xs
xsm
sm
md
lg

ขี่จักรยานเสี่ยงตายจริงหรือ? / แมวดำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

ขณะที่การปั่นจักรยานกำลังได้รับความสนใจจากผู้ใส่ใจในสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ข่าวคราวความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินก็เริ่มมีให้เห็นบ่อยครั้งในบ้านเรา อาทิ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 ปีเตอร์ รูท และ แมรี ทอมป์สัน อายุ 34 ปี คู่สามีภรรยาชาวอังกฤษ ซึ่งอยู่ระหว่างการปั่นจักรยานท่องเที่ยวรอบโลก ได้เสียชีวิตจากเหตุรถชนในประเทศไทย ที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

วันที่ 3 พฤษภาคม 2558 นายชัยรัตน์ ย่องลั่น อายุ 63 ปี , นายสมาน กันธา อายุ 62 ปี และ นายพงษ์เทพ คำแก้ว อายุ 40 ปี ที่อยู่ระหว่างปั่นจักรยานเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังถูกรถยนต์ของนักศึกษาสาววัย 24 ปี พุ่งชนจนเสียชีวิต และยังมีนักปั่นอีก 4 รายได้รับบาดเจ็บ ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

วันที่ 4 พฤษภาคม 2558 น.ส.ธัญญการ เด่นสิริมงคง อายุ 31 ปี เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ขณะปั่นจักรยาน โดยถูกรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ส สีดำ พุ่งชน บนถนนรัชดา - รามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ

โดยกรณีแรกกลายเป็นข่าวดังทั่วโลกที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนด้วยความประมาทของคนไทย ส่วนสองกรณีหลังแม้ไม่โด่งดังระดับโลก แต่ก็ได้รับการกล่าวขวัญอย่างกว้างขวางในประเทศ ซึ่งทั้งหมดล้วนเกิดจากการปั่นจักรยานบนท้องถนนในบ้านเรา จึงเกิดการตั้งคำถามว่าท้องถนนเมืองไทยนั้นปลอดภัยเพียงพอสำหรับคนรักการปั่นหรือไม่?

จากสถิติของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่าในรอบ 10 ปีมานี้ บ้านเรามีผู้เสียชีวิตจากการจราจรนับหมื่นราย โดยปี 2546 สูงถึง 14,012 ราย หากแยกย่อยลงมาอีกจะพบสถิติผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน 19.6 ราย ต่อประชากร 1 แสนคนต่อปี โดยร้อยละ 69.7 เป็นผู้ขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 11 เป็นผู้ขับขี่หรือโดยสารรถยนต์ 4 ล้อขึ้นไป ร้อยละ 8.3 เป็นคนเดินเท้า ส่วนผู้ขับขี่และโดยสารจักรยานมีร้อยละ 2.8 เท่านั้น

ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวแม้จะเป็นข้อมูลเก่าสักหน่อย แต่ก็พอมองเห็นสภาพความเป็นจริงสำหรับผู้นิยมปั่นสองล้อที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นน้อยกว่ายานพาหนะชนิดอื่นๆ อยู่มากโข แต่พูดก็พูดเถอะ ไม่ควรจะมีสักเสี้ยวชีวิตใดต้องมาบาดเจ็บล้มตาย ยิ่งคนที่หันมาใส่ใจสุขภาพดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังแล้ว ยิ่งไม่ควรอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามตอนนี้เกิดกระแสที่คนจักรยานทั้งหลายออกมาเรียกร้องให้มีการเพิ่มช่องทางจักรยานบนพื้นผิวถนนหลวงให้มากขึ้น พร้อมขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยพาหนะอื่นให้ความใส่ใจดูแลเพื่อนร่วมทางสองล้อด้วยความอาทรกว่าที่เคย

ถือเป็นข้อเรียกร้องที่ควรรับฟังและปฏิบัติตามเป็นอย่างยิ่ง แต่ประสบการณ์ตรงหลายๆ ครั้ง ผมว่าผู้ใช้จักรยานเองก็ควรจะรู้ด้วยว่าสิ่งใดสมควร และไม่สมควร หลายครั้งหลายหนบนถนนที่มีช่องทางสำหรับจักรยานอาจมีผู้ใช้รถใช้ถนนขาดจิตสำนึกนำพาหนะมาจอดขวางบางครั้ง แต่บ่อยครั้งเลนจักรยานว่างๆ บนถนนพระอาทิตย์ ก็เห็นเหล่าบรรดาขาปั่นออกมาโฉบเฉี่ยวบนพื้นผิวจราจรปกติโดยไม่ใส่ใจจะวิ่งในช่องทางที่มีการตีเส้นไว้แล้ว นอกจากนี้ยังเคยคุยกับน้องสาวผู้นิยมใช้ชีวิตบนหลังอานรายหนึ่ง ยอมรับว่าส่วนตัวเธอก็ไม่กล้าปั่นออกถนนใหญ่ หากไม่มีการออกทริปแข่งขันอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเคยออกทริปปั่นเที่ยวกับนักปั่นใจกล้าบ้าบิ่นมาแล้วรู้ดีว่าชีวิตแขวนบนเส้นด้าย ดังนั้นอีกสิ่งที่นักปั่นทั้งหลายควรหันกลับมามองคือ...พึงมีสติให้เกียรติเพื่อนร่วมถนน และเคารพกติกา ขณะที่รถใหญ่รถเล็กทั้งหลายก็ควรใส่ใจเพื่อนร่วมทางด้วย จะได้ปลอดภัยทุกฝ่าย

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น