คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ยังอยู่กันต่อกับ “ไฟต์สั่งลา” ครั้งที่ 49 ในการชกอาชีพของ “เดอะ มันนี่” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ที่เปิดศึกกับ อังเดร เบอร์โต ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยคู่นี้นั้นก่อนชกกระแสก็เงียบกริบอยู่แล้ว ขนาดวันก่อนชกยังหาบัตรราคาปกติจากตัวแทนจำหน่ายตั๋วได้แบบสบายๆ ไม่ต้องแย่งกัน แถมสุดท้ายบัตรขายไม่หมดเหลือที่ว่างพันกว่าที่ในสนามความจุ 15,000 ที่นั่ง ผลการชกก็ออกมาชวนง่วงอย่างที่ทุกฝ่ายมองไว้ แต่กระนั้นทางสุดยอดมวยไร้พ่ายก็ยืนยันว่าพอใจแล้วกับสถิติ 49-0 และยืนยันว่าไฟต์นี้เป็นไฟต์สุดท้ายจริงๆ ไม่มีกลับลำแน่นอน
ข้อมูลที่หลายๆ ฝ่ายรอคอยกันต่อไปก็คือเรื่องยอดขายสิทธิ์การชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในระบบ เพย์-เพอร์-วิว ที่ทาง ฟลอยด์ เองคุยนักคุยหนาว่าตัวเองเป็นราชาแห่งเพย์-เพอร์-วิว มียอดขายสูงสุด โดยในไฟต์หยุดโลกก่อนหน้านี้ที่ระเบิดศึกกับ “แพ็คแมน” แมนนี ปาเกียว ทาง ฟลอยด์ ก็เอาประเด็นนี้มาใช้ในการต่อรองค่าตัว โดยบอกว่าตัวเขาเองนั้นขายเพย์-เพอร์-วิวได้กระหน่ำอยู่แล้ว ขณะที่ ปาเกียว นั้นยอดเพย์-เพอร์-วิวในไฟต์หลังๆ ขายได้ไม่เท่าไหร่ เรียกว่าตัวเองดังกว่า ทำรายได้มากกว่า ต้องได้ค่าตัวมากกว่า ซึ่งสุดท้ายตกลงกันได้ตามนั้น สรุปไฟต์นั้นมียอดเพย์-เพอร์-วิวร่วม 5 ล้านราย ราคาขายอยู่ที่ 90 เหรียญสำหรับสัญญาณธรรมดา และ 100 เหรียญสำหรับสัญญาณ HD ฟันรายได้กันเพลิน
มาไฟต์นี้ ราคาขายเพย์-เพอร์-วิว อยู่ที่ 75 เหรียญสำหรับสัญญาณภาพแบบเอชดี คือลดราคาลงมาสุดๆ ปรากฏว่ายอดขายแบบไม่เป็นทางการออกมาประมาณ 400,000 – 500,000 รายเท่านั้น ความซวยจึงไปตกอยู่ที่ “โชว์ไทม์” ซึ่งเป็นเจ้าของสัญญาลิขสิทธิ์ไฟต์นี้อยู่ แถมเป็นไฟต์สุดท้ายที่ฟลอยด์ เซ็นไว้กับโชว์ไทม์แล้วด้วย ในขณะที่ตัวนักมวยทางด้าน ฟลอยด์ ได้รับการประกันรายได้ที่ 32 ล้านเหรียญ และ เบอร์โต ได้รับ 4 ล้านเหรียญ เรียกว่าโปรโมเตอร์และโชว์ไทม์ต้องร่วมกันเอาเท้าก่ายหน้าผากไปตามๆ กัน
นักวิเคราะห์บางคนเลยออกมากระแนะกระแหนว่า ไฟต์ที่ว่านี้เป็นไฟต์สุดท้ายก็ดีแล้ว เพราะมันแสดงให้เห็นแล้วว่าแฟนมวยไม่อยากดู “เดอะ มันนี่” ขึ้นชกอีกต่อไปแล้ว จะกลับมาชกอีกแฟนๆ ก็รู้หมดแล้วว่ามันต้องออกมาน่าเบื่อแน่นอน แต่บางคนก็ยังบอกว่าแบบนี้โชว์ไทม์ต้องขอแก้ตัวแน่นอน พยายามดึงคู่ชกระดับแม่เหล็กมาฟันกำไรชดเชยกับที่เจ๊งไปในคราวนี้ให้ได้ ปลายปีนี้จะมีไฟต์ระดับ 5 ดาวอีก 2 ไฟต์ ระหว่าง “ไอ้ 3 จี” เกนนาดี โกลอฟกิน พบกับ เดวิด เลอมิวซ์ ราชาน็อกเอ๊าท์ทั้งคู่ กับอีกไฟต์ระหว่าง มิเกล ค็อตโต จอมเก๋าชาวเปอโตริกัน กับ ซาอูล “กาเนโล” อัลวาเรซ และผู้ชนะระหว่างสองคู่นี้จะพบกันในศึกใหญ่ต้นปีหน้า ผู้ชนะสุดท้ายน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีถ้าจะดึง ฟลอยด์ กลับมาชกไฟต์ที่ 50 อีก
แต่ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพที่มุมของ ฟลอยด์ ระหว่างพักยก 11 ก่อนเริ่มยกสุดท้าย มีการแกะเสียงออกมาได้ว่าทาง ฟลอยด์ซีเนียร์ ผู้พ่อ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงอยู่ที่มุม ชมลูกชายว่าทำได้ดีมาก เราชนะแล้วล่ะ ทาง ฟลอยด์จูเนียร์ ก็ตอบว่าก็ทุกอย่างที่พ่อสอนมาตั้งแต่วันแรก ผมจำได้เสมอ แล้วก็พ่อลูกก็กอดกัน เรียกว่าเป็นวินาทีระหว่างพ่อลูกที่สร้างความประทับใจไม่น้อย แต่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทางฝั่ง ฟลอยด์ นั้นน่าจะตัดใจแล้วจริงๆ ว่าเป็นไฟต์สุดท้ายแล้ว มันจบแล้วครับท่าน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ยังอยู่กันต่อกับ “ไฟต์สั่งลา” ครั้งที่ 49 ในการชกอาชีพของ “เดอะ มันนี่” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ที่เปิดศึกกับ อังเดร เบอร์โต ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยคู่นี้นั้นก่อนชกกระแสก็เงียบกริบอยู่แล้ว ขนาดวันก่อนชกยังหาบัตรราคาปกติจากตัวแทนจำหน่ายตั๋วได้แบบสบายๆ ไม่ต้องแย่งกัน แถมสุดท้ายบัตรขายไม่หมดเหลือที่ว่างพันกว่าที่ในสนามความจุ 15,000 ที่นั่ง ผลการชกก็ออกมาชวนง่วงอย่างที่ทุกฝ่ายมองไว้ แต่กระนั้นทางสุดยอดมวยไร้พ่ายก็ยืนยันว่าพอใจแล้วกับสถิติ 49-0 และยืนยันว่าไฟต์นี้เป็นไฟต์สุดท้ายจริงๆ ไม่มีกลับลำแน่นอน
ข้อมูลที่หลายๆ ฝ่ายรอคอยกันต่อไปก็คือเรื่องยอดขายสิทธิ์การชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในระบบ เพย์-เพอร์-วิว ที่ทาง ฟลอยด์ เองคุยนักคุยหนาว่าตัวเองเป็นราชาแห่งเพย์-เพอร์-วิว มียอดขายสูงสุด โดยในไฟต์หยุดโลกก่อนหน้านี้ที่ระเบิดศึกกับ “แพ็คแมน” แมนนี ปาเกียว ทาง ฟลอยด์ ก็เอาประเด็นนี้มาใช้ในการต่อรองค่าตัว โดยบอกว่าตัวเขาเองนั้นขายเพย์-เพอร์-วิวได้กระหน่ำอยู่แล้ว ขณะที่ ปาเกียว นั้นยอดเพย์-เพอร์-วิวในไฟต์หลังๆ ขายได้ไม่เท่าไหร่ เรียกว่าตัวเองดังกว่า ทำรายได้มากกว่า ต้องได้ค่าตัวมากกว่า ซึ่งสุดท้ายตกลงกันได้ตามนั้น สรุปไฟต์นั้นมียอดเพย์-เพอร์-วิวร่วม 5 ล้านราย ราคาขายอยู่ที่ 90 เหรียญสำหรับสัญญาณธรรมดา และ 100 เหรียญสำหรับสัญญาณ HD ฟันรายได้กันเพลิน
มาไฟต์นี้ ราคาขายเพย์-เพอร์-วิว อยู่ที่ 75 เหรียญสำหรับสัญญาณภาพแบบเอชดี คือลดราคาลงมาสุดๆ ปรากฏว่ายอดขายแบบไม่เป็นทางการออกมาประมาณ 400,000 – 500,000 รายเท่านั้น ความซวยจึงไปตกอยู่ที่ “โชว์ไทม์” ซึ่งเป็นเจ้าของสัญญาลิขสิทธิ์ไฟต์นี้อยู่ แถมเป็นไฟต์สุดท้ายที่ฟลอยด์ เซ็นไว้กับโชว์ไทม์แล้วด้วย ในขณะที่ตัวนักมวยทางด้าน ฟลอยด์ ได้รับการประกันรายได้ที่ 32 ล้านเหรียญ และ เบอร์โต ได้รับ 4 ล้านเหรียญ เรียกว่าโปรโมเตอร์และโชว์ไทม์ต้องร่วมกันเอาเท้าก่ายหน้าผากไปตามๆ กัน
นักวิเคราะห์บางคนเลยออกมากระแนะกระแหนว่า ไฟต์ที่ว่านี้เป็นไฟต์สุดท้ายก็ดีแล้ว เพราะมันแสดงให้เห็นแล้วว่าแฟนมวยไม่อยากดู “เดอะ มันนี่” ขึ้นชกอีกต่อไปแล้ว จะกลับมาชกอีกแฟนๆ ก็รู้หมดแล้วว่ามันต้องออกมาน่าเบื่อแน่นอน แต่บางคนก็ยังบอกว่าแบบนี้โชว์ไทม์ต้องขอแก้ตัวแน่นอน พยายามดึงคู่ชกระดับแม่เหล็กมาฟันกำไรชดเชยกับที่เจ๊งไปในคราวนี้ให้ได้ ปลายปีนี้จะมีไฟต์ระดับ 5 ดาวอีก 2 ไฟต์ ระหว่าง “ไอ้ 3 จี” เกนนาดี โกลอฟกิน พบกับ เดวิด เลอมิวซ์ ราชาน็อกเอ๊าท์ทั้งคู่ กับอีกไฟต์ระหว่าง มิเกล ค็อตโต จอมเก๋าชาวเปอโตริกัน กับ ซาอูล “กาเนโล” อัลวาเรซ และผู้ชนะระหว่างสองคู่นี้จะพบกันในศึกใหญ่ต้นปีหน้า ผู้ชนะสุดท้ายน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีถ้าจะดึง ฟลอยด์ กลับมาชกไฟต์ที่ 50 อีก
แต่ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพที่มุมของ ฟลอยด์ ระหว่างพักยก 11 ก่อนเริ่มยกสุดท้าย มีการแกะเสียงออกมาได้ว่าทาง ฟลอยด์ซีเนียร์ ผู้พ่อ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงอยู่ที่มุม ชมลูกชายว่าทำได้ดีมาก เราชนะแล้วล่ะ ทาง ฟลอยด์จูเนียร์ ก็ตอบว่าก็ทุกอย่างที่พ่อสอนมาตั้งแต่วันแรก ผมจำได้เสมอ แล้วก็พ่อลูกก็กอดกัน เรียกว่าเป็นวินาทีระหว่างพ่อลูกที่สร้างความประทับใจไม่น้อย แต่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทางฝั่ง ฟลอยด์ นั้นน่าจะตัดใจแล้วจริงๆ ว่าเป็นไฟต์สุดท้ายแล้ว มันจบแล้วครับท่าน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *