xs
xsm
sm
md
lg

ยกระดับเชิ้ตดำกันบ้าง? / แมวดำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

ขณะที่สโมสรฟุตบอลในประเทศไทย โดยเฉพาะในลีกระดับสูงอย่างไทยพรีเมียร์ลีก ต่างก็มุ่งหน้าพัฒนาตัวเอง ทั้งใน และนอกสนาม ยกตัวอย่างหลายทีมต่างหวังยกระดับทีมด้วยการเสาะแสวงหาผู้เล่นฝีเท้าดี เฟ้นหากุนซือมากฝีมือ เสริมประสบการณ์การทำงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องนอกเหนือจากผลงานทีมก็ยังมีการจัดการที่เป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาทิ การดูแลสนามแข่งขัน ปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน มีระบบระเบียบการดูแลความปลอดภัย ตามที่ ไทยพรีเมียร์ลีก และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ต้องการ หลังมีคำสั่งจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ “เอเอฟซี” ให้สโมสรในลีกสูงสุดผ่านเกณฑ์มีคลับไลเซนซิงอย่างที่หวัง

ความหมายของคำว่า “คลับไลเซนซิง” อาจจะมีหลายคนยังไม่รู้ หรือรู้แล้วแต่ไม่แตกฉาน จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายสิ่งเหล่านี้โดยไม่ละเอียดว่า ไม่ต่างกับเป็นเกณฑ์มาตรฐานอย่าง “ISO” ที่เหล่าบรรดาองค์กรต่าง ๆ ต้องมี คือ มีเกณฑ์มากมาย อาทิ เรื่อง การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล มีแผงผังโครงสร้างการบริหารทีมชัดจัดในฝ่ายต่าง ๆ มีการทำงบบัญชีรายรับรายจ่าย ผู้ฝึกสอนก็ต้องมีไลเซน ตามที่กำหนด รวมถึงคุณภาพสนามที่ต้องได้มาตรฐาน มีอัฒจันทน์ล้อมรอบ 4 ด้าน มีหมายเลขที่นั่งชัดเจน ความจุต้องไม่ต่ำกว่า 5 พันที่นั่ง (ไม่มีที่ยืน) อีกทั้งต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้องน้ำ ห้องพักนักกีฬา ห้องแถลงข่าว พื้นที่ทำงานของสื่อมวลชน ฯลฯ และอีกหลายประการตามแต่จะกำหนดไว้

ผ่านมาไม่นานมีสโมสรที่ผ่านเกณฑ์คลับไลเซนซิงไปแล้ว ขณะที่หลายทีมก็ดูดีมีอนาคต หากมีการตรวจสอบก็คาดว่าน่าจะผ่านเกณฑ์ได้ไม่ยาก ส่วนอีกหลายทีมแม้ยังทำได้ไม่ดี แต่ก็เห็นว่าพัฒนาหนีจากมาตรฐานของตัวเองขึ้นมา แต่สิ่งหนึ่งที่หลังเปิดเลก 2 ของ ฤดูกาล 2015 หลายสโมสรทั้งลีกบน ลีกล่างต่างพร้อมใจออกมาบ่นเป็นเสียงเดียวกัน คือ เรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน เกิดความผิดพลาดทีทำเอาผู้บริหารทีมที่สู้อุตส่าห์ทุ่มทั้งแรงใจ และแรงเงินแทบลงไปทรุดกับผลการแข่งขันหลังครบ 90 นาที เล่นดี บุกดี อุดอยู่ แต่โดนพิษนกหวีดหวานเข้าไปหน่อยถึงกับแพ้ยับกันเลยก็มี เพราะนักเตะเสียสมาธิกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินบางราย

ส่วนตัวนอกจากอยากเห็นการพัฒนาของสโมสรบ้านเราไปถึงระดับมาตรฐานของ “เอเอฟซี” แล้ว อยากให้สมาคมฟุตบอลฯ ลงมาใส่ใจดูแลปัญหาเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่แค่เพิ่มเงิน หรือรางวัลให้ผู้ตัดสิน แต่เป่าผิดพลาดกันร่ำไป หากว่าการมีผู้ตัดสินในสนาม 3 คน บวกกับผู้ตัดสินสำรอง 1 คนที่ข้างสนาม มันไม่พอจริง ๆ ก็น่าจะเพิ่มเข้ามาอีกคน หรือ 2 คน หรือไม่ก็ลองให้ผู้ตัดสินสำรองไปนั่งดูมอนิเตอร์ถ่ายทอดสดให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจของกรรมการในสนามก็น่าจะพอทำได้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงตามมาในอนาคต...

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***


กำลังโหลดความคิดเห็น