เกิดเหตุวุ่นวายจนทัพลูกยางสาวไทยต้องโดนกักตัวอยู่ที่ด่าน ตม. ฮ่องกง นาน 20 นาที เนื่องจากไม่มีวีซ่าแข่งขัน เดือดร้อนถึง “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ต้องเข้ามาเคลียร์ จึงสามารถเดินทางไปยังที่พักท่ามกลางบรรยากาศกองเชียร์ไทยที่ตามมาให้กำลังใจถึงสนามบิน
ความเคลื่อนไหวของทีมวอลเลย์บอลสาวไทย ในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2015 ซึ่งทั้งหมดได้เดินทางมาถึงฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว ด้วยสายการบินคาร์เธ่ย์แปซิฟิค เที่ยวบิน CX640 โดยบินมาจากกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยใช้เวลาเดินทางจากบราซิลถึงฮ่องกง ทั้งหมด 23 ชั่วโมง ทันทีที่ไปถึง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ไม่ยอมให้ทีมสาวไทยออกจากสนามบิน โดยให้เหตุผลว่า ถ้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวไม่ต้องใช้วีซ่า แต่ถ้ามาแข่งขันกีฬาจะต้องใช้วีซ่า หรือใบรับรองจากองค์กรที่จัดแข่งขันมาแสดง ซึ่งระหว่างนั้นนักกีฬาก็อธิบายให้กับเจ้าหน้าที่ว่ามาแข่งทุกครั้งไม่เคยใช้วีซ่า แต่ทาง ตม. ก็ไม่ให้ผ่านเนื่องจากว่าต้องทำตามหน้าที่
อย่างไรก็ตาม “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้เดินตามมาทีหลังพร้อมนำเอกสารมายืนยันกับ ตม. ก่อนทั้งหมดจะออกมาได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขันรอต้อนรับอยู่ด้านนอก ซึ่งมีกองเชียร์ไทยมารอต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครึ้น มีป้ายไทยแลนด์ มีนักเรียนใส่เสื้อยืดปักชื่อ Thailand ยืนรอต้อนรับสาวไทยพร้อมสะบัดธงชาติไทยในมือ ชูป้ายคำว่า Welcome to Hong Kong ก่อนที่นักกีฬาทั้งหมดจะออกเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก คือ Harbour Plaza Metropolis ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีที่ตั้งติดกับ Hong Kong Coliseum สนามแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีก็ถึงโรงแรม
ขณะที่ทีมชุดนี้ มีผู้เล่นทั้งหมด 12 คน ประกอบไปด้วย วิลาวัลย์ อภิญญาพงศ์, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์, ปิยะนุช แป้นน้อย, มลิกา กันทอง, อัจฉราพร คงยศ, หัตถยา บำรุงสุข, พรพรรณ เกิดปราชญ์, ชัชชุอร โมกศรี และ พิมพิชญา ก๊กรัมย์ ขณะเดียวกัน ก็จะมี 2 ผู้เล่นอย่าง วรรณา บัวแก้ว และ จรัสพร บรรดาศักดิ์ บินตามไปสมทบที่ฮ่องกงด้วย ทำให้ทีมสาวไทยในสนามนี้ จะมีผู้เล่นทั้งหมด 14 คน เท่ากับที่สนามแรก ที่แข่งในประเทศไทย
สำหรับสถานการณ์ของทีมตบสาวไทยในตอนนี้หลังจบไปแล้ว 2 สนามแข่งทั้งหมด 6 นัด ชนะ 3 นัด และแพ้ 3 นัด มี 8 คะแนน อยู่อันดับ 7 ของตารางรวม ขณะที่โปรแกรมการแข่งขันในสนามที่ 3 เริ่มวันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 19.30 น. พบ จีน, วันที่ 17 กรกฎาคม เวลา 17.30 น. พบ สหรัฐอเมริกา และวันที่ 18 กรกฎาคม เวลา 16.30 น. พบ ญี่ปุ่น
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***