xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งนายกบอลไทย / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

ทีแรกว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งผู้นำของวงการฟุตบอลไทยในปีหน้า คือ ดึงเกมกันไปตามอัธยาศัยอีกครึ่งปี ซึ่งหากนับจากการเลือกตั้งหนที่แล้วเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 วาระ 2 ปีของ นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็ต้องครบกำหนดไม่เกินเดือนตุลาคมนี้แหละ

การเลือกตั้งในปี 2554 นั้น ได้ถูกลากยาวออกไปจากเดือนมีนาคม เป็นเดือนมิถุนายน การเลือกตั้งในปี 2556 ก็ได้ถูกลากยาวออกไปจากเดือนมิถุนายนเป็นเดือนตุลาคม และการเลือกตั้งในปี 2558 ได้ถูกเผยออกมาว่าอาจไปจัดกันในวันที่ 27 เดือนมีนาคม 2559 โน่น นี่ถ้ารวมเวลาที่มันล่าช้าสะสม ผมว่ามันจะครบ 1 ปีพอดี ภาษาที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาประเภทลู่ เขาเรียกว่า “น้อค รอบ” ครับ

ตามปกติจะจัดให้มีการเลือกตั้งเมื่อใดก็ต้องเป็นไปตามกฎข้อบังคับ ส่วนเรื่องอื่นภายนอกที่จะเข้ามามีผลเกี่ยวพันในอนาคตนั้น ไม่ว่าจะเป็นธรรมนูญฟีฟ่า พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือข้อบังคับลักษณะปกครองของสมาคมฯ จะกฎไหน ฉบับใด ที่มีกำหนดจะคลอดออกมาภายหลัง ผมก็ยืนยันว่าต้องจัดการเลือกตั้งตามวาระให้เรียบร้อย การลากยาวเพื่อรอนั้น ไม่ถูกแน่ แล้วถ้าจะต้องปรับแก้ข้อบังคับในส่วนใดก็จะต้องเป็นหน้าที่ของ คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เป็นผู้ดำเนินการไปโดยได้รับมติเห็นชอบจากมวลสมาชิก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนี้ ทางสมาคมฯ ออกมาประกาศใหม่ว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นภายในเดือนตุลาคมนี้ ผมสงสัยว่า มันคงจะมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น อันนี้อาจมีคำขาดมาจากองค์กรใดสักองค์กรหนึ่งที่มีศักดิ์ใหญ่จนต้องปฏิบัติตามอย่างแน่นอน

อีกประเด็นหนึ่งที่หลายคนที่เฝ้าฝันให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสมาคมฯ ยังอาจไม่เข้าใจ โดยถึงตอนนี้มีผู้ประกาศตัวลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ แข่งกับ วรวีร์ มะกูดี แล้วอย่างน้อย 2 คน คือ บิ๊กหอย ธวัชชัย สัจจกุล และ บิ๊กเจี๊ยบ พลตำรวจโท พิสัณห์ จุลดิลก ซึ่งหลายคนมองว่า ทั้ง 2 ท่านนี้จะมาตัดคะแนนกันเอง หรือเป็นฝ่ายสมาคมฯ เองนั่นแหละที่ส่งมาหนึ่งแคนดิเดทเพื่อเป็นตัวหลอกดึงคะแนน แล้วในท้ายสุดก็จะไม่ได้ผู้นำหน้าใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาที่ผู้คนโจษจันกันมานาน

ผมอยากจะบอกว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ฟีฟ่า องค์กรพ่อของสมาคมฟุตบอลของทุกชาติได้บังคับให้สมาคมฯ ของชาติสมาชิกต้องจัดทำกฎข้อบังคับสมาคมฯ ให้สอดคล้องกับ ธรรมนูญ ฟีฟ่า ซึ่งอันนี้ใน พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทยฉบับใหม่ ก็มีระบุไว้ ดังนั้น ในการเลือกตั้งสมาคมฯ นับแต่นี้ไปก็คงต้องถือแนวทาง ฟีฟ่า เป็นแม่แบบ อย่างเช่น การเลือกตั้งประธาน ฟีฟ่า นั้น ไม่ว่าจะมีผู้สมัครกี่คนก็ตาม เขากำหนดให้คนจะชนะการเลือกตั้งได้ต้องได้รับคะแนนเสียงถึง 2 ใน 3 ของสมาชิกที่ลงคะแนน

ถ้ายังไม่ได้ผู้ชนะในรอบแรก ก็ต้องจัดให้ลงคะแนนกันใหม่ในรอบสอง หรืออาจมีรอบต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีผู้ชนะ ซึ่งคราวนี้ใครจะเป็นผู้ชนะนั้นเอาคะแนนเสียงแค่มากกว่า 50 เพอร์เซ็นท์ก็พอ แต่สิ่งสำคัญก็คือ หากในการเลือกตั้งมีผู้สมัครชิงตำแหน่งมากกว่า 2 คน เขาให้ตัดผู้ที่ได้คะแนนต่ำที่สุดทิ้งออกไปทีละคน จนกว่าจะเหลือดวลกัน 2 คน

ในขณะที่ ข้อบังคับลักษณะปกครองของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย 2556 ที่ไม่มีสมาชิกโต้แย้งในส่วนนี้ มีกำหนดไว้ในข้อ 25 เกี่ยวกับการเลือกตั้งว่า การที่บุคคลจะได้รับการเลือกตั้ง จะต้องได้คะแนนเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งของคะแนนเสียงที่ได้รับการบันทึกและมีผลใช้ได้ในการออกเสียงลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้งครั้งแรก และถ้ามีผู้สมัครรับเลือกตั้งมากกว่า 2 คนต่อตำแหน่งที่ว่างหนึ่งตำแหน่ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้รับคะแนนเสียงน้อยที่สุดจะถูกตัดออก และการออกเสียงลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้งครั้งต่อไปจะถูกจัดขึ้นจนกระทั่งเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งเพียง 2 คนเท่านั้น

แม้ว่า ข้อบังคับของสมาคมฯ จะมีความแตกต่างกันของรายละเอียด โดยเฉพาะคะแนนเสียงของผู้ชนะในรอบแรก แต่ผมก็ยังถือว่าค่อนข้างจะสอดคล้องกับแนวทางของ ฟีฟ่า และยอมรับได้ คือในกรณีที่มีผู้สมัครหลายคนจะมีการตัดผู้ที่ได้คะแนนน้อยที่สุดออกไปทีละคนก่อน ทำให้การมีผู้สมัครหลายๆคนไม่เป็นการตัดแต้มกันเองอย่างแน่นอน หรือใครคิดจะส่งผู้สมัครลงชิงชัยเพื่อเป็นตัวหลอกก็ย่อมไม่ส่งผล ข้อบังคับมาขนาดนี้ ก็ถ้าใครได้รับเสียงท่วมท้นเกินครึ่งขนาดนั้น เราก็คงต้องยอมนะครับ

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***


กำลังโหลดความคิดเห็น