“โปรโจ๊ก” ทิ้งฉายาคิงคอง ลดน้ำหนักคืนฟอร์มเก่ง

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - พลาดชูถ้วยแชมป์รายการ “ซีไอเอ็มบี ไนอากา อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส” ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำหรับ ชัพชัย นิราช ก้านเหล็กชาวไทย ซึ่งถ้าฟุตบอลก็คือต้องลุ้นถึงยิงจุดโทษเพื่อหาผู้ชนะ โดยเป็นการเพลย์ออฟแพ้ ลี เวสต์วูด อดีตมือ 1 ของโลกจากอังกฤษ

รอบแรก ชัพชัย ทำ 4 อันเดอร์พาร์ ทว่าวันที่ 2 กับ 3 เกินรวม 3 โอเวอร์พาร์สกอร์ตกเหลือ 1 อันเดอร์พาร์จบรอบ 3 ตาม เวสต์วูด ที่ขึ้นเป็นผู้นำถึง 7 สโตรก อย่างไรก็ตามรอบสุดท้ายเร่งเครื่องทำ 6 อันเดอร์พาร์จาก 7 เบอร์ดี 1 โบกีรวมมี 7 อันเดอร์พาร์เท่ากันต้องเพลย์ออฟหลุม 18 พาร์ 5 หาแชมป์

ปรากฎว่า “โปรโจ๊ก” ดันตีตกบังเกอร์ได้เพียงแค่พาร์ ผิดกับ เวสต์วูด ที่ได้พัตต์อีเกิลก่อนที่จะเก็บเบอร์ดีพร้อมคว้าแชมป์รายการนี้สมัยที่ 3 ต่อจากปี 2011 กับ 2012 ถือเป็นแชมป์ เอเชียน ทัวร์ ลำดับที่ 9 เรียกได้ว่ามาแข่งเอเชียครั้งใดถือเป็นขนมหวานของก้านหล็กวัย 42 ปี

ตลอด 4 วัน ชัพชัย ไม่แสดงให้เห็นทัศนคติแง่ลบ โดยเฉพาะรอบ 3 มีจังหวะที่เหล็กไปฟาดกับต้นไม้ทำให้ผลงานออกมาไม่ดีนัก โดยกล่าวว่า “ตอนเริ่มทีออฟรอบสุดท้าย ผมบอกกับตัวเองว่าถ้าจบท็อปทรีได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูจากฟอร์มอันคงเส้นคงวาของ เวสต์วูด การได้เล่นเพลย์ออฟจึงถือเป็นโบนัส ผมภูมิใจมากแม้ว่าจะแพ้ก็ตาม สิ่งนี้ถือว่ามีส่วนสำคัญยิ่งสำหรับฤดูกาลที่อีกยาวนาน"

ด้วยผลงาน ณ สนาม รอยัล จาการ์ตา กอล์ฟ คลับ กรุงจาการ์ตา ทำให้ ชัพชัย ขยับรั้งอันดับ 11 “ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต” หรือตารางสะสมเงินรางวัลประจำฤดูกาลของ เอเชียน ทัวร์ โกยไปแล้ว 105,720 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท) แต่หากจะบอกว่าเป็นการคืนฟอร์มเก่งเหมือนเมื่อครั้งอดีตแล้ว อาจจะมีหลายคนยกมือคัดค้าน เพราะมองว่าแค่รายการเดียวไม่อาจพิสูจน์อะไรได้

แต่นอกจากความกระหายที่จะประสบความสำเร็จดูเพิ่มมากขึ้น ลองสังเกตุให้ดี ชัพชัย วัย 31 ปีมีรูปร่างที่เล็กลงแสดงถึงมัดกล้ามเนื้อมากขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนนั้นติดเครื่องดื่มน้ำอัดลมอย่างหนัก ซึ่งก็เคยบอกแล้วว่าพยายามที่จะลดลง โดยตอนนี้ดูเหมือนจะเห็นผลแล้วดูลักษณะไม่ใช่ “คิงคอง” ตามฉายาที่เพื่อนๆ นักกอล์ฟตั้งให้

แม้ ชัพชัย จะวืดสะสมแชมป์ เอเชียน ทัวร์ ลำดับที่ 5 แต่ก็แสดงให้เห็นถึงเกมกอล์ฟที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเมื่อปี 2014 ก็ส่งสัญญาณเตือนว่าจะกลับมาด้วยการคว้าแชมป์ เอเชียน ทัวร์ รายการ “เวิลด์ไวลด์ โฮลดิง เซลังงอร์ มาสเตอร์ส” ที่ประเทศมาเลเซีย ด้วยการเพลย์ออฟชนะ อันโตนิโอ ลาสคูนา ของฟิลิปปินส์ ซึ่งถือเป็นแชมป์แรกรอบ 5 ปี

ทุกคนอาจจะเห็นนักกอล์ฟรูปร่างท้วมหลายคน ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลกับการแกว่งของวงสวิงไม่เท่ากัน ดังนั้น ชัพชัย จึงตัดสินใจว่าถึงเวลาที่จะต้องลดน้ำหนักลง เพราะก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2005-2009 มีฟอร์มอันยอดเยี่ยมจนได้รับการจับตามองอย่างมากคือไม่เคยจบต่ำกว่าอันดับ 30 ของ “ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต” โดยผลงานที่ดีที่สุดก็คือที่ 2 เมื่อปี 2007 ที่ได้แชมป์ 2 รายการหนึ่งในนั้นเป็นโค-แซงชัน ยูโรเปียน ทัวร์ ด้วย ตามมาสู่ปี 2009 ที่สร้างสถิติโลก 32 อันเดอร์พาร์เป็นแชมป์ “เซล โอเพน” ทิ้งอันดับ 2 ร่วมถึง 11 สโตรก

ส่วนวิธีการลดน้ำหนักนั้นก็เน้นแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่มีอะไรยุ่งยากทุกคนทำได้คือออกกำลังกายสม่ำเสมอและควบคุมอาหาร ชัพชัย กล่าวว่า “หลังจากคว้าแชมป์ครั้งล่าสุด ผมมีปัญหาน้ำหนักตัวที่กระทบกับวงสวิง โดยหนักถึง 120 กิโลกรัม แต่ว่าตอนนี้เหลือ 93 กิโลกรัม จึงสามารถสวิงได้เหมือนเดิมแล้ว”

เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *