ทีมงาน บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดมวยไทยคนดัง ออกมาชี้แจงผ่านแฟนเพจ “บัญชาเมฆยิม” ยันมีทีมงานประสบการณ์สูงดูแลใกล้ชิด จากที่เคยบาดเจ็บเรื้อรังจนหายดี แถมสภาพร่างกายฟิตกว่าตอนอายุ 27 ปี รับกีฬามีแพ้ชนะหลังพ่าย คายาล ดิซานิเยฟ กำปั้นรัสเซีย
จากกรณีที่ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดัง วัย 33 ปี แพ้คะแนน คายาล ดิซานิเยฟ นักชกชาวรัสเซีย วัย 22 ปี ในศึกท็อปคิงส์ เวิลด์ ซีรีส์ รอบไฟนอล ที่เวทีมวยสตาร์ฮอลล์ เมืองเกาลูน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดย บัวขาว โดนศอกของคู่ชกตั้งแต่ยกแรกจนเลือดนองเวที แต่ก็ฝืนชกจนจบ 3 ยก ซึ่งภายหลังยอดกำปั้นไทยรายนี้ออกมายอมรับว่าเป็นความบอบช้ำที่สุดในการชก หลังมีแผลแตกถึง 4 แห่ง เย็บรวม 19 เข็ม และยืนยันว่า จะไม่ถอดใจแขวนนวม รวมถึงจะมีการชกรีแมตช์กับคู่ชกรายนี้ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ที่ประเทศไทยอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ดูเหมือนทีมงานของ บัวขาว จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปล่อยให้นักชกวัย 33 ปี รายนี้ชกบนเวทีในวันนั้น ทั้งที่มีเลือดโชก จนน่าหวั่นวิตกว่าจะเกิดอันตราย ทว่า ล่าสุด ทีมงานของ บัวขาว ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจ “บัญชาเมฆยิม” อย่างละเอียดยิบ ถึงสถานการณ์ของนักชกไทยว่า
“นาน ๆ จะเล่าทีตอนที่ 2 ทีมงานของบัวขาวเองมองว่าการชกครั้งนี้ สภาพร่างกายเเละการชกดีกว่า 4 ไฟต์ที่ผ่านมาด้วยซ้ำ จะเล่าถึงข้อมูลทางด้านนี้ให้ฟังบ้างครับ ไม่ไช่เพื่อมีข้ออ้างหรืออย่างใดอย่างอื่นประการใด ซึ่งทีมงานของบัวขาวและตัวบัวขาวเอง ไม่ค่อยได้พูด ปริปาก หรือไม่เคย วิเคราะห์ วิจารณ์ให้คนอื่นทราบ มาตลอด 7 ปีเต็มที่ร่วมงานกับบัวขาวมา”
“ก่อนอื่นทางทีมงาน ของบัวขาวมีหลายส่วนช่วยร่วมมือกันหลายด้านทั้ง ด้านทักษะ ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา สมรรถภาพทางกาย ด้านสมาธิจิตวิทยา ด้านทางทีมแพทย์ ด้านผู้สนับสนุน ทีมงาน ด้านสมรรถภาพมีประสบการณ์ เกี่ยวกับกีฬาต่าง ๆ มาบ้าง คือ จบปริญญาตรี พลศึกษา จาก มหาวิทยาลัยบูรพา ปริญญาโท วิทยาศาสตร์การกีฬา จาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์"
-เป็นเทรนเนอร์บาสเกตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ทั้งทีมชายและทีมหญิง
-เป็นเทรนเนอร์นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
-เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวนักเทนนิส ภราดร ศรีชาพันธุ์ 5ปี
- เป็นเทรนเนอร์ เทนนิสทีมชาติไทย ชุดประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีกีฬาเทนนิสมา ทีมชาย ได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของโลก เทนนิสทีมชายชิงแชมป์โลก เดวิสคัพ กลุ่มเวิลด์กรุ๊ป รอบเพลย์ออฟ พ่ายทีมชาติเยอรมันเพียงแต้มเดียว
- เป็นเทรนเนอร์ด้านสมรรถภาพทางกายดูเเลการบาดเจ็บ ให้บัวขาวมาตลอด 7 ปี
“ซึ่งตั้งเเต่หลังปี 2006 มา บัวขาวมีอาการการบาดเจ็บรบกวน และอย่างอื่นที่หนักหนาสำหรับเขา เป็นต้นมา บัวขาวไม่เคยได้แชมป์อะไรอีกเลยจากนั้นมา ปลายปี 2008 ได้เข้ามาร่วมงานกับบัวขาวได้เช็ก เเละพบว่า ตอนนั้น บัวขาวอายุ 26 ย่าง 27 ปี แถมเจ้าตัวพูดเปรย ๆ ว่า ดูทรงแล้วผมถ้าจะไม่ไหวนะ ทีมงานถามลองดูมั้ยหละ"
“ตอนนั้นอาการเส้นหลังขาตึงจนนั่งขัดสมาธิไม่ได้ มีการบาดเจ็บกระดูกข้อมือซ้นเรื้อรัง เอ็นอักเสบที่ข้อเท้าซ้าย เจ็บเอ็นเข่า และเจ็บหัวไหล่ เนื่องจากอุบัติเหตุทางมอเตอร์ไซค์ และจากนั้นค่อย ๆ รักษาต่อเนื่องมาหลายปี ดูแลจนแข็งแรงขึ้น ด้วยความเป็นมืออาชีพและความมีวินัยอย่างเเรงกล้าของเขา”
“บัวขาวอดทนรักษาฝึกตนตามโปรแกรม จนร่างกายแข็งแกร่ง จนหายจากการบาดเจ็บดังกล่าวสิ้น ตอนนี้บัวขาว อายุ 33 ปี ทีมงานพูดได้อย่างเต็มปากว่าบัวขาว แกร่งกว่าตอน อายุ 27 ซะอีก”
“ครั้งแรกร่วมงานกันปี 2009 รวม 43 ไฟต์ ชนะ 40 ไฟต์ ได้แชมป์โลก 9 เส้น จนถึงวันนี้ 2015 ให้คนได้คิดได้ พูด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้กำลังใจ เอาใจช่วย เชียร์ ตำหนิ ถากถาง เสียดสี ใช้ปากคิดแทนสมอง จนถึงวันนี้ ซึ่งเรายอมรับฟัง และเข้าใจ”
“ส่วนเรื่องแพ้ ถูกกรรมการตัดสินให้แพ้ 3 ไฟต์ ซึ่งเราก็ยอมรับและเคารพการตัดสิน คือ 1. แพ้ แอนดี ชาวเวอร์ อย่างกังขา ปี 2009 2. แพ้ เคล ที่พัทยา ที่ไม่ต่อย ยกสี่ ปี 2014 3. แพ้ คะเเนนครั้งนี้ที่ฮ่องกง 2015"
“ก่อนการไปแข่งขันครั้งนี้ ร่างกายบัวขาวได้รับการตรวจความพร้อมเเละดูดีขึ้นมากทั้งด้าน ทักษะการชก กล้ามเนี้อ การบาดเจ็บ เพราะ 4 ไฟต์ที่ผ่านมา บัวขาวห่างรื้อเวทีมานานเกือบครึ่งปีไม่มีการชก เรื่องอะไรก็คงรู้กันดี เพราะห่างจาก การแข่งขันมากไปจะมีผลเสียมากทำให้ออกอาวุธได้ช้า”
“ทักษะที่สำคัญไม่ได้ฝึกทบทวน ชกบ่อยเกินไปก็ไม่ดี แล้วจะทราบอย่างไรว่าบ่อยไปไหม คือ ทีมงานจะตรวจร่างกายทางด้านการแพทย์ เเละด้านสมรรถภาพ ถ้าไม่พร้อมต้องเลื่อนการแข่งขัน หรือไม่ลงแข่งขัน ที่เหมาะสมกับบัวขางเองคือ เดือนละครั้ง หรือนานกว่านั้น อาจชิดกว่านั้นได้ถ้าเช็คแล้วร่างกายพร้อม จากทีมงานด้านต่าง ๆ”
“5 ปีที่ผ่านมา บางคนอาจยังไม่ทราบว่า บัวขาว ได้เซ็น MOU ความร่วมมือเเลกเปลี่ยนทางวิชาการ กับ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ความร่วมมือครั้งนี้ ได้เก็บข้อมูลแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ ออกเเบบพัฒนาวิธีการฝึกซ้อม แบบฝึกสมรรถภาพทางกาย ซึ่งมีคุณค่าทางวิชาการเป็นอย่างมาก และบัวขาวเองก็ได้แสดงออกถึงความสามารถ และความรู้ ในการร่วมคิดค้นออกเเบบพัฒนาแบบฝึกสมรรถภาพทางกายของมวยไทย ให้ทางคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ประจักษ์”
“และให้การร่วมมือ สนับสนุนกับทาง คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นอย่างดี จนมีการพิจารณาจากสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อย่างเป็นเอกฉันท์ อนุมัติ ปริญญาโท ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งช่วงนั้ก็มีกระแสคนไทยบางส่วนตำหนิ หรือพูดจาว่า ดังแล้วมีชื่อเสียงอะไรก็ได้ดูดีไปหมด”
“เรื่องของเกมส์กีฬามีแพ้ชนะเป็นธรรมดา อยากบอกว่าบัวขาวเป็นแค่นักมวยมีหน้าที่ชกบนเวที พี่เลี้ยงหรือทีมงานอาจจะขึ้นไปบนเวที หรือทำเกินหน้าที่ไปบ้างซึ่งเรายอมรับ บัวขาวเป็นนักสู้มีหน้าที่สู้บนเวทีต่อไป คนที่จะยุติการชกได้คือ กรรมการห้ามบนเวทีและแพทย์สนามเท่านั้น แม้กระทั่งการจับแพ้ หรือรวมคะเเนนให้แพ้ หรืออาจยุติด้วย คู่ต่อสู้น็อคบัวขาว หรือนักกีฬายอมแพ้ทิ้งตัวลงนอนบนพื้นเวที”
“ซึ่งบัวขาวได้แสดงบทพิสูจน์ให้ทีมงานยอมรับและนับถือหัวใจของเขา เห็นว่า ในร่างกายเขามีเลือดของนักรบอย่างแท้จริง เขาพร้อมทั้งทางด้านร่างกายเเละจิตใจ สมาธิ ไหวพริบ การแก้สถานะการณ์ ถึงแม้จะเสียเปรียบเรื่องการมองเห็น คนที่ไม่เคยเลือดเข้าตาคงไม่ทราบ ว่ามันเจ็บเเสบยังไง เช็ดยังไงก็ไม่ออก..”
“จึงโดนอาวุธนักแรง จังๆ หลายครั้ง บัวขาวไม่แสดงอาการยุบแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกับคู่ต่อสู้ แสดงอาการและโดนอาวุธบัวขาวอย่างเห็นได้ชัด ทั้ง ๆ ที่เสียเลือดมาก ทั้งสามยก แสดงถึง สภาพร่างกายที่เเข็งแกร่งจนทีมงานเองยังยอมรับ อีกบทพิสูจน์นึงของร่างกายบัวขาว”
“หลังจากกลับมา บัวขาวเข้ารักษาพบทีมแพทย์อย่างละเอียด ทำการตรวจ ดวงตา การมองเห็น ระบบประสาทการทรงตัว ทำการ Scan กระดูก และกระโหลก ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด รวมถึงอวัยวะภายในส่วนอื่นๆ มีอาการภายนอกแค่ฟกช้ำและผิวหนังฉีกขาด ที่โดนศอกเท่านั้น ทีมหมอให้สรุปความเห็น ว่า สามารถพักรักษาตัวแค่ 2 สัปดาห์ ตัดไหมแล้ว ก็ฟิตซ้อมต่อได้เลย แต่ก็จะตรวจประจำรายเดือนเรื่อย ๆ เพื่อติดตามผล”
“ส่วนสมรรถภาพทางจิตใจนั้น บัวขาวได้ ได้แสดงบทพิสูจน์ให้ทีมงานยอมรับและนับถือหัวใจของเขา ช่วงพักยกทุกยก ทีมงานถามตลอดทั้งว่าไหวมั้ย บัวขาวยิ้มและบอกว่าได้ ๆ พี่ ช่วงปลายยกสามทีมงานเอา เอาผ้าที่มีเลือดแดงฉานคลุมหัวบัวขาว ถามบัวขาวอีกว่า ไหวมั้ยพอก่อนไหม บัวขาวเองสัญญาณเต็มที่ ว่าสู้ซิยังไหว”
“หลังจากตัดสินให้แพ้แล้ว ทีมงานพาบัวขาวเข้าห้องพักเพื่อปฐมพยาบาล”
ทีมงาน...ถ้าสมมุติว่ากรรมการให้ชนะจะชกต่อไหม
บัวขาวตอบ...สู้ต่อครับ
ทีมงาน....
“จากใจทีมงาน บัวขาวเดินข้ามขอบเขตเรื่องชนะหรือแพ้ได้แชมป์กี่เส้นอะไรหรือไม่อย่างไรไปนานแล้ว นั่นคือ นักรบมวยไทย จากนักสู้บ้านนอกลูกอีสานคนหนึ่งที่ทำในสิ่งที่ตนเองรักและศรัทธา”
“ในเหตุการณ์วันนั้น ว่าทำไมพี่บัวไม่ทำแบบนั้น ทำไมบัวขาวไม่แก้แบบนี้ ทำไมไม่ชกแบบคนนั้น คือ ช่วงสิบกว่าวินาทีของยกแรก พลาดโดนศอกครับ เเล้วเลือดไหลเข้าตาเกือบตลอด แสบมาก เวลาเลือดเข้าตา มองเห็นข้างเดียวครับ เลยป้องกันและตอบโต้ไม่ถนัดและไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น กลาง ๆ ยกที่ 1 เลือดไหลออกมามากจนเข้าตาข้างที่สองบ้าง หลังจากนั้น พี่บัวขาว มองเห็นแค่กางเกงของคู่ชก ขาว ๆ ลอย ๆ มาเท่านั้น แต่ก็กัดฟันสู้จนถึงวินาทีสุดท้ายครับ หลาย ๆ ครั้งหลายครา ในการชกแต่ละครั้ง มีเรื่องราวต่าง ๆ ในตัวของมันเอง”
“พี่บัวขาวบอกเสมอว่า ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก แค่ให้รู้ตัวเองว่าเราพยามทำให้ถึงที่สุดให้เต็มที่เท่านั้นพอ”
“....มีคนถามว่ากลัวเเพ้มั้ย ตอนนั้นบัวขาวตอบผมไม่ได้คิดเรื่องแพ้หรือชนะแล้ว ผมรู้แต่ว่าถ้ายังสู้ได้ สู้ไหว “ผมหยุดสู้ไม่ได้” เท่านั้น”
“บัวขาวเติบโตขึ้นมีชื่อเสียงขึ้น ในระดับสากล แล้วไม่ลืมชาติกำเนิดไม่ลืมความเป็นมา ยังไปจับปลาในหนองน้ำ, ยังไปเล่นกับเด็ก ๆ ละแวกบ้าน, สิ่งนี้เราอาจจะไม่พบกับคนที่มีชื่อเสียง หรือเงินทองคนอื่น ๆ”
“เกมกีฬา เรื่องแพ้ - ชนะ เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องที่จะชนะแต่ละครั้งนั่นว่ายากแล้ว เรื่องที่จะชนะไปตลอดนั้นยากยิ่งกว่า ทีมงานขอ ให้กำลังใจ นักมวยไทย หรือ ใครก็ตามที่สร้างชื่อเสียง เผยแพร่ ศิลปะ การต่อสู้ที่ ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นการต่อสู้ในท่ายืนที่อันตรายที่สุดในโลก ที่เรียกขานว่า มวยไทย MUAYTHAI ตลอดมาและตลอดไป”
เนื้อหาจากแฟนเพจ BanchamekGym
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***