คอลัมน์ BUZZER BEAT โดย MVP
วนเวียนอยู่กับรอบชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) อยู่เสียนาน เกิดนึกขึ้นได้ว่า เกิดความเปลี่ยนแปลงภายในทีมแกร่งอย่าง ชิคาโก บูลล์ส หลังตะเพิด ทอม ธิโบดัว หัวหน้าโค้ช เซ่นความผิดหวัง รอบรองชนะเลิศ สายตะวันออก แก่ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส 2-4 เกม แต่งตั้ง เฟร็ด ฮอยเบิร์ก สัญญามูลค่า 5 ปี 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 750 ล้านบาท)
สำหรับคนที่เป็นแฟน บูลล์ส คงจะนึกเสียดายอยู่บ้าง เนื่องจาก ธิโบดัว ก็ถือว่าทำผลงานได้ดีมาตลอด ชนะ 255 แพ้ 139 แต่ผลงานโพสต์ซีซันเพียง 23-28 หรือปลุกปั้นทีมจนกลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมรับเหนียวแน่น ส่วนเกมรุกยังฝืดสม่ำเสมอ ฤดูกาลที่ 2014-15 หากไม่ได้ เพา กาซอล ฟอร์เวิร์ดจอมเก๋า มาเสริม หรือ จิมมี บัตเลอร์ การ์ดกึ่งฟอร์เวิร์ด เล่นดีแบบน่าตกใจ บางทีก็อาจไม่ได้ขึ้นสูงถึงทีมวางอันดับ 3
การรอคอยความสำเร็จมานานตั้งแต่ ไมเคิล จอร์แดน รีไทร์ปี 1998 ธิโบดัว ทำได้ใกล้เคียงสุด เพียงรอบชิงแชมป์สาย ปี 2011 ซึ่งพ่ายแก่ ไมอามี ฮีต ยุค “บิ๊กทรี” ได้แก่ เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช นับจากนั้นก็ต้องเจอปัญหาการบาดเจ็บของ เดอร์ริค โรส การ์ดจ่ายตัวเก่ง พักยาวร่วม 2 ฤดูกาล ดังนั้น “ธิบส์” ที่ทำงานมานาน 5 ปี ก็คงต้องมาถึงวันแยกทาง
การ์ ฟอร์แมน ผู้จัดการทั่วไป เลือกผลักดัน โค้ชหนุ่มวัย 42 ปี ที่ต่างมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ทั้งผู้ช่วยโค้ชระดับมหาวิทยาลัยกับผู้เล่นปีสุดท้าย และ ฟอร์แมน ทำหน้าที่แมวมอง สมัย ฮอยเบิร์ก ยังเป็นขุนพล บูลล์ส ระหว่างปี 1999 - 2003 ก่อนจะย้ายไป มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส และปิดฉากอาชีพอีก 2 ปีต่อมา ผ่านการร่วมงานกับยอดโค้ชทั้ง แลร์รี บราวน์, แลร์รี เบิร์ด, ทิม ฟลอยด์, ฟลิป ซอนเดอร์ส และเควิน แม็คเฮล
โปรไฟล์การทำงานระดับมหาวิทยาลัย ถือว่าไม่เลว ปลุกปั้น ไอโอวา สเตท ไซโคลนส์ จากสถิติแพ้มากกว่าชนะ เป็น 16-16 ตั้งแต่ซีซันแรก (2010-11) นับจากนั้นก็เก็บชัย 23 เกมเป็นอย่างน้อย ตลอด 4 ฤดูกาลล่าสุด จึงกลายเป็นโค้ชชนะเกิน 100 เกมเร็วสุดของสถาบัน (148 เกม) เมื่อปี 2014
ด้านบุคลิกภาพ ธิโบดัว เป็นแบบจอมเฮี้ยบยุคดั้งเดิม ไม่มีอะไรนอกเสียจากมุมานะกับการทำงาน ต่างจาก ฮอยเบิร์ก ในมาด “มิสเตอร์ไนซ์กาย” และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงทีม ดังนั้นจึงน่าจะเข้ากับผู้เล่นได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับ สตีฟ เคอร์ ซึ่งพา โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เข้ารอบชิงชนะเลิศฯ ครั้งแรกรอบ 40 ปี
อย่างที่เราทราบกันดีว่า แชมป์ 6 สมัย ยังมีปัญหากับการเล่นเกมรุก การดึง ฮอยเบิร์ก มารับตำแหน่งโค้ช อาจแสดงว่าเป็นการแก้ปัญหาตรงจุด เนื่องจาก ไอโอวา สเตท ไซโคลนส์ ยึดอันดับ 2 การทำคะแนนสูงสุดของ บีซีเอส คอนเฟอเรนซ์ และยิง 3 คะแนน แม่นยำกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว สไตล์การเล่นดูจะคล้ายคลึงกับบางทีมที่กำลังขับเคี่ยวกับ “แคฟส์” อยู่
ส่วนเกมรับ แชมป์ 6 สมัย คงไม่ต้องกังวล เพราะ ฮอยเบิร์ก ก็ต้องการรั้ง เอเดรียน กริฟฟิน มือขวาของ ธิโบดัว ช่วยงานต่อไป ขณะที่ขุมกำลังอื่นๆ ทั้ง โจอาคิม โนอาห์ เซ็นเตอร์จอมขยัน , ทาจ์ กิ๊บสัน และ จิมมี บัตเลอร์ น่าจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา บางที ชิคาโก บูลล์ส ฤดูกาลหน้า อาจมีสมดุลระหว่างการทำแต้มกับการป้องกันที่ดีขึ้น
แม้ ฮอยเบิร์ก จะไม่เคยคุมทีมใดๆ ใน NBA มาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ประสบการณ์ เพราะนับตั้งแต่วางมือ เนื่องจากปัญหาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ปี 2005 ก็มาทำงาน ฟรอนท์ ออฟฟิศ ของ ทิมเบอร์วูล์ฟส ก่อนผันตัวมาคุม ไอโอวา สเตท ปี 2007 เหมือนกับ เคอร์ ที่เป็นผู้บรรยาย และเฝ้าสำนักงาน ฟีนิกซ์ ซันส์ ก่อนขึ้นมาทำงานโค้ช กอปรกับขุมกำลัง บูลล์ส ชุดปัจจุบัน ก็ยังแกร่งพอจะได้ลุ้นแชมป์บ้าง ซีซันหน้าจะเป็นอย่างไร คงต้องรอลุ้นกันต่อ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
วนเวียนอยู่กับรอบชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) อยู่เสียนาน เกิดนึกขึ้นได้ว่า เกิดความเปลี่ยนแปลงภายในทีมแกร่งอย่าง ชิคาโก บูลล์ส หลังตะเพิด ทอม ธิโบดัว หัวหน้าโค้ช เซ่นความผิดหวัง รอบรองชนะเลิศ สายตะวันออก แก่ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส 2-4 เกม แต่งตั้ง เฟร็ด ฮอยเบิร์ก สัญญามูลค่า 5 ปี 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 750 ล้านบาท)
สำหรับคนที่เป็นแฟน บูลล์ส คงจะนึกเสียดายอยู่บ้าง เนื่องจาก ธิโบดัว ก็ถือว่าทำผลงานได้ดีมาตลอด ชนะ 255 แพ้ 139 แต่ผลงานโพสต์ซีซันเพียง 23-28 หรือปลุกปั้นทีมจนกลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมรับเหนียวแน่น ส่วนเกมรุกยังฝืดสม่ำเสมอ ฤดูกาลที่ 2014-15 หากไม่ได้ เพา กาซอล ฟอร์เวิร์ดจอมเก๋า มาเสริม หรือ จิมมี บัตเลอร์ การ์ดกึ่งฟอร์เวิร์ด เล่นดีแบบน่าตกใจ บางทีก็อาจไม่ได้ขึ้นสูงถึงทีมวางอันดับ 3
การรอคอยความสำเร็จมานานตั้งแต่ ไมเคิล จอร์แดน รีไทร์ปี 1998 ธิโบดัว ทำได้ใกล้เคียงสุด เพียงรอบชิงแชมป์สาย ปี 2011 ซึ่งพ่ายแก่ ไมอามี ฮีต ยุค “บิ๊กทรี” ได้แก่ เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช นับจากนั้นก็ต้องเจอปัญหาการบาดเจ็บของ เดอร์ริค โรส การ์ดจ่ายตัวเก่ง พักยาวร่วม 2 ฤดูกาล ดังนั้น “ธิบส์” ที่ทำงานมานาน 5 ปี ก็คงต้องมาถึงวันแยกทาง
การ์ ฟอร์แมน ผู้จัดการทั่วไป เลือกผลักดัน โค้ชหนุ่มวัย 42 ปี ที่ต่างมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ทั้งผู้ช่วยโค้ชระดับมหาวิทยาลัยกับผู้เล่นปีสุดท้าย และ ฟอร์แมน ทำหน้าที่แมวมอง สมัย ฮอยเบิร์ก ยังเป็นขุนพล บูลล์ส ระหว่างปี 1999 - 2003 ก่อนจะย้ายไป มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส และปิดฉากอาชีพอีก 2 ปีต่อมา ผ่านการร่วมงานกับยอดโค้ชทั้ง แลร์รี บราวน์, แลร์รี เบิร์ด, ทิม ฟลอยด์, ฟลิป ซอนเดอร์ส และเควิน แม็คเฮล
โปรไฟล์การทำงานระดับมหาวิทยาลัย ถือว่าไม่เลว ปลุกปั้น ไอโอวา สเตท ไซโคลนส์ จากสถิติแพ้มากกว่าชนะ เป็น 16-16 ตั้งแต่ซีซันแรก (2010-11) นับจากนั้นก็เก็บชัย 23 เกมเป็นอย่างน้อย ตลอด 4 ฤดูกาลล่าสุด จึงกลายเป็นโค้ชชนะเกิน 100 เกมเร็วสุดของสถาบัน (148 เกม) เมื่อปี 2014
ด้านบุคลิกภาพ ธิโบดัว เป็นแบบจอมเฮี้ยบยุคดั้งเดิม ไม่มีอะไรนอกเสียจากมุมานะกับการทำงาน ต่างจาก ฮอยเบิร์ก ในมาด “มิสเตอร์ไนซ์กาย” และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงทีม ดังนั้นจึงน่าจะเข้ากับผู้เล่นได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับ สตีฟ เคอร์ ซึ่งพา โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เข้ารอบชิงชนะเลิศฯ ครั้งแรกรอบ 40 ปี
อย่างที่เราทราบกันดีว่า แชมป์ 6 สมัย ยังมีปัญหากับการเล่นเกมรุก การดึง ฮอยเบิร์ก มารับตำแหน่งโค้ช อาจแสดงว่าเป็นการแก้ปัญหาตรงจุด เนื่องจาก ไอโอวา สเตท ไซโคลนส์ ยึดอันดับ 2 การทำคะแนนสูงสุดของ บีซีเอส คอนเฟอเรนซ์ และยิง 3 คะแนน แม่นยำกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว สไตล์การเล่นดูจะคล้ายคลึงกับบางทีมที่กำลังขับเคี่ยวกับ “แคฟส์” อยู่
ส่วนเกมรับ แชมป์ 6 สมัย คงไม่ต้องกังวล เพราะ ฮอยเบิร์ก ก็ต้องการรั้ง เอเดรียน กริฟฟิน มือขวาของ ธิโบดัว ช่วยงานต่อไป ขณะที่ขุมกำลังอื่นๆ ทั้ง โจอาคิม โนอาห์ เซ็นเตอร์จอมขยัน , ทาจ์ กิ๊บสัน และ จิมมี บัตเลอร์ น่าจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา บางที ชิคาโก บูลล์ส ฤดูกาลหน้า อาจมีสมดุลระหว่างการทำแต้มกับการป้องกันที่ดีขึ้น
แม้ ฮอยเบิร์ก จะไม่เคยคุมทีมใดๆ ใน NBA มาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ประสบการณ์ เพราะนับตั้งแต่วางมือ เนื่องจากปัญหาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ปี 2005 ก็มาทำงาน ฟรอนท์ ออฟฟิศ ของ ทิมเบอร์วูล์ฟส ก่อนผันตัวมาคุม ไอโอวา สเตท ปี 2007 เหมือนกับ เคอร์ ที่เป็นผู้บรรยาย และเฝ้าสำนักงาน ฟีนิกซ์ ซันส์ ก่อนขึ้นมาทำงานโค้ช กอปรกับขุมกำลัง บูลล์ส ชุดปัจจุบัน ก็ยังแกร่งพอจะได้ลุ้นแชมป์บ้าง ซีซันหน้าจะเป็นอย่างไร คงต้องรอลุ้นกันต่อ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *