เอเยนซี – สิ้นสุดการชิงชัยสนามที่ ฮังการี สำหรับการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ก็ถึงคราวหยุดพักครึ่งฤดูกาล 2015 โดยช่วงเกือบ 1 เดือนก่อนถึงสนามถัดไปที่ เบลเยียม ภารกิจของเหล่านักแข่งและทีมงานจากค่ายอื่น คงต้องคิดถึงการระดมสมองหาทางหยุดยั้งความแรงของ เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ที่นำโด่งเป็นจ่าฝูงทั้งประเภทนักขับและทีมผู้สร้าง แต่นอกเหนือจากนั้นคือ เฟอร์รารี ที่จำต้องเร่งหานักแข่งใหม่มาเสริมแทน คิมี ไรค์โคเนน ที่ส่อแววแขวนพวงมาลัยสิ้นปีนี้
ศึก ฟอร์มูลา วัน ฤดูกาล 2015 กับ 10 สนามแรกที่ผ่านพ้นไป กลายเป็น ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกจาก เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ควบคุมสถานการณ์ไว้อยู่หมัดหลังเก็บแชมป์ไป 5 สนาม มี 202 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงบนตารางชิงแชมป์โลก ตามด้วย นิโค รอสเบิร์ก เพื่อนร่วมทีมมี 181 แต้มจากแชมป์ 3 สนาม ส่วนที่ 3 คือ เซบาสเตียน เวทเทล จาก เฟอร์รารี เจ้าของโทรฟีล่าสุดที่ ฮังการี ก่อนพักซีซัน มี 160 แต้ม เรียกว่ายังมีโอกาสแซงหยิบแชมป์โลกในอีก 9 สนามที่เหลือ
ด้าน คิมี ไรค์โคเนน นักแข่งวัยเก๋าคู่หู เวทเทล เกือบได้ขึ้นโพเดียมร่วมกันไปแล้วหลังตีคู่กันมาตั้งแต่ออกสตาร์ท ทว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อเครื่องยนต์มีปัญหาระหว่างแข่งรอบ 41 ที่ ฮังกาโรริง จนต้องออกจากการแข่งขันไปก่อน ทำให้ตอนนี้นักขับจากฟินแลนด์ มี 76 แต้ม อยู่อันดับ 5 ขึ้นโพเดียมสนามเดียวที่ บาห์เรน และแน่นอนว่าด้วยฟอร์มเช่นนี้ทำให้ เฟอร์รารี ที่เพิ่งเปลี่ยนทีมงานใหม่หมดและกระหายความสำเร็จแบบเร่งด่วนจึงรู้สึกไม่ปลื้มและอาจไม่ให้โอกาสอีกหลังจบซีซัน
เมาริซิโอ อาร์ริวาเบเน ทีมบอสคนใหม่ของ “ม้าลำพอง” หลีกเลี่ยงตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับอนาคตของ “ดิ ไอซ์แมน” มาตลอดช่วงหลังเพราะนักแข่งจะหมดสัญญากับทีมหลังจบซีซันพอดี บอกเพียงแค่ว่าขอดูผลงานที่เหลือก่อนพิจารณากันอีกรอบ แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะต่อสัญญาออกไปดังนั้นจึงต้องหาตัวตายตัวแทนใหม่มานั่งเก้าอี้ร่วมแทร็กกับ เวทเทล โดยมีนักขับอยู่ 3 คนที่เป็นข่าวพัวพันมาตลอด
เต็งหนึ่งเลยคือ วอลต์เตรี บอตตาส ของ วิลเลียมส์ นักแข่งรุ่นน้องบ้านเดียวกับ ไรค์โคเนน ผลงานฤดูกาลนี้นับว่าน่าสนใจ รั้งอันดับ 4 บนตารางชิงแชมป์นักขับ ส่วนปีที่แล้วขึ้นโพเดียม 6 สนามพาต้นสังกัดจบอันดับ 3 ประเภททีมผู้สร้าง จนถูกสื่อยกให้เป็นอีกหนึ่งนักแข่งอนาคตไกลของวงการ แม้ยังมีสัญญากับ วิลเลียมส์ จนถึงปีหน้าแต่ก็ใช่ว่าการฉีกสัญญาจะเป็นไปไม่ได้สำหรับทีมเงินถุงเงินถังจากฝั่ง มาราเนลโล
นักแข่งวัย 25 ปี สไตล์การขับไม่โฉ่งฉ่างมากหากเทียบกับ ลูอิส แฮมิลตัน หรือ เวทเทล แต่มีดีที่ความสุขุม รู้จังหวะผ่อน-เบา แถมรับมือกับความกดดันเวลาถูกไล่ล่าจากด้านหลังได้ดี ดังนั้นจึงไม่ค่อยเห็นเจ้าตัวต้องออกจากการแข่งขันเพราะรถเสียกลางทางบ่อยเหมือนคนอื่น ทว่าปัญหาอย่างเดียวคือ เซอร์ แฟรงค์ วิลเลียมส์ ทีมบอส ต้องการยื้อให้นักแข่งมือ 1 ของทีมอยู่จนครบสัญญาก่อนคือปีหน้า และพาจบท็อป 3 ให้ได้เหมือนปีก่อน
ตัวเลือกถัดมาคือ แดเนียล ริคคิอาร์โด จาก เรด บูลล์ โดย เฟอร์รารี ให้ความสนใจมาตั้งแต่ช่วงเปิดซีซัน เพราะผลงานจบอันดับ 3 ปีที่แล้วแบบพลิกความคาดหมายเข้าตากรรมการ “ม้าลำพอง” ยิ่ง นอกจากนี้สิ่งที่ ริคคิอาร์โด ได้เปรียบกว่า บอตตาส คือคาแร็กเตอร์และภาพลักษณ์ที่ “ขายได้” แถมพูดภาษาอิตาเลียนได้ด้วยดังนั้นตัดปัญหาเรื่องการสื่อสารกับทีมงานในแพ็ดด็อกไปได้เลย คำถามคือหากจับคู่ เวทเทล อีกรอบจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่เพราะตอนอยู่ทีมเดียวกันก็ต่างคนต่างแข่งมากกว่า และบอร์ดของ เฟอร์รารี ต้องคุยกับทีมงาน เรด บูลล์ เยอะเป็นพิเศษเพราะนักแข่งมีสัญญายาวจนถึงปี 2018
สุดท้ายคือ นิโค ฮัลเคนเบิร์ก จาก ฟอร์ซ-อินเดีย ที่เพิ่งกลับมาแจ้งเกิดบนแทร็กอีกครั้งจากผลงานคว้าแชมป์ที่ เลอ มังส์ ในรายการ เวิลด์ เอ็นดูรานซ์ กับทีม พอร์ช จนทำให้ “ม้าลำพอง” ต้องหันมาชายตามองหลังเคยคิดจะทาบทามมาอยู่ด้วยเมื่อ 2 ปีก่อน ขณะที่ผลงานบนแทร็ก เอฟวัน ถึงจะไม่เปรี้ยงปร้างมากแต่ก็เข้ากับกลยุทธ์การแข่งของ เฟอร์รารี ที่อาจใช้นักแข่งวัย 27 ปี เป็นกันชนให้ เวทเทล ยามโดนคู่แข่งไล่จี้ แถมเอาไว้ตีตลาดที่เยอรมนีได้อีกเพราะมีนักแข่งจากเมืองเบียร์อยู่ทีมเดียวกันถึง 2 คน
จากตัวเลือกทั้งหมดที่ลิสต์มาเห็นชัดว่า เฟอร์รารี ที่มองถึงความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้นเพราะห่างหายกับตำแหน่งแชมป์โลกไปนานหลายปีแล้ว ไม่ยอมเสียเวลาดึงดาวรุ่งหรือนักขับฝึกหัดขึ้นมาแน่นอน อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับผลงานของ “ดิ ไอซ์แมน” ด้วยว่าจะเป็นเช่นไร หากจบศึกสุดท้ายที่ อาบู ดาบี แล้วคะแนนรวมไม่ติดท็อป 5 แฟนๆคงต้องโบกมืออำลาอดีตแชมป์โลกจอมสุขุมปี 2007 อย่างเป็นทางการ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *