เอเยนซี - เปิดฉากสนามแรกไปแล้วสำหรับศึกจักรยานยนต์ทางเรียบ โมโตจีพี ฤดูกาล 2015 โดยเรซเปิดหัวที่ กาตาร์ เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา จบลงด้วยชัยชนะของ วาเลนติโน รอสซี นักบิดจอมเก๋าจากฝั่ง ยามาฮ่า ที่เร่งเครื่องจากอันดับ 10 คว้าแชมป์ไปได้ ทว่าที่น่าสนใจกว่าคือผลงานของสองนักบิดจากฝั่ง ดูคาติ ขึ้นโพเดียมได้ทั้งคู่และออกตัวมาแรงตั้งแต่รอบควอลิฟาย จนกลายเป็นสัญญาณส่งถึงสองยักษ์ใหญ่อย่าง ยามาฮ่า และ ฮอนด้า ที่ขับเคี่ยวแย่งแชมป์โลกกันอยู่แค่สองทีมในช่วงหลังอาจไม่ง่ายดังที่คิดอีกแล้ว
การชิงชัยที่ โลเซล เซอร์กิต มาร์ค มาร์เกวซ แชมป์โลก 2 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า ถูกสปอตไลท์ฉายจับเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นตัวเต็งสำหรับตำแหน่งแชมป์โลกฤดูกาลนี้ และคาดหวังว่าจะต้องประเดิมด้วยแชมป์สนาม ทว่าเมื่อสิ้นสัญญาณไฟ นักบิดวัย 21 ปี ออกตัวพลาดรูดไปอยู่ท้ายแถว ก่อนที่ไฮไลต์จะมาอยู่ที่ ยามาฮ่า กับ ดูคาติ ที่บดบี้กันไปจนถึงช่วงท้าย แล้วเป็น “เดอะ ด็อกเตอร์” ที่เสียบแซง อันเดรีย โดวิซิโอโซ เจ้าของ โพล โพซิชัน บริเวณทางโค้งแล้วควบรถเข้าวินหยิบแชมป์อย่างสุดระทึกด้วยเวลา 42 นาที 35.717 วินาที
ผลงานขึ้นโพเดียมของสองนักบิดจากค่ายรถแห่งอิตาลี กลายเป็นประเด็นที่คนดูและสื่อพูดถึงกันเป็นวงกว้างกับผลงานอันน่าทึ่งจากสองนักบิดอย่าง “โดวิ” และ อันเดรีย เอียนโนเน และถือเป็นครั้งแรกที่ทีมซิ่งจากแดนมะกะโรนี ส่งนักแข่งขึ้นไปฉลองบนเวทีเดียวกันในรอบ 8 ปีด้วย ซึ่งย้อนกลับไปก่อนหน้าทั้งคู่ได้ฉายแสงความเป็นม้ามืดออกมาตั้งแต่รอบเทสต์เมื่อสัปดาห์ก่อนแข่งขัน หลังกอดคอกันยึดตำแหน่งท็อปทรีได้ทั้งหมดชนิดที่ทีมงานของ เรปโซล ฮอนด้า และ ยามาฮ่า ต้องเหลียวหลังมอง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อฟอร์มของ ดูคาติ ในสนามนี้คือการที่ทีมงานรถซิ่งจากแดนมักกะโรนีตัดสินใจส่งทีมแข่งในหมวดโอเพนคลาส (ใช้ ECU หรือระบบอิเล็คโทรนิกส์พื้นฐาน) เมื่อปีก่อน ซึ่งเปิดโอกาสให้พวกเขาได้สร้างสรรค์และพัฒนารถกันได้อย่างเต็มที่จนคลอดออกมาเป็น “เดสโมเซดิชิ จีพี 15” รุ่นใหม่ที่สมบูรณ์ที่สุดให้ โดวิซิโอโซ และ เอียนโนเน เอาไปใช้งาน ขณะที่ฝั่ง ยามาฮ่า และ ฮอนด้า ที่ส่งทีมแข่งในนามทีมโรงงาน ไม่ได้ปรับเปลี่ยนตัวรถมากนัก
โดยหลังจบการแข่งขัน “โดวิ” กล่าวพอใจยิ่งกับผลงานที่สามารถเบียดยักษ์ใหญ่ทั้งสองค่ายขึ้นมาชิงตำแหน่งแถวหน้าได้สำเร็จ “ถือเป็นความรู้สึกยอดเยี่ยมที่พวกเราได้หันหน้ากลับมาสู่เส้นทางแห่งการลุ้นชัยชนะอีกครั้ง มันน่าตื่นเต้นที่ได้สู้กับ วาเลนติโน แบบสูสีด้วยรถที่ทีมงานช่วยกันเซ็ตมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะบริเวณทางโค้งที่เราอัดความเร็วได้อย่างเต็มที่ เพียงแต่ยังมีปัญหาตรงบริเวณเข้าโค้งซึ่งทำให้ วาเลนติโน ฉวยจังหวะนั้นแซงผมขึ้นมาได้”
ขณะที่ รอสซี แชมป์โลก 7 สมัย (นับเฉพาะ พรีเมียร์ คลาส) วัย 36 ปี แม้เป็นผู้ชนะแต่ก็กล่าวยกย่องอดีตทีมเก่าของตัวเองว่ายกระดับขึ้นมาได้อย่างน่ากลัว และมองเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำหรับการชิงแชมป์โลก “ผมดีใจมากที่คราวนี้ มาร์ค (มาร์เกวซ) อยู่ด้านหลังผมบ้างแล้ว แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการชิงแชมป์โลก จากที่เคยชิงกันอยู่ 4 คน กลายเป็น 6 คนไปแล้วเพราะ ดูคาติ ทำผลงานได้แข็งแกร่งมากจนน่าตื่นเต้นเหลือเกินว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้”
ด้าน เรปโซล ฮอนด้า เก็บแต้มได้ท้งคู่แต่ก็เสียรังวัดไปพอตัว โดยเฉพาะแชมป์โลกอย่าง มาร์เกวซ ที่ไม่ควรผิดพลาดเช่นนี้แม้ไล่แซงขึ้นมาจบที่ 5 แต่ระหว่างนั้นก็ถูกรถของ ดูคาติ ทิ้งห่างไปราว 3 วินาทีจนไล่ไม่ทัน ส่วน เปโดรซ่า ซึ่งจบอันดับ 6 ส่งสัญญาณอาจต้องยุติอาชีพนักบิดเพราะมีอาการเจ็บบริเวณข้อศอกกับข้อมือขวาทำให้บิดได้ไม่เต็มที่ เรียกว่าแค่สนามแรกก็มีปัญหาแล้วดังนั้นเป็นหน้าที่ของทีมงานจากค่ายรถญี่ปุ่นต้องช่วยกันหาทางออกแก้ไขกันต่ออีก 17 เรซที่เหลือเพื่อทวงตำแหน่งแถวหน้ากลับมา
แม้จะเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่า ดูคาติ คืออีกหนึ่งทีมเต็งแชมป์เพราะเพิ่งแข่งกันไปแค่สนามเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้หากยังรักษามาตรฐานของตัวเองโดยบดบี้กับทีมหัวแถวไปได้จนถึงสนามสุดท้ายในฐานะความหวังอันดับ 1 ของทีมแข่งจากฝั่งยุโรป เหมือนอย่างที่ "คิง เคซีย์" เคซีย์ สโตเนอร์ อดีตนักบิดชาวออสเตรเลีย เคยพาทีมจากแดนมะกะโรนีประกาศศักดาควบแชมป์โลกทั้งนักแข่งและทีมผู้สร้างมาแล้วเมื่อปี 2007
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *