คอลัมน์ BUZZER BEAT โดย MVP
ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส หากเอ่ยชื่อทีมนี้ตั้งแต่ก่อนเปิดฉาก ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะยกเป็นหนึ่งในบรรดาตัวเต็ง หลังจากเคยคว้าแชมป์สาย เอ็นเอฟซี (NFC) มา 1 จากการเข้ารอบชิงชนะเลิศ 3 ครั้งล่าสุด แต่เล่นไปเล่นมากลับกลายเป็นว่า กำลังจะหลุดวงโคจรเพลย์ออฟเสียอย่างนั้น เรียกได้ว่าอาจจะดูเซอร์ไพรส์เล็กๆ สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายฤดูกาลปกติ 2014
อย่างที่ทราบกันว่า โฟร์ตีไนเนอร์ส เพิ่งปราชัยแบบพลิกล็อกแก่ โอคแลนด์ เรดเดอร์ส 13-24 ทำให้สถานการณ์ตอนนี้สถิติเหลือ ชนะ 7 แพ้ 6 พวกเขาตกเป็นรอง ซีแอตเติล ซีฮอว์คส (9-4) 2 เกม และ อริโซนา คาร์ดินัลส์ (10-3) 3 เกม โอกาสลุ้นแชมป์กลุ่ม เอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันตก คงไม่ต้องพูดถึง หรือโควตาไวลด์การ์ดแทบจะลุ้นไม่ขึ้น เพราะ ดัลลัส คาวบอยส์ กับ ดีทรอยต์ ไลออนส์ เองก็ผลงานเท่ากันที่ ชนะ 9 แพ้ 4
โปรแกรม 3 สัปดาห์สุดท้ายของ ไนเนอร์ส ก็หฤโหดใช่ย่อย พวกเขาต้องเจอกับทีมที่กำลังไล่ล่าพื้นที่เพลย์ออฟ เริ่มจากสัปดาห์ที่ 15 พบ ซานดีเอโก ชาร์เจอร์ส ตามด้วย พบ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส และตบท้ายด้วยการดวลกับ อริโซนา คาร์ดินัลส์ ซึ่ง 3 ทีมนี้ ล้วนแต่มีผลงานเหนือกว่าทั้งสิ้น สรุปแล้วอย่างช้าสุดอีกสัก 2 สัปดาห์ ก็คงต้องบอกลาโพสต์ซีซันอย่างเป็นทางการ
สถานการณ์เช่นนี้ เก้าอี้ของ ฮาร์บอห์คนน้อง ดูจะร้อนฉ่าขึ้นมาทันที และโอกาสที่จะต้องถูกขับพ้นถิ่น ลีวายส์ สเตเดียม ก็มีความเป็นไปได้สูง แต่ด้วยดีกรีโค้ชคนแรก ซึ่งพาทีมเข้าถึงรอบชิงแชมป์สาย 3 ปีติดต่อกัน ฝั่ง เรดเดอร์ส ก็ยินดีอ้าแขนรับอยู่แล้ว แถมตอนนี้ “สลัดดำ” ก็มีเพียง โทนี สปาราโน ทำหน้าที่ขัดตาทัพเท่านั้น รวมถึง เจ็ตส์ ที่มีขุมกำลังชั้นดีอย่าง คริส จอห์นสัน กับ เอริค เด็คเกอร์ ขาดเพียงควอเตอร์แบ็กเจ๋งๆ เท่านั้น
ปัญหาอีกจุดหนึ่งน่าจะอยู่ที่ทีมบุกซึ่งดูจะฝืดลงกว่าเดิม ทำคะแนนเฉลี่ยเพียง 18.8 แต้มต่อเกม หากเทียบกับซีซันก่อน ทำได้ 25.4แต้มต่อเกม ทั้งๆ ที่ผู้เล่นตัวหลักก็อยู่กันครบทั้ง เวอร์นอน เดวิส ปีกใน , อันควาน โบลดิน กับ ไมเคิล แคร็บทรี คู่ปีกนอก และ แฟรงค์ กอร์ รันนิงแบ็กตัวเก๋า แน่นอนว่า แฟนๆ น่าจะจ้องเล่นงาน โคลิน เคเปอร์นิก ควอเตอร์แบ็กตัวเก่ง ที่ทำได้เพียง 1 ทัชดาวน์ เสีย 4 อินเทอร์เซ็ปต์ ตลอด 2 เกมล่าสุด
เมื่อถึงเวลาต้องเลือก ฝ่ายบอร์ดบริหารก็คงตัดสินใจเก็บ เคเปอร์นิก ซึ่งเพิ่งจะฟันเงิน 6 ปี 126 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ช่วงออฟซีซันที่ผ่านมา มากกว่าต่อสัญญาโค้ชที่ผลงานไม่เข้าตา แถมครั้งหนึ่งก็ยังมีความคิดเทรดให้ คลีฟแลนด์ บราวน์ส เสียอีก แต่นั่นจะเป็นทางออกสู่การพา ไนเนอร์ส กลับมาเกรียงไกรอีกครั้งหรือเปล่า ก็คงต้องรอพิสูจน์กัน ครั้นออกสตาร์ทฤดูกาล 2015
ความจริงแล้ว เคเปอร์นิก เองก็แจ้งเกิดจากการใช้พลังขามากกว่าพลังแขน ดังนั้น หากคู่แข่งจะรับมือ ก็ต้องโอบล้อมจนหนีจากพ็อกเก็ตไม่ได้ก็น่าจะหมดพิษสงลงทันตา และจุดนี้เองก็น่าจะเป็นสาเหตุว่า เกมวิ่งของ ไนเนอร์ส ก็ดูจะดร็อปลง เท่ากับว่าการนวดทีมรับตามแบบฉบับ “เวสต์ โคสต์ ออฟเฟนซ์ (เน้นวิ่งและขว้างสั้น)” ก็ลดประสิทธิภาพลงไปด้วย บางทีจุดอ่อนอย่างแท้จริง อาจเป็น ควอเตอร์แบ็กหนุ่มวัย 27 ปี ก็เป็นได้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส หากเอ่ยชื่อทีมนี้ตั้งแต่ก่อนเปิดฉาก ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะยกเป็นหนึ่งในบรรดาตัวเต็ง หลังจากเคยคว้าแชมป์สาย เอ็นเอฟซี (NFC) มา 1 จากการเข้ารอบชิงชนะเลิศ 3 ครั้งล่าสุด แต่เล่นไปเล่นมากลับกลายเป็นว่า กำลังจะหลุดวงโคจรเพลย์ออฟเสียอย่างนั้น เรียกได้ว่าอาจจะดูเซอร์ไพรส์เล็กๆ สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายฤดูกาลปกติ 2014
อย่างที่ทราบกันว่า โฟร์ตีไนเนอร์ส เพิ่งปราชัยแบบพลิกล็อกแก่ โอคแลนด์ เรดเดอร์ส 13-24 ทำให้สถานการณ์ตอนนี้สถิติเหลือ ชนะ 7 แพ้ 6 พวกเขาตกเป็นรอง ซีแอตเติล ซีฮอว์คส (9-4) 2 เกม และ อริโซนา คาร์ดินัลส์ (10-3) 3 เกม โอกาสลุ้นแชมป์กลุ่ม เอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันตก คงไม่ต้องพูดถึง หรือโควตาไวลด์การ์ดแทบจะลุ้นไม่ขึ้น เพราะ ดัลลัส คาวบอยส์ กับ ดีทรอยต์ ไลออนส์ เองก็ผลงานเท่ากันที่ ชนะ 9 แพ้ 4
โปรแกรม 3 สัปดาห์สุดท้ายของ ไนเนอร์ส ก็หฤโหดใช่ย่อย พวกเขาต้องเจอกับทีมที่กำลังไล่ล่าพื้นที่เพลย์ออฟ เริ่มจากสัปดาห์ที่ 15 พบ ซานดีเอโก ชาร์เจอร์ส ตามด้วย พบ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส และตบท้ายด้วยการดวลกับ อริโซนา คาร์ดินัลส์ ซึ่ง 3 ทีมนี้ ล้วนแต่มีผลงานเหนือกว่าทั้งสิ้น สรุปแล้วอย่างช้าสุดอีกสัก 2 สัปดาห์ ก็คงต้องบอกลาโพสต์ซีซันอย่างเป็นทางการ
สถานการณ์เช่นนี้ เก้าอี้ของ ฮาร์บอห์คนน้อง ดูจะร้อนฉ่าขึ้นมาทันที และโอกาสที่จะต้องถูกขับพ้นถิ่น ลีวายส์ สเตเดียม ก็มีความเป็นไปได้สูง แต่ด้วยดีกรีโค้ชคนแรก ซึ่งพาทีมเข้าถึงรอบชิงแชมป์สาย 3 ปีติดต่อกัน ฝั่ง เรดเดอร์ส ก็ยินดีอ้าแขนรับอยู่แล้ว แถมตอนนี้ “สลัดดำ” ก็มีเพียง โทนี สปาราโน ทำหน้าที่ขัดตาทัพเท่านั้น รวมถึง เจ็ตส์ ที่มีขุมกำลังชั้นดีอย่าง คริส จอห์นสัน กับ เอริค เด็คเกอร์ ขาดเพียงควอเตอร์แบ็กเจ๋งๆ เท่านั้น
ปัญหาอีกจุดหนึ่งน่าจะอยู่ที่ทีมบุกซึ่งดูจะฝืดลงกว่าเดิม ทำคะแนนเฉลี่ยเพียง 18.8 แต้มต่อเกม หากเทียบกับซีซันก่อน ทำได้ 25.4แต้มต่อเกม ทั้งๆ ที่ผู้เล่นตัวหลักก็อยู่กันครบทั้ง เวอร์นอน เดวิส ปีกใน , อันควาน โบลดิน กับ ไมเคิล แคร็บทรี คู่ปีกนอก และ แฟรงค์ กอร์ รันนิงแบ็กตัวเก๋า แน่นอนว่า แฟนๆ น่าจะจ้องเล่นงาน โคลิน เคเปอร์นิก ควอเตอร์แบ็กตัวเก่ง ที่ทำได้เพียง 1 ทัชดาวน์ เสีย 4 อินเทอร์เซ็ปต์ ตลอด 2 เกมล่าสุด
เมื่อถึงเวลาต้องเลือก ฝ่ายบอร์ดบริหารก็คงตัดสินใจเก็บ เคเปอร์นิก ซึ่งเพิ่งจะฟันเงิน 6 ปี 126 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ช่วงออฟซีซันที่ผ่านมา มากกว่าต่อสัญญาโค้ชที่ผลงานไม่เข้าตา แถมครั้งหนึ่งก็ยังมีความคิดเทรดให้ คลีฟแลนด์ บราวน์ส เสียอีก แต่นั่นจะเป็นทางออกสู่การพา ไนเนอร์ส กลับมาเกรียงไกรอีกครั้งหรือเปล่า ก็คงต้องรอพิสูจน์กัน ครั้นออกสตาร์ทฤดูกาล 2015
ความจริงแล้ว เคเปอร์นิก เองก็แจ้งเกิดจากการใช้พลังขามากกว่าพลังแขน ดังนั้น หากคู่แข่งจะรับมือ ก็ต้องโอบล้อมจนหนีจากพ็อกเก็ตไม่ได้ก็น่าจะหมดพิษสงลงทันตา และจุดนี้เองก็น่าจะเป็นสาเหตุว่า เกมวิ่งของ ไนเนอร์ส ก็ดูจะดร็อปลง เท่ากับว่าการนวดทีมรับตามแบบฉบับ “เวสต์ โคสต์ ออฟเฟนซ์ (เน้นวิ่งและขว้างสั้น)” ก็ลดประสิทธิภาพลงไปด้วย บางทีจุดอ่อนอย่างแท้จริง อาจเป็น ควอเตอร์แบ็กหนุ่มวัย 27 ปี ก็เป็นได้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
