แอนดี เมอร์เรย์ นักเทนนิสมือ 3 ของโลกชาว ยืนยันขอเรียกความฟิต กลับมาช่วย สหราชอาณาจักร ไล่ล่าแชมป์ศึกประเภททีมชาย "เดวิส คัพ" หลังเอาชนะ ฝรั่งเศส รองแชมป์เก่า 3-1 คู่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ เลย์ตัน ฮีวิตต์ อดีตมือ 1 โลกชาวออสซี รับโอกาสถึงรอบชิงฯ ริบหรี่
แชมป์แกรนด์ สแลม 2 สมัย ลงมาเช็กบิลในการดวลแบบเดี่ยวชนมือ ปราบ กิลล์ส ซิมง 4-6 , 7-6 (7-5) , 6-3 และ 6-0 ช่วยให้ ทีมหวดเลือดบริติช ตีตั๋วสู่รอบรองชนะเลิศครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1981
หวดวัย 28 ปี กรำศึกหนัก ตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่พ่าย โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ คู่ปรับชาวสวิส รอบ 4 คนสุดท้าย "วิมเบิลดัน 2015" ซึ่งตามปกติ เจ้าตัว มักจะฉวยโอกาสพักฟื้น หลังเสร็จสิ้นโปรแกรม แกรนด์ สแลม บนคอร์ตหญ้า
ทว่าความมุ่งมั่นต่อบ้านเกิด กลายเป็นแรงขับเคลื่อน เมอร์เรย์ ข้ามขีดจำกัดของตัวเอง เก็บชัยประเภทเดี่ยว ทั้ง 2 แมตช์ และประเภทคู่อีก 1 แมตช์ (กับ เจมี พี่ชาย) พา เกรท บริเตน ซึ่งครองแชมป์ครั้งสุดท้าย ปี 1936 ลุ้นเข้ารอบชิงฯ หนแรกนับตั้งแต่ปี 1978
เมอร์เรย์ กล่าว "เรามาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว ดังนั้นทุกๆ แมตช์ต่อจากนี้ล้วนมีความหมายอย่างยิ่ง ผมคิดว่า ผมจะพยายามทุกอย่าง เพื่อกลับมาลงแข่ง เพราะผมสนุกกับการเล่น เดวิส คัพ มาตลอด แต่ตอนนี้เราอยู่ เวิลด์ กรุป เตรียมลุยแมตช์สำคัญกับผู้เล่นชั้นนำ มันยากที่จะไม่ตื่นเต้น"
"แน่นอนว่า มันจะต้องชดเชยด้วยอะไรบางอย่าง โดยทั่วไป ผมจะหยุดพักสัก 10 วัน หลังจบการแข่ง วิมเบิลดัน แต่คตวามทรงจำของบรรยากาศ และแฟนๆ อันน่าทึ่งที่คุณเล่นเพื่อประเทศ คุณจะไม่ได้รับสิ่งนั้นจากแมตช์ไหนๆ"
ด้าน ฮีวิตต์ ลูกพี่ใหญ่แห่งทีม ออสเตรเลีย ที่คอยประคองดาวรุ่งอย่าง นิค คีร์กอส และ ธานาซี คอกคินาคิส ยอมรับเจองานหนัก เมื่อทราบว่า ต้องโคจรมาดวลกับ เมอร์เรย์ และผองเพื่อน วันที่ 18-20 กันยายนนี้
หวดวัย 34 ปี กล่าว "เราอยู่ในสายแข็ง อาร์เจนตินา จะพบ เบลเยียม ในสายล่าง ซึ่งน่าจะอ่อนกว่า ผมมองว่า ตัวเองสามารถทำหน้าที่พี่เลี้ยงของทีม โดยเฉพาะการเล่นคู่ แต่บรรดาเด็กหนุ่มต่างเป็นอนาคตของทีม ผมต้องช่วยเหลือพวกเขามากสุดเท่าที่ทำได้"
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *