"โปรหมาย" ประหยัด มากแสง วัย 49 ปี ฮึดเก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ 71 ในรอบสุดท้าย รวมสี่วัน 10 อันเดอร์พาร์ 278 คว้าแชมป์ไปครอง หลังเฉือนเพลย์ออฟชนะ ชัพชัย นิราช หลุมแรก การแข่งขันกอล์ฟอาชีพ "สิงห์ มาสเตอร์ส ครั้งที่ 16" พร้อมรับเงินรางวัลกว่า 7 แสนบาท
ศึกกอล์ฟอาชีพ สิงห์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ รายการ "สิงห์มาสเตอร์" ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2558 ณ สนามกอล์ฟสันติบุรี คันทรีคลับ จ.เชียงราย ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นการประชันวงสวิงในรอบสุดท้าย
ปรากฏว่า "โปรหมาย" ประหยัด มากแสง แชมป์เก่าปี 2000, 2003, 2008, 2012 สะสมเพิ่มอีก 3 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ เท่ากับ "โปรโจ๊ก" ชัพชัย นิราช ที่ฟอร์มแรง ทำได้ถึง 6 เบอร์ดี เสีย 2 โบกี ต้องดวลเพลย์ออฟกันในหลุม 18
เป็นทางด้านของ โปรหมาย อาศัยความเก๋าเฉือนคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ของตัวเองสำเร็จ รับเงินรางวัล 725,000 บาท ขณะที่ โปรโจ๊ก ยังไม่สามารถครอบครองถ้วยรางวัลสิงห์มาสเตอร์ได้สำเร็จ รับเงินรางวัลปลอบใจ 427,500 บาท
อันดับสามเป็น กษิดิศ เล็บครุฑ นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทยชุดเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุด โดย กษิดิศ ที่นำการแข่งขันในรอบแรกจบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสี่วัน 7 อันเดอร์พาร์ 281 และอันดับสี่เป็น อุดร ดวงเดชา ที่ทำสกอร์รวมสี่วัน 6 อันเดอร์พาร์ 282
ส่วนผลงานของนักกอล์ฟคนอื่นที่น่าสนใจแดนไท บุญมา ที่ในรอบสุดท้ายหวดโฮลอินวันที่หลุม 12 ก่อนจบสกอร์รอบสุดท้าย 4 อันเดอร์พาร์ 68 จบอันดับห้าร่วมกับ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ ที่สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 283, เชาวลิต ผลาผล จบอันดับสิบร่วมที่ 2 อันเดอร์พาร์ 286 เท่ากับ ภาณุวัฒน์ หมื่นเหล็ก, ปิยะ สว่างอรุณพร จบอันดับสิบสี่ที่ 1 อันเดอร์พาร์ 287, นำโชค ตันติโภคากุล จบอันดับยี่สิบร่วมกับ อรรถพล ศรีบุญแก้ว ที่อีเวนพาร์ 288 และ ถาวร วิรัตน์จันทร์ จบอันดับยี่สิบหกร่วมที่สกอร์ 1 โอเวอร์พาร์ 289
หลังการแข่งขัน แชมป์สิงห์มาสเตอร์ 5 สมัย เปิดเผยว่า ในช่วงสองหลุมสุดท้าย คิดว่าเราน่าจะทำเบอร์ดีเพิ่มได้ แต่ไม่ได้คิดว่าจะชนะ แค่ทำตามเป้าหมายของตนเอง แต่ทางด้านของชัพชัยตีพลาดในหลุมสุดท้ายทำให้สกอร์หล่นมาเท่ากัน จนต้องตัดสินกันด้วยเพลย์ออฟซึ่งตนเองไม่มีความกดดัน เพราะเจอมาบ่อยแล้ว ดีใจที่ได้แชมป์นี้ถือเป็นของขวัญวันเกิดของตนเอง
นอกจากนี้ โปรหมาย ยังกล่าวถึงผลงานของตนเองในปีนี้ว่า "ปีนี้ยังคงแข่งขันตามโปรแกรมเดิม คือเริ่มจากเอเชียนทัวร์ที่มาเลเซีย, หัวหิน, อินเดีย และขอนแก่น ก่อนจะเข้าสู่เจแปนทัวร์ ซึ่งในปีนี้ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องพัตต์ เพราะสายตาเริ่มมองใกล้ๆไม่เห็น แต่ยังตั้งเป้าคว้าแชมป์ให้ได้ 1 รายการ เพราะเราเล่นมา 20 ปีแล้ว อยากจะประสบความสำเร็จให้ได้อีกสักครั้ง"
ขณะที่แชมป์ฝ่ายหญิงตกเป็นของ เบญญาภา นิภัทร์โสภณ นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองทีมหญิง เอเชียนเกมส์ ที่อินชอน ทำสกอร์รวมสี่วัน 3 อันเดอร์พาร์ 285