“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังถล่ม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 3-0 จากประตูของ เวย์น รูนีย์, ฆวน มานูเอล มาตา และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ในศึก พรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ขยับขึ้นอันดับ 3 ของตาราง
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 ลิเวอร์พูล
หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัด 3 ประสานแนวรุก ประกอบด้วย เวย์น รูนีย์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี กับ เจมส์ วิลสัน ลงล่าตาข่าย โดยมี ฆวน มานูเอล มาตา รับบทเพลย์เมกเกอร์ ต้อนรับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส วางแท็กติกไร้หัวหอกตัวเป้า แม้ได้ มาริโอ บาโลเตลลี หายจากการบาดเจ็บนั่งสำรอง ส่วนตำแหน่งนายทวาร มอบความไว้วางใจแก่ แบรด โจนส์ เฝ้าเสาแทน ซิมง มิโญเลต์ ที่ฟอร์มตก
เสียงนกหวีดดังขึ้น ทั้งคู่ยังต่อเกมกันไม่ค่อยติดช่วงต้นจนถึงนาที ลิเวอร์พูล ทักทายน่ากลัวนาที 12 อดัม ลัลลานา จ่ายมาที่ว่างตรงเขตโทษด้านซ้าย ราฮีม สเตอร์ลิง โฉบมายิงมุมแคบติดเซฟ ดาบิด เด เคอา ถัดมาไม่กี่อึดใจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โต้กลับและขึ้นนำทันที อันโตนิโอ วาเลนเซีย แหวกตัวประกบมาทางขวา แล้วหักเรียดเข้ากลาง เวย์น รูนีย์ สอดมาแปแบบเน้นๆ ย้อนศรเสียบมุม
ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ บุกไหลลื่นกว่าเล็กน้อยนาที 23 อัลแบร์โต โมเรโน ตามมาเก็บตกทางกราบซ้าย ไหลเข้าเขตโทษ ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากมาสุดเส้นหลัง แล้วยิงมุมแคบก็ยังติด เด เคอา จากนั้น ยูไนเต็ด เริ่มจูนกันติด และทิ้งห่างนาที 40 แอชลีย์ ยัง เปิดจากซ้าย โรบิน ฟาน เพอร์ซี โหม่งเฉือนๆ บอลเลยมาเสาสอง ฆวน มาตา ทิ้งตัวโขกจ่อๆ ไม่พลาด ครบ 45 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ 2-0
ลุยต่อครึ่งหลัง รูปเกมก้ำกึ่งสูสี เข้าสู่นาที 51 “หงส์แดง” น่าตีไข่แตกแบบสุดๆ นาที ราฮีม สเตอร์ลิง อาศัยความขยันโฉบตัดบอลคืนหลังได้ล่อเป้ากับ ดาบิด เด เคอา แต่กลับแปติดเซฟเอาดื้อๆ ถัดมา 1 นาที ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ตอบโต้ทันควัน โรบิน ฟาน เพอร์ซี ไหลมาทางซ้ายให้ เวย์น รูนียฺ์ ซัดเน้นๆ ไม่ผ่าน แบรด โจนส์ นายทวาร
ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พยายามขึงเกมรุก แต่ก็ยังเจาะไม่เข้า และเกือบเสียเพิ่มนาที 64 อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดยัดจากขวามาเสาแรก โรบิน ฟาน เพอร์ซี ตั้งเท้าแปย้อนศรหลุดกรอบนิดเดียว ถัดมา 2 นาที ทีมเยือน พลาดโอกาสทอง ราฮีม สเตอร์ลิง ฉีกมารับบอลทางเขตโทษด้านขวา แตะสั้นๆ ให้ มาริโอ บาโลเตลลี ซัดจ่อๆ ดาบิด เด เคอา ปัดบอลกระดอนคาน
เข้าสู่นาที 71 พลพรรค “เรด เดวิลส์” ตอกฝาโลงสนิทจากเกมสวนกลับ ฆวน มาตา แทงออกซ้ายให้ เวย์น รูนีย์ ควบเข้าเขตโทษ แล้วตบเข้ากลาง เดยัน ลอฟเรน สกัดไม่ขาด มาตา ตามมาเก็บตก ไหลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ตั้งป้อมซัดโล่งๆ ซุกก้นตาข่าย ต่อมานาที 85 “เดอะ เรดส์” ได้เสียว ลาซาร์ มาร์โควิช แทงทะลุช่องให้ มาริโอ บาโลเตลลี หลุดเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนยิงติดเซฟ เด เคอา
อีก 2 นาทีต่อมา แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ 20 สมัย หวิดบวกสกอร์เพิ่ม โรบิน ฟาน เพอร์ซี ดูดบอลลงพื้นเกี่ยวหลบ โคโล ตูเร แล้วดีดเต็มแรงตรงหัวกะโหลก แบรด โจนส์ เทกตัวปัดข้ามคาน จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะไป 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 31 แต้ม จาก 16 นัด ขยับขึ้นอันดับ 3 ของตาราง ไล่กวด แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ เชลซี 5 และ 8 แต้ม ตามลำดับ
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , ฟิล โจนส์ , จอนนี อีแวนส์ , แอชลีย์ ยัง , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ฆวน มานูเอล มาตา , เวย์น รูนีย์ , ไมเคิล คาร์ริค , มารูยาน เฟลไลนี , โรบิน ฟาน เพอร์ซี , เจมส์ วิลสัน
ลิเวอร์พูล : แบรด โจนส์ , เกล็น จอห์นสัน , เดยัน ลอฟเรน , อัลแบร์โต โมเรโน , มาร์ติน สเคอร์เทล , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , โจ อัลเลน , ฟิลิปเป คูตินโญ , อดัม ลัลลานา , ราฮีม สเตอร์ลิง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 ลิเวอร์พูล
หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัด 3 ประสานแนวรุก ประกอบด้วย เวย์น รูนีย์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี กับ เจมส์ วิลสัน ลงล่าตาข่าย โดยมี ฆวน มานูเอล มาตา รับบทเพลย์เมกเกอร์ ต้อนรับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส วางแท็กติกไร้หัวหอกตัวเป้า แม้ได้ มาริโอ บาโลเตลลี หายจากการบาดเจ็บนั่งสำรอง ส่วนตำแหน่งนายทวาร มอบความไว้วางใจแก่ แบรด โจนส์ เฝ้าเสาแทน ซิมง มิโญเลต์ ที่ฟอร์มตก
เสียงนกหวีดดังขึ้น ทั้งคู่ยังต่อเกมกันไม่ค่อยติดช่วงต้นจนถึงนาที ลิเวอร์พูล ทักทายน่ากลัวนาที 12 อดัม ลัลลานา จ่ายมาที่ว่างตรงเขตโทษด้านซ้าย ราฮีม สเตอร์ลิง โฉบมายิงมุมแคบติดเซฟ ดาบิด เด เคอา ถัดมาไม่กี่อึดใจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โต้กลับและขึ้นนำทันที อันโตนิโอ วาเลนเซีย แหวกตัวประกบมาทางขวา แล้วหักเรียดเข้ากลาง เวย์น รูนีย์ สอดมาแปแบบเน้นๆ ย้อนศรเสียบมุม
ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ บุกไหลลื่นกว่าเล็กน้อยนาที 23 อัลแบร์โต โมเรโน ตามมาเก็บตกทางกราบซ้าย ไหลเข้าเขตโทษ ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากมาสุดเส้นหลัง แล้วยิงมุมแคบก็ยังติด เด เคอา จากนั้น ยูไนเต็ด เริ่มจูนกันติด และทิ้งห่างนาที 40 แอชลีย์ ยัง เปิดจากซ้าย โรบิน ฟาน เพอร์ซี โหม่งเฉือนๆ บอลเลยมาเสาสอง ฆวน มาตา ทิ้งตัวโขกจ่อๆ ไม่พลาด ครบ 45 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ 2-0
ลุยต่อครึ่งหลัง รูปเกมก้ำกึ่งสูสี เข้าสู่นาที 51 “หงส์แดง” น่าตีไข่แตกแบบสุดๆ นาที ราฮีม สเตอร์ลิง อาศัยความขยันโฉบตัดบอลคืนหลังได้ล่อเป้ากับ ดาบิด เด เคอา แต่กลับแปติดเซฟเอาดื้อๆ ถัดมา 1 นาที ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ตอบโต้ทันควัน โรบิน ฟาน เพอร์ซี ไหลมาทางซ้ายให้ เวย์น รูนียฺ์ ซัดเน้นๆ ไม่ผ่าน แบรด โจนส์ นายทวาร
ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พยายามขึงเกมรุก แต่ก็ยังเจาะไม่เข้า และเกือบเสียเพิ่มนาที 64 อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดยัดจากขวามาเสาแรก โรบิน ฟาน เพอร์ซี ตั้งเท้าแปย้อนศรหลุดกรอบนิดเดียว ถัดมา 2 นาที ทีมเยือน พลาดโอกาสทอง ราฮีม สเตอร์ลิง ฉีกมารับบอลทางเขตโทษด้านขวา แตะสั้นๆ ให้ มาริโอ บาโลเตลลี ซัดจ่อๆ ดาบิด เด เคอา ปัดบอลกระดอนคาน
เข้าสู่นาที 71 พลพรรค “เรด เดวิลส์” ตอกฝาโลงสนิทจากเกมสวนกลับ ฆวน มาตา แทงออกซ้ายให้ เวย์น รูนีย์ ควบเข้าเขตโทษ แล้วตบเข้ากลาง เดยัน ลอฟเรน สกัดไม่ขาด มาตา ตามมาเก็บตก ไหลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ตั้งป้อมซัดโล่งๆ ซุกก้นตาข่าย ต่อมานาที 85 “เดอะ เรดส์” ได้เสียว ลาซาร์ มาร์โควิช แทงทะลุช่องให้ มาริโอ บาโลเตลลี หลุดเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนยิงติดเซฟ เด เคอา
อีก 2 นาทีต่อมา แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ 20 สมัย หวิดบวกสกอร์เพิ่ม โรบิน ฟาน เพอร์ซี ดูดบอลลงพื้นเกี่ยวหลบ โคโล ตูเร แล้วดีดเต็มแรงตรงหัวกะโหลก แบรด โจนส์ เทกตัวปัดข้ามคาน จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะไป 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 31 แต้ม จาก 16 นัด ขยับขึ้นอันดับ 3 ของตาราง ไล่กวด แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ เชลซี 5 และ 8 แต้ม ตามลำดับ
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , ฟิล โจนส์ , จอนนี อีแวนส์ , แอชลีย์ ยัง , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ฆวน มานูเอล มาตา , เวย์น รูนีย์ , ไมเคิล คาร์ริค , มารูยาน เฟลไลนี , โรบิน ฟาน เพอร์ซี , เจมส์ วิลสัน
ลิเวอร์พูล : แบรด โจนส์ , เกล็น จอห์นสัน , เดยัน ลอฟเรน , อัลแบร์โต โมเรโน , มาร์ติน สเคอร์เทล , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , โจ อัลเลน , ฟิลิปเป คูตินโญ , อดัม ลัลลานา , ราฮีม สเตอร์ลิง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *