"ปาเกียว" ถึงมะนิลาเยี่ยงวีรบุรุษ จ่อเลิกชก มุ่งชิงเก้าอี้ปธน.

"เดอะ แพ็คแมน" แมนนี ปาเกียว เดินทางกลับถึงบ้านประเทศฟิลิปปินส์เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพุธที่ 13 พฤษภาคม ท่ามกลางการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษ หลังจากแพ้คะแนนแบบเป็นเอกฉันท์แก่ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กำปั้นชาวอเมริกัน แต่ลีลาการการชกประทับใจ พร้อมเปรยเตรียมแขวนนวม

ปาเกียว ถึงสนามบินกรุงมะนิลาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยมีผ้าคล้องปกป้องหัวไหล่ขวาที่ผ่าตัดมาแล้ว ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากไฟต์ที่แพ้คะแนนแก่ ฟลอยด์ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ โฮเตล แอนด์ คาสิโน ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนบรรยากาศนั้นมีขบวนพาเหรดไปตามท้องถนน ท่ามกลางแฟนๆ เนืองแน่นเนื่องจากชื่นชมการชกที่เดินหน้าปล่อยหมัดเป็นส่วนใหญ่ชวนทะเลาะตลอด 12 ยก ด้าน "แพ็คแมน" ก็โยนเสื้อยืดให้เป็นที่ระลึก

ปาเกียว ที่เคยเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก 8 รุ่นน้ำหนัก เผยถึงอนาคตว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเลิก "ผมจะเน้นรักษาหัวไหล่ให้หายขาดก่อน หลังจากนั้นอาจจะประกาศอำลาวงการ ผมยังไม่ได้บอก แต่ก็ใกล้มากแล้ว เพราะเดือนธันวาคมนี้ก็จะอายุ 37 ปี"

ส่วนเรื่องรีแมตช์ไฟต์แห่งศตวรรษภาค 2 นั้น ปาเกียว แย้มว่า "แน่นอนผมต้องการเจอกับ ฟลอยด์ อีกครั้ง แต่อย่างที่บอกต้องรักษาหัวไหล่ก่อน รวมถึงดูแลครอบครัวและทำงานในฐานะสมาชิกสภาคองเกรส จากนั้นเรื่องมวยค่อยมาทบทวนอีกครั้ง ดูวิดีโอหาข้อบกพร่อง ทำการบ้าน ตัดสินใจและยอมรับในที่สุดว่าอะไรจะเกิดขึ้นจากนี้"

เมื่อถามถึงการลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ ปาเกียว กล่าวอย่างหนักแน่นถึงเป้าหมาย แต่ยังไม่มีสิทธิ์จนกระทั่งอายุ 40 ปี ซึ่งก็น่าจะพอดีการเลือกตั้งครั้งต่อไปปี 2016 หรือ 2022 "แน่นอนผมกำลังครุ่นคิดอยู่ เพราะครอบครัวเรายังไม่มีเป้าหมายอื่น เหนืออื่นใดคืออยากช่วยเหลือประเทศที่ผูกพัน"

ทว่า จิงกี หวานใจของ ปาเกียว ค่อนข้างกังวลหากจะเล่นการเมือง เพราะอาจไม่มีเวลาให้ครอบครัวที่มีลูกๆ ถึง 5 คน "ภรรยาผมบอกว่าเป็นเรื่องยาก เพราะเราจะไม่มีเวลาให้ลูกๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็เสียไปมากพอแล้ว แถมต้องใช้เงินมากมายช่วยเหลือคนยากคนจน ซึ่งเราคงไม่สามารถจุนเจือได้ทั้งหมด
สาวๆ รุมล้อม