คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
หลังจากอดทนรอคอยกันมาหลายเดือน ที่สุดแล้วฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2015 กลับมาดวลแข้งกันอีกครั้งเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นนัดแรก ชลบุรี เอฟซี บุกเอาชนะ กัลฟ์ สระบุรี 3-1 ถึงถิ่น ซึ่งบรรยากาศในสนามเข้าขั้นดี ฟุตบอลสนุกเปิดหน้าแลกไม่มีการอุด แต่เกมนี้มีสิ่งที่แฟนบอลทั่วไปคงเห็นว่าการทำหน้าที่ผู้ตัดสินผิดพลาดหลายจังหวะ ที่เด่นชัดคือการปฏิเสธมอบลูกจุดโทษในทีมเยือนในจังหวะ จูเลียโน มิเนโร โดนสกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ สุเมธ สายแมว ผู้ตัดสินไม่ให้ลูกนี้เป็นลูกฟาวล์
อีกกรณีเป็นนัดที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เปิดบ้านชนะ ทีโอที เอสซี 1-0 โดยลูกที่ได้ประตูตัดสินชี้เป็นชี้ตายของเกมนี้กลับกลายเป็นข้อถกเถียงว่าจังหวะนั้น อนุวัตร ฝีมือช่าง ผู้ตัดสิน เป่านกหวีดไปแล้ว แต่กลับปล่อยให้นักเตะทีมเหย้าเล่นต่อจนเป็นผลให้ ทีโอที แพ้ ท่ามกลางการแสดงความไม่พอใจของเหล่าบรรดาสตาฟฟ์ทีมเยือน และเกมหยุดนานไปกว่า 8 นาที การประท้วงในสนามส่งให้ ทีโอที โดนสอบสวนเรื่องการทำให้การแข่งขันชะงักตามการพิจารณาของไทยพรีเมียร์ลีก และหากว่าสอบแล้วมีความผิดจริงจะโดนลงโทษปรับ 5 หมื่นบาท
แน่นอนว่าการระยะเวลาที่เป็นรอยต่อระหว่างลีกของฤดูกาลที่แล้วกับฤดูกาลนี้เป็นหลายเดือน อาจไม่นำพาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทันทีทันใดในเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดกันตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลเช่นนี้ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ผู้ตัดสินไทยลีกหลายๆ คน ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ตามความเป็นปุถุชน แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย และมีผลต่อการอยู่รอด ใครจะไปรู้ว่าทีมอย่าง ทีโอที ที่หนีรอดการตกชั้นมาโดยตลอด หากสิ้นฤดูกาลนี้ขาดไป 1 หรือ 3 คะแนน จนต้องตกชั้นจะยกความผิดดังกล่าวให้ผู้ตัดสินคนนี้อย่างเดียวก็ไม่ได้ แต่มันคงเป็นเรื่องขมขื่นใจน่าดูทีเดียวสำหรับแฟนของสโมสร “ฮัลโหล”
เมื่อความผิดพลาดยังคงเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ผู้ตัดสินที่เพิ่งทำหน้าที่ผิดพลาดก็ได้รับความไว้วางใจลงทำหน้าที่ในเกมระหว่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมบิ๊กแมตช์ วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เชื่อหรือครับว่าหากเกิดการเป่าหรือไม่เป่าให้จุดโทษทีมหนึ่งทีมใด หรือไล่ผู้เล่นรายใดออกมันจะได้รับการยอมรับจากแฟนบอลของทั้ง 2 ทีม แล้วหากว่าอารมณ์แฟนบอลเกิดเดือดดาลจนถึงขั้นควบคุมไม่อยู่แล้วมีเหตุการณ์ปะทะกันทั้งในและนอกสนามอีก มันจะเลวร้ายเช่นไรไม่อยากจะคิดจริงๆ
ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้จะยกความผิดทั้งหลายไปโยนที่ผู้ตัดสินเพียงประการเดียว นักฟุตบอลในลีกของเราก็ต้องปรับปรุงเรื่องความเป็นมืออาชีพยามลงสนามด้วยเช่นกัน หากสังเกตผู้เล่นไทย และต่างชาติหลายคนเมื่อไปเล่นในฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เห็นได้ชัดว่าผู้ตัดสินระดับเอเชียที่ทำหน้าที่นั้น พยายามอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้เกมไหลลื่น ไม่เป่านกหวีดพร่ำเพรื่อ ขณะที่นักเตะสโมสรของเรากลับหยุดเล่นเพื่อที่จะหันไปโวยคำตัดสิน จนหลายครั้งที่เกมดำเนินต่อไป กลายเป็นว่าผู้เล่นรายนั้นเสียตำแหน่ง และส่งผลร้ายต่อทีมมากกว่าผลดี
ฟุตบอลบ้านเรากำลังพัฒนา แฟนบอลเองก็รอชมเกมสนุก แบบแฟร์ๆ ของทีมรัก ผู้ตัดสินเองต้องพัฒนา สมาคมฟุตบอลฯ มีส่วนช่วยได้ อาจนำพาไปดูงานผู้ตัดสินในลีกชั้นนำของเอเชียบ้างก็ได้ ว่าแนวทางการทำหน้าที่เขาเป็นอย่างไร นักฟุตบอลก็เช่นกัน เห็นหลายสโมสรส่งผู้บริหารไปดูลีกดังๆ ในเอเชีย หรือเป็นพันธมิตรกับทีมในเจลีก เคลีก หรือ ลาลีกา กันแล้ว ก็ควรนำนักฟุตบอลเราไปดูไปเรียนรู้การเล่นแบบมืออาชีพเขาบ้างก็ได้ ไม่ใช่แค่ไปเดินดูสนามแล้วถ่ายรูปกลับมาโม้อย่างเดียว...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
หลังจากอดทนรอคอยกันมาหลายเดือน ที่สุดแล้วฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2015 กลับมาดวลแข้งกันอีกครั้งเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นนัดแรก ชลบุรี เอฟซี บุกเอาชนะ กัลฟ์ สระบุรี 3-1 ถึงถิ่น ซึ่งบรรยากาศในสนามเข้าขั้นดี ฟุตบอลสนุกเปิดหน้าแลกไม่มีการอุด แต่เกมนี้มีสิ่งที่แฟนบอลทั่วไปคงเห็นว่าการทำหน้าที่ผู้ตัดสินผิดพลาดหลายจังหวะ ที่เด่นชัดคือการปฏิเสธมอบลูกจุดโทษในทีมเยือนในจังหวะ จูเลียโน มิเนโร โดนสกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ สุเมธ สายแมว ผู้ตัดสินไม่ให้ลูกนี้เป็นลูกฟาวล์
อีกกรณีเป็นนัดที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เปิดบ้านชนะ ทีโอที เอสซี 1-0 โดยลูกที่ได้ประตูตัดสินชี้เป็นชี้ตายของเกมนี้กลับกลายเป็นข้อถกเถียงว่าจังหวะนั้น อนุวัตร ฝีมือช่าง ผู้ตัดสิน เป่านกหวีดไปแล้ว แต่กลับปล่อยให้นักเตะทีมเหย้าเล่นต่อจนเป็นผลให้ ทีโอที แพ้ ท่ามกลางการแสดงความไม่พอใจของเหล่าบรรดาสตาฟฟ์ทีมเยือน และเกมหยุดนานไปกว่า 8 นาที การประท้วงในสนามส่งให้ ทีโอที โดนสอบสวนเรื่องการทำให้การแข่งขันชะงักตามการพิจารณาของไทยพรีเมียร์ลีก และหากว่าสอบแล้วมีความผิดจริงจะโดนลงโทษปรับ 5 หมื่นบาท
แน่นอนว่าการระยะเวลาที่เป็นรอยต่อระหว่างลีกของฤดูกาลที่แล้วกับฤดูกาลนี้เป็นหลายเดือน อาจไม่นำพาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทันทีทันใดในเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดกันตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลเช่นนี้ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ผู้ตัดสินไทยลีกหลายๆ คน ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ตามความเป็นปุถุชน แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย และมีผลต่อการอยู่รอด ใครจะไปรู้ว่าทีมอย่าง ทีโอที ที่หนีรอดการตกชั้นมาโดยตลอด หากสิ้นฤดูกาลนี้ขาดไป 1 หรือ 3 คะแนน จนต้องตกชั้นจะยกความผิดดังกล่าวให้ผู้ตัดสินคนนี้อย่างเดียวก็ไม่ได้ แต่มันคงเป็นเรื่องขมขื่นใจน่าดูทีเดียวสำหรับแฟนของสโมสร “ฮัลโหล”
เมื่อความผิดพลาดยังคงเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ผู้ตัดสินที่เพิ่งทำหน้าที่ผิดพลาดก็ได้รับความไว้วางใจลงทำหน้าที่ในเกมระหว่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมบิ๊กแมตช์ วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เชื่อหรือครับว่าหากเกิดการเป่าหรือไม่เป่าให้จุดโทษทีมหนึ่งทีมใด หรือไล่ผู้เล่นรายใดออกมันจะได้รับการยอมรับจากแฟนบอลของทั้ง 2 ทีม แล้วหากว่าอารมณ์แฟนบอลเกิดเดือดดาลจนถึงขั้นควบคุมไม่อยู่แล้วมีเหตุการณ์ปะทะกันทั้งในและนอกสนามอีก มันจะเลวร้ายเช่นไรไม่อยากจะคิดจริงๆ
ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้จะยกความผิดทั้งหลายไปโยนที่ผู้ตัดสินเพียงประการเดียว นักฟุตบอลในลีกของเราก็ต้องปรับปรุงเรื่องความเป็นมืออาชีพยามลงสนามด้วยเช่นกัน หากสังเกตผู้เล่นไทย และต่างชาติหลายคนเมื่อไปเล่นในฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เห็นได้ชัดว่าผู้ตัดสินระดับเอเชียที่ทำหน้าที่นั้น พยายามอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้เกมไหลลื่น ไม่เป่านกหวีดพร่ำเพรื่อ ขณะที่นักเตะสโมสรของเรากลับหยุดเล่นเพื่อที่จะหันไปโวยคำตัดสิน จนหลายครั้งที่เกมดำเนินต่อไป กลายเป็นว่าผู้เล่นรายนั้นเสียตำแหน่ง และส่งผลร้ายต่อทีมมากกว่าผลดี
ฟุตบอลบ้านเรากำลังพัฒนา แฟนบอลเองก็รอชมเกมสนุก แบบแฟร์ๆ ของทีมรัก ผู้ตัดสินเองต้องพัฒนา สมาคมฟุตบอลฯ มีส่วนช่วยได้ อาจนำพาไปดูงานผู้ตัดสินในลีกชั้นนำของเอเชียบ้างก็ได้ ว่าแนวทางการทำหน้าที่เขาเป็นอย่างไร นักฟุตบอลก็เช่นกัน เห็นหลายสโมสรส่งผู้บริหารไปดูลีกดังๆ ในเอเชีย หรือเป็นพันธมิตรกับทีมในเจลีก เคลีก หรือ ลาลีกา กันแล้ว ก็ควรนำนักฟุตบอลเราไปดูไปเรียนรู้การเล่นแบบมืออาชีพเขาบ้างก็ได้ ไม่ใช่แค่ไปเดินดูสนามแล้วถ่ายรูปกลับมาโม้อย่างเดียว...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *