอวัดกับ “โสมขาว” ในนัดสุดท้าย ถ้าไม่แพ้หลุดลุ่ย ก็มีโอกาสติดอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ ซึ่งในรอบสุดท้ายแม้ เกาหลีใต้ จะได้สิทธิ์ไปฟุตบอลโลกแน่นอนแล้วจากการได้เป็นเจ้าภาพ แต่ยังโชคดีที่ฟีฟายังให้สิทธิ์ทีมจากเอเชีย 4 ทีมตามเดิม เท่ากับว่าตัดกำลังขาประจำที่เคยผ่านเวทีนี้มาแล้ว 8 ครั้ง จาก 10 ครั้งหลังสุด ไปได้ 1 ทีม

สำหรับการเตรียมทีม “โค้ชจุ่น” ยังคงเรียกใช้บริการแข้งชุดแชมป์ อาเซียน 2015 ที่ สปป.ลาว เป็นแกนหลัก จำนวน 24 ราย นำโดย “เจ้ายิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ มิดฟิลด์ กัปตันทีมจากชลบุรี เอฟซี พร้อมด้วยคู่หู “โก้" สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ จอมทัพตัวเก่งที่มีทีเด็ดเรื่องการวางบอลและลูกยิงไกล และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ มิดฟิลด์ตัวรุกจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นอกจากนี้ยังได้เรียกเพิ่มเข้ามาทดลองอีก 11 ราย ก่อนตัดเหลือ 20 คนสุดท้ายสู้ศึก

หากทั้งสองชุดทำผลงานได้เข้าเป้าในระดับเอเชีย จะเป็นการช่วยเสริมรากฐานให้กับทัพ “ช้างศึก” ในการต่อยอดถึงระดับเอเชีย และระดับโลก ได้แน่นอนในอนาคตอีก 4-5 ปีหลังจากนี้

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น