ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014-15 รูดม่านอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นธรรมเนียมที่ต้องมีการจัดทีมยอดเยี่ยมมาฝากกัน ไม่เว้นแม้แต่สำนักข่าว “เอเอฟพี” ซึ่งลองไปดูกันว่าระบบ 4-4-2 นี้ถูกใจใครบ้าง
ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) - เริ่มต้นที่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่ดีนักกับการถูกวิจารณ์ด้อยเรื่องแรงปะทะ รวมถึงตัดลูกกลางอากาศที่ต้องเจอภายใต้สไตล์ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แต่มือกาวทีมชาติสเปนพิสูจน์ด้วยการมีปฏิกิริยาปัดป้องอันยอดเยี่ยม การถูกตามล่าตัวจาก รีล มาดริด ก็เสมือนอีกหนึ่งประกาศนียบัตรว่าสอบผ่านฉลุย
บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (เชลซี) - จัดว่าเป็นแบ็กขวาที่รูปร่างใหญ่มาก แต่เต็มไปด้วยความคล่องแคล่ว แข้งเซิร์บถือเป็นต้นแบบของกองหลังชั้นดีสามารถเล่นเซนเตอร์ได้ด้วย เหนืออื่นใดประจำการริมเส้นนั้น รีดศักยภาพได้ดีที่สุดเหมือนเป็นด่านแรกคอยสกรีนให้บรรดาตัวกลางทำงานง่ายขึ้น
โชเซ ฟอนเต (เซาแธมป์ตัน) - การเสีย เดยัน ลอฟเรน ให้ ลิเวอร์พูล เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาไม่มีผลเลย เมื่อ ฟอนเต สามารถบัญชาแบ็กโฟร์ “นักบุญ” ได้อย่างไร้ที่ติการเสีย 33 ประตูจาก 38 นัด น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากแชมป์ เชลซี ถือเป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งแข้งโปรตุเกสรายนี้ได้เป็นอย่างดี
จอห์น เทอร์รี (เชลซี) - ถ้ามีบางนัดที่ โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ เชลซี ถูกกล่าวหาว่ามาเพื่ออุด ดังนั้น เทอร์รี ก็เปรียบเสมือนคนขับรถบัสคอยขัดขวางไม่ให้คู่ต่อสู้พังประตู แข้งวัย 34 ปี กลับมาเล่นดีอีกครั้ง ป้ายผ้าที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็บ่งบอกทุกอย่างดีอยู่แล้วว่าคือ “กัปตัน, ผู้นำ, ตำนาน” อย่างแท้จริง
ไรอัน เบอร์ทรานด์ (เซาแธมป์ตัน) - ก่อนหน้านี้ ตกเป็นตัวสำรอง แอชลีย์ โคล ที่ เชลซี จนถูกขายออกมาด้วยค่าตัวที่ว่ากันว่าสูงถึง 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 500 ล้านบาท) แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะคุ้มสุดคุ้มที่ “นักบุญ” ได้ตัวแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษวัย 25 ปีรายนี้มาประจำการ
เอเดน ฮาซาร์ด (เชลซี) - จะต้องสาธยายอะไรมากมาย เพราะปีกทีมชาติเบลเยียมของ เชลซี รายนี้การันตีด้วยตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ สมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ รวมถึงอีกสถาบัน คือ สมาคมนักข่าวอังกฤษ พัฒนาฝีเท้าขึ้นมายิงไปทั้งสิ้น 14 ประตู นอกจากนี้ ยังจ่ายอีก 9 ประตู
ซานติ กาซอร์ลา (อาร์เซนอล) - อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ชาวฝรั่งเศส ปรับบทบาทให้แข้งทีมชาติสเปนจากตัวรุกเต็มสูบมายืนกลางสนามคอยคุมจังหวะทั้งรุกและรับ ซึ่งก็เหมือนว่าจะทำได้ดีช่วงปลายฤดูกาล ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งที่เล่นได้หลากหลายถ้าริมเส้นเต็มก็มาอยู่เป็นหัวใจ ดังนั้นถ้ารักษาฟอร์มเก่งได้ปีหน้าสาวก “ปืน” ก็ยิ้มได้
เชส ฟาเบรกาส (เชลซี) - ย้ายจาก บาร์เซโลนา กลับมาโลดแล่นบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนว่าตัดสินใจได้อย่างถูกต้องคุมแดนกลางให้ เชลซี คว้าแชมป์ลีก ที่สำคัญคือเป็นแชมป์ครั้งแรกของกองกลางทีมชาติสเปนวัย 28 ปี ก่อนหน้านี้ มูรินโญ นายใหญ่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็บอกแล้วว่าย้ายมาเพื่อแชมป์ ซึ่งก็จริงๆ
อเล็กซิส ซานเชซ (อาร์เซนอล) - แข้งบิ๊กเนมสุดคุ้มที่ อาร์เซนอล ซื้อมาจาก บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,750 ล้านบาท) ปีแรกก็ซัด 16 ประตูบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ทุกรายการยิงไป 24 ประตูจาก 52 นัด เรียกได้ว่าทั้งยิงทั้งจ่ายสารพัดประโยชน์แข้งชิลีเล่นปีกก็ได้เล่นกองหน้าก็ดี
เซร์คิโอ อกูเอโร (แมนเชสเตอร์ ซิตี) - ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ จากตัวเลขยิง 26 ประตูจาก 33 นัด พิสูจน์คุณค่าเป็นอย่างดี ถือเป็นผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าทีมจะล้มเหลวป้องกันแชมป์ลีกไม่สำเร็จ รวมถึงไร้โทรฟีติดไม้ติดมือในปีนี้
แฮร์รี เคน (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์) - สาวก “ไก่เดือยทอง” แต่งเพลงให้เลยชื่อว่า “one of our own” เพราะว่าภาคภูมิใจกับสมบัติชิ้นนี้ที่ปลุกปั้นมากับมือ ฤดูกาลนี้ยิงไป 21 ประตูจาก 34 นัดในลีก ทำให้ปีหน้าไม่ต้องหาดาวยิงให้เหนื่อยแล้ว มีส่วนพาทีมจบอันดับ 5 วืดโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
