ฤดูร้อนปี 2014 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จัดการขายศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของทีม อย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ไปให้ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกาสเปน ด้วยราคาสูงถึง 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4 พันล้านบาท) แล้วจับจ่ายใช้สอยซื้อผู้เล่น 8 คน เข้ามาสู่ทีมด้วยวงเงินสูงถึง 117 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6 พันล้านบาท) แต่กลับทำผลงานได้น่าผิดหวังจบเพียงอันดับที่ 6 ของตารางเท่านั้น “เดลี เมล” สื่อชื่อดังแห่งประเทศอังกฤษ มาวิเคราะห์ความล้มเหลวในการซื้อนักเตะมาร่วมทัพเมื่อปีที่แล้ว ใครคุ้มค่า ใครพลาดท่าซื้อมาทำไม
1. มาริโอ บาโลเตลลี 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 880 ล้านบาท) : ในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็กำจัดจุดบอดของทีมออกไปได้ ด้วยการหลอกให้ เอซี มิลาน อดีตต้นสังกัดเก่าของ ศูนย์หน้าเจ้าปัญหารายนี้ รับไปดูแล 1 ฤดูกาล และเบรนแดน ร็อดเจอรส์ ก็เบามือไปอีกเรื่อง ทุก ๆ คน รวมทั้งสุนัขด้วย ต่างรู้ว่า บาโลเตลลี จะทำให้ชื่อเขาปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ยังไง กับเรื่องราวทั้งในและนอกสนามมันพิสูจน์ว่าเขาไม่เป็นที่ชื่นชอบของ กุนซือชาว ไอริช ซักเท่าไหร่ การซื้อหัวหอกอิตาลี มาร่วมทัพ 1 ปี ที่ผ่านมา ชัดแจ้งเเล้วว่า 16 ล้านปอนด์ เป็นราคาที่มากเกินไป และที่สำคัญ แม้จะถูกยืมตัวไป "หงส์แดง" ยังต้องช่วย เอซี มิลาน จ่ายค่าจ้างส่วนหนึ่งของดาวเตะวัย 25 อีกด้วย [บทสรุป : ผิดพลาด]
2. ริกกี แลมเบิร์ต 4 ล้านปอนด์ (220 ล้านบาท) : ย้ายมาร่วมทีมรักที่เชียร์ตั้งแต่สมัยเด็ก แถมยังเคยเป็นแข้งระดับเยาวชนของ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 1992 - 97 อีกด้วย แต่ถูกปล่อยตัวออกไป และโชว์ฟอร์มได้ดีกับทัพ “นักบุญแดนใต้” ลงเล่นทุกรายการรวม 235 นัด ซัดไป 117 ประตู จนติดทีมชาติอังกฤษ การได้รับโอกาสสวมเสื้อสีแดงเพลิงของทัพ “หงส์แดง” จึงทำให้เจ้าตัวไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่กลับกลายเป็นฝันร้ายของเขา เมื่อไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงภายในทีมได้ และไม่ได้รับความไว้วางใจจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซักเท่าไหร่ ยิงให้ทีมดังถิ่นแอนฟิลด์ ไปเพียง 3 ลูก จากการลงสนาม 36 นัด รวมทุกรายการ ก่อนท้ายที่สุดตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน ด้วยราคา 3 ล้าปอนด์ (ประมาณ 100 ล้านบาท) ในที่สุด [บทสรุป : ผิดพลาด]
3. ลาซาร์ มาร์โควิช 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) : ปีกดาวรุ่งวัย 21 ปี ย้ายจาก เบนฟิกา มาร่วมถิ่น แอนฟิลด์ ท่ามกลางความหวังของแฟนบอลว่าจะมาเจิดจรัสในเวที พรีเมียร์ลีก แต่ปีก เซอร์เบีย กลับโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจเพราะถูกจับไปเล่นในตำแหน่งที่ตัวเองไม่ถนัด ถึงกระนั่นเจ้าตัวก็ยังอุตส่าห์ยิงได้ 3 ประตู แม้ฝีเท้าจะรวดเร็ว แต่ก็ยังคงบอบบางเบียดสู้แรงในสังเวียนแข้งลีกผู้ดีได้ยาก และฤดูกาลนี้เจ้าตัวแทบไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามเลย เบรนแดน ร็อดเจอร์ กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ จึงจำใจปล่อยตัวให้ เฟเนร์บาห์เช ยืมใช้งาน 1 ฤดูกาล เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และหวังว่าจะกลับมาทำผลงานได้ดีกว่าเดิม [บทสรุป : ผิดพลาด]
4. อัลแบร์โต โมเรโน 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 660 ล้านบาท) : แบ็กซ้ายร่างเล็กชาวสเปน เป็นเป้าหมายแรก ๆ ที่ ลิเวอร์พูล ต้องการตัวในช่วงซัมเมอร์เมื่อฤดูกาล 2014 - 15 แข้งวัย 23 ปี ต้องใช้เวลาปรับปรุงสไตล์การเล่นเสียยกใหญ่ แม้จะโดดเด่นในด้านเกมรุก แต่เขาก็กลายเป็นบ่อให้คู่ต่อสู้เจาะในแนวรับ จนนำมาซึ่งการเสียประตูอยู่บ่อยครั้ง แถมปัจจุบันตกเป็นสำรองของ โจ โกเมส เด็กวัย 18 ปี ที่เพิ่งถูกดึงตัวมาร่วมทีม ด้วยราคา 3.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 100 ล้านบาท) โกเมส แสดงให้เห็นถึงความนิ่งในการเล่นเกมรับ และเล่นลูกกลางอากาศดีกว่า ดาวเตะชาวสเปน ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ยังไม่เสียประตูเลยนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา 3 นัด อดีตแบ็กซ้าย เซบีญา จะจบด้วยการนั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ในฤดูกาลนี้ เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ [บทสรุป : ผิดพลาด]
5. เอ็มเร ชาน 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 550 ล้านบาท) : นักเตะสารพัดประโยชน์ย้ายมาจาก เลเวอร์คูเซน รายนี้ พิสูจน์แล้วว่าเป็นนักเตะไม่กีคนที่คุ้มค่าเงิน ความเก่งกาจของเขาเป็นที่ประจักษ์ในฟุตบอลทีมชาติ ยู-21 ปี แต่ถูก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส โยกให้มารับหน้าที่ปราการหลัง ในแผนหลัง 3 ตัว เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยล่าสุดในเกมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกดันบทบาทขึ้นไปเล่นโฮลดิ้งมิดฟิลด์ ควบคู่กับ ลูคัส เลวา เเละเจมส์ มิลเนอร์ ก่อนโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ แข้งวัย 21 ปี จะสามารถพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปได้อีกมาก ด้วยศักยภาพที่เห็น ปัจจุบันถูกเรียกติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ ในศึกคัดเลือกฟุตบอล ยูโร 2016 ที่จะพบกับ โปแลนด์ และสกอตแลนด์ ในต้นเดือน กันยายนนี้ [บทสรุป : คุ้มค่า]
6. ดิวอก โอริกิ 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 550 ล้านบาท) : ฤดูกาลนี้เป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ในการพิสูจน์ตัวเอง ของแข้งทีมชาติเบลเยียมรายนี้ ดาวยิงวัย 20 ปี ยังไม่ได้ลงสนามในสีเสื้อ “หงส์แดง” บนเวทีพรีเมียร์ลีก เลย นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา 3 นัด หลังจากถูกซื้อมาในช่วงเดือนกรกฎาคม 2014 และปล่อยให้ต้นสังกัดเดิมยืมตัวจนจบซีซัน และเจ้าตัวซัดไป 9 ประตู จากการลงสนาม 44 นัด เขาต้องรอเวลาของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อที่จะประเดิมสนามในลีก ที่ยากที่สุดในโลก [บทสรุป : กรรมการงดออกเสียง]
7. อดัม ลัลลานา 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,300 ล้านบาท) : อดัม ลัลลานา เริ่มต้นฤดูกาลแรกของเขากับทัพ “หงส์แดง” ได้ไม่ค่อยดีนัก เมื่อได้รับบาดเจ็บ และกลับมาก็ควานหาฟอร์มเก่งของตัวเองไม่เจอเสียเป็นเวลานาน มิดฟิลด์ตัวรุกเป็น 1 ในแข้ง เซาแธมป์ตัน ที่ เบรนแดน ร็อดเจอรส์ อยากได้มาร่วมทีม เจ้าตัวยิงไป 6 ประตู จากการลงสนาม 41 นัด รวมทุกรายการ ปัจจุบันบาดเจ็บต้นขาและพลาดช่วยทีมลงแข่งนัดบุกเสมอ อาร์เซนอล 0-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปีนี้แข้งวัย 27 ปี ต้องแข่งขันกับ โรแบร์โต เฟอร์มิโน เพลย์เมกเกอร์ ชาว บราซิล ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลแรก เพื่อโอกาสมีชื่อเป็น 11 คนแรกของ “บี-ร็อด” [บทสรุป : กรรมการงดออกเสียง]
8. เดยัน ลอฟเลน 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) : เซ็นเตอร์แบ็ก โครเอเชีย ย้ายมาด้วยความหวังของแฟนบอลว่าจะสามารถขันแนวรับของ ลิเวอร์พูล ให้เหนียวแน่นขึ้น แต่ดาวเตะวัย 26 ปี กลายเป็นบ่อให้แนวรุกคู่แข่งเจาะเข้าไปทำประตูได้ง่าย ๆ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึง ฟอร์มการเล่นที่ไม่คุ้มกับราคาค่าตัวอันมหาศาลที่จ่ายให็ เซาแธมป์ตัน จนสุดท้ายตกเป็นตัวสำรองของ มามาดู ซาโก ในที่สุด ลงเล่นให้ “เรด แมชชีน” ไป 41 นัด ยิงได้ 1 ประตู ปัจจุบันเป็นแข้งตัวหลักของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ใน 3 เกมแรกของ ฤดูกาล 2015-16 [บทสรุป : ผิดพลาด]
