xs
xsm
sm
md
lg

ลูกยาง WGP ทำสื่อไทยน้ำตาร่วง / แมวดำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

แม้การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ 2015 สนามแรกที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก จบไปแล้ว ขณะที่ทีมลูกยางสาวไทย เก็บชัยชนะ 1 นัดเหนือ เซอร์เบีย แพ้ 2 นัดต่อ ญี่ปุ่น, บราซิล ระหว่างนี้ก็กำลังเตรียมตัวลงลุยต่อสนามที่ 2 ที่บราซิล แต่เรื่องที่ลืมไม่ลง และคงมีอีกหลายคนไม่อาจลืมได้เลย คือมาตรการจัดการแข่งขันในครั้งนี้

ก่อนการแข่งขันที่ประเทศไทย จำได้เลยว่าผู้บริหารสมาคมออกมาพูดเรื่องการจัดครั้งนี้ ต้องเต็มร้อย เต็มที่ เพราะแฟนกีฬาตั้งใจจะมาชมการแข่งขันมาก โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ อัดเข้ามาเพื่อยกระดับการเป็นเจ้าภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเงินซื้อมีวิดีโอชาเลนจ์ จากอิตาลี มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เพื่อตัดสินลูกก้ำกึ่งซึ่งอาจมีผลต่อการแพ้ชนะ รวมทั้งยังมีกล้องสโลโมชั่น 7 ตัว สำหรับชมภาพช้าได้อย่างเต็มอิ่มชัดเจนในอารมณ์ นอกจากนี้ยังมีการนำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่า 100 นาย ดูแลทั้งในและนอกสนาม

ซึ่งต้องยอมรับว่าการจัดครั้งนี้ถือว่าเข้มข้นจริงๆ โดยเฉพาะกับสื่อมวลชนไทยตาดำๆ ทั้งหลายที่โดนผลกระทบไปเต็มๆ ตั้งแต่การส่งเอกสารลงทะเบียนทำบัตรสำหรับเข้ารายงานผลการแข่งขัน หลายสำนักเฝ้าเพียรพยายามส่งข้อมูลเพื่อทำบัตร บางสำนักโชคดีครั้งเดียวก็ผ่านแล้ว แต่เท่าที่เห็นมีหลายเจ้าที่ลงทะเบียนเอกสารส่งไปครั้งก็ไม่ผ่าน สองครั้งก็ไม่ผ่าน จนกว่าจะผ่านได้บัตรไอดีการ์ดนั้นสุดยากเย็นยังกะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในยุคนี้ ที่ไม่รู้จะสอบไปทำไมตั้งหลายครั้ง สุดท้ายให้ไปรับบัตรหน้างาน พอไปถึงดันไม่มีชื่อเสียเฉยๆ แถมบางสำนักข่าวแจ้งลงทะเบียนชื่อหนึ่ง แต่พอรับไอดีการ์ดดันไปเปลี่ยนชื่อสำนักข่าวให้เสร็จสรรพ แค่นั้นยังน้อยไปบางสำนักข่าวลงทะเบียนไปแล้วกลับไม่ได้ไอดีการ์ดก็มี วุ่นวายกันยกใหญ่

ยังไม่จบ การเข้าทำงานของสื่อมวลชนในรายการนี้นอกจากจะมีไอดีการ์ดแล้ว ยังมีการตรวจระดับเข้มข้นด้วยการต้องนำบัตรผู้สื่อข่าวของกรมประชาสัมพันธ์เข้าแลกไอดีการ์ดเป็นรายวัน ตลอด 3 วันของการแข่งขัน แม้จะยุ่งยากแต่สื่อทุกสำนักต่างก็เข้าใจว่านี่เป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับเอ ที่มีนักกีฬาระดับโลกมาร่วมชิงชัย ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่ต้องอึ้งจากการสกรีนสื่ออย่างละเอียด ทว่าเมื่อเข้าไปถึงพื้นที่ปฏิบัติงานสื่อในสนาม กลับพบใครก็ไม่ทราบห้อยไอดีการ์ดสื่อมวลชน ระบุสำนักข่าวชั้นนำของประเทศมาเสร็จสรรพ ทว่าแม้แต่นักข่าวร่วมชายคายังงงๆ ว่าแกเป็นใครกันไม่เคยเห็นหน้าในที่ทำงานมาก่อน แต่ดันมีไอดีการ์ดจากสื่อเดียวกันมาโผล่ แถมยังสวมใส่ชุดเชียร์ พร้อมป้ายเชียร์แบบจัดเต็ม ก่อนที่วันสุดท้ายจะจับได้ว่าเขาและเธอเหล่านั้นเป็นเพียงแฟนกีฬาที่ปลอมไอดีการ์ดมามั่วนิ่มชมการแข่งขัน จึงมีคำถามถึงฝ่ายจัดว่าเมื่อมีไอดีการ์ดปลอม แต่ไม่มีบัตรผู้สื่อข่าวที่นักข่าวตัวจริงต้องขึ้นทะเบียนกับกรมประชาสัมพันธ์มาโชว์นั้น ก็สามารถเข้าชมเกมได้ด้วยหรือ?

อีกเรื่องที่ต่อเนื่องกันมาเป็นเรื่องการที่นักข่าวต้องนำบัตรที่กรมประชาสัมพันธ์ออกให้มาแลกไอดีการ์ด วันต่อวันนั้น เจ้าหน้าที่ซึ่งรับฝากก็เป็นเด็กฝึกงานจากที่ไหนก็ไม่ทราบ พอแลกบัตรเสร็จเข้าสู่สนาม เมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขันต้องนำไอดีการ์ดมาแลกคืน ทว่าพอถึงเวลาจริง เจ้าหน้าที่แลกบัตรกลับเก็บข้าวของ(รวมถึงบัตรกรมประชาสัมพันธ์) ติดตัวกลับบ้านไปด้วยหน้าตาเฉย ทีนี้ตัวกระจอกข่าวสาวรายนั้นด้วยความฉุนขาดที่เจ้าหน้าที่วัยละอ่อนนำบัตรของตนไปด้วยจึงออกอาการไม่พอใจ ใส่เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดเป็นชุด ก่อนที่จะตามบัตรประจำตัวสื่อมาคืนได้ แต่กลับดันให้นักข่าวรายนั้นต้องขอโทษในความผิดที่ไปเม้งแตกทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของตนแท้ๆ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดจึงพรั่งพรูออกมา

ที่เล่ามาเสียยืดยาวไม่ได้อยากจะโจมตีใคร หรือต้องการปกป้องเพื่อนร่วมอาชีพ แต่การจัดการแข่งขันระดับนี้ ความผิดพลาด และไม่สมบูรณ์พร้อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทว่าฝ่ายจัดต้องเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ หากต้องการจัดอีก ครั้งหน้าก็ควรนำข้อผิดพลาดและบกพร่องเหล่านี้ไปแก้ไข....

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น