“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาพิชิต “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 2-1 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ คีแรน กิบบ์ส แบ็กซ้าย ก่อน เวย์น รูนีย์ ดาวยิงกัปตันทีม ตอกฝาโลงช่วงท้ายเกม ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล จัดแนวรุกเต็มอัตราศึก วาง แดนนี เวลเบ็ค ประสานงาน อเล็กซิส ซานเชซ กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ล่าตาข่าย โดยมี อารอน แรมซีย์ กับ แจ็ค วิลเชียร์ ปั้นเกมแดนกลาง เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดียม ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งคาดว่าจะยึดจะระบบ 3-5-2 จัด คริส สมอลลิง, แพทริค แม็คแนร์ กับ ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ เป็น 3 เซ็นเตอร์แบ็ก และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี กับ เวย์น รูนีย์ เป็นทีเด็ดแนวรุก
เสียงนกหวีดดังขึ้น อาร์เซนอล ทำเกมรุกไหลลื่นกว่าช่วงต้น ก่อนทักทายน่ากลัวนาทีที่ 9 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โยนจากริมเส้นด้านขวา แดนนี เวลเบ็ค เทกตัวโหม่งสะบัดแบบโล่งๆ ข้ามคาน ถัดมานาที 13 เจ้าถิ่น ทิ้งโอกาสทอง ดาบิด เด เคอา นายทวาร เตะเปิดเกมไม่พ้นอันตราย เวลเบ็ค เก็บตก แล้วไหลเข้ากลาง แจ็ค วิลเชียร์ สอดทะลุเข้าเขตโทษ แล้วแปแบบเน้นๆ ติดเซฟ เด เคอา อย่างน่าเสียดาย
ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ยังครองบอลบุกมากกว่า และหวิดออกนำอีกครั้งนาที 24 อเล็กซิส ซานเชซ จ่ายทะลุช่องเจาะตรงกลาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โฉบเข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วตวัดยิงติดเซฟ ดาบิด เด เคอา เช่นเคย ต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอบโต้ได้หวาดเสียว นาที 34 อังเคล ดิ มาเรีย ลากตัดจากริมเส้นด้านขวา เข้าเขตโทษ แล้วปั่นไซด์โป้งด้วยเท้าซ้าย หลุดเสาไกลนิดเดียว ช่วงท้ายเกมก้ำกึ่งสูสี แต่โอกาสเข้าทำยังไม่จะแจ้ง ครบ 45 นาที เสมอกัน 0-0
ลุยต่อครึ่งหลัง “เดอะ กันเนอร์ส” เปิดฉากลุยทันทีจนเกือบขึ้นนำนาที 49 อเล็กซิส ซานเชซ ดีดไซด์ก้อยออกกราบซ้าย แดนนี เวลเบ็ค กระชากหนี แพทริค แม็คแนร์ เข้าเขตโทษ แล้วแปเน้นๆ มุมแคบติดบล็อก ดาบิด เด เคอา นายทวาร ถัดมานาที 56 สาวก “เรด เดวิลส์” ส่งเสียงเฮลั่น แอชลีย์ ยัง ตัวสำรอง โยนจากกราบซ้าย วอจเซียซ เซสนีย์ นายทวารชกออกมาเสาสองไม่พ้นอันตราย อันโตนิโอ วาเลนเซีย วิ่งมาตะบันเต็มแรงแฉลบ คีแรน กิบบ์ส ซุกก้นตาข่าย
สถานการณ์ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังเลวร้ายไม่พอ หลังเสียประตู เนื่องจากต้องเสีย วอจเซียซ เซสนีย์ นายทวาร ปะทะกับ คีแรน กิบบ์ส จนบาดเจ็บ ต้องเปลี่ยน เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ดาวรุ่ง เฝ้าเสาแทน จากนั้น “ปืนใหญ่” โหมบุกหมายทวงคืน แต่มาโดนเสียเองนาที 85 จากเกมสวนกลับ อังเคล ดิ มาเรีย เก็บบอลทางขวา แล้วไหลเข้าช่องตรงกลางให้ เวย์น รูนีย์ หลุดมาล่อเป้า ก่อนชิปนิ่มๆ ข้าม มาร์ติเนซ เสียบมุมขวามือ
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 (8 นาที) ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล น่าย้ำชัยแบบสุดๆ อังเคล ดิ มาเรีย หลุดเดี่ยวมาล่อเป้า แล้วยกข้าม เอมิเลียโน มาร์ติเนซ หลุดเสาขวามือ ถัดมา 1 นาที แชมป์ เอฟเอ คัพ 2013-14 จุดประกายความหวัง มิเกล อาร์เตตา ทิ้งบอลยาวมาทางหน้าเขตโทษด้านซ้าย โอลิวิเยร์ ชีรูด์ วอลเลย์ยัดเสาแรก ผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ตุงตาข่าย จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 19 แต้ม จาก 12 นัด ขึ้นอันดับ 4 ของตาราง ส่วน อาร์เซนอล มี 17 แต้ม หล่นอันดับ 8
รายชื่อ 11 ตัวจริง
อาร์เซนอล : วอจเซียซ เซสนีย์ , คีแรน กิบบ์ส , แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ , นาโช มอนเรอัล , คาลัม เชมเบอร์ส , มิเกล อาร์เตตา , แจ็ค วิลเชียร์ , อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน , อารอน แรมซีย์ , อเล็กซิส ซานเชซ , แดนนี เวลเบ็ค
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , คริส สมอลลิง , แพทริค แม็คแนร์ , ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ , ลุค ชอว์ , เวย์น รูนีย์ , ไมเคิล คาร์ริค , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , มารูยาน เฟลไลนี , อังเคล ดิ มาเรีย , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล จัดแนวรุกเต็มอัตราศึก วาง แดนนี เวลเบ็ค ประสานงาน อเล็กซิส ซานเชซ กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ล่าตาข่าย โดยมี อารอน แรมซีย์ กับ แจ็ค วิลเชียร์ ปั้นเกมแดนกลาง เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดียม ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งคาดว่าจะยึดจะระบบ 3-5-2 จัด คริส สมอลลิง, แพทริค แม็คแนร์ กับ ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ เป็น 3 เซ็นเตอร์แบ็ก และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี กับ เวย์น รูนีย์ เป็นทีเด็ดแนวรุก
เสียงนกหวีดดังขึ้น อาร์เซนอล ทำเกมรุกไหลลื่นกว่าช่วงต้น ก่อนทักทายน่ากลัวนาทีที่ 9 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โยนจากริมเส้นด้านขวา แดนนี เวลเบ็ค เทกตัวโหม่งสะบัดแบบโล่งๆ ข้ามคาน ถัดมานาที 13 เจ้าถิ่น ทิ้งโอกาสทอง ดาบิด เด เคอา นายทวาร เตะเปิดเกมไม่พ้นอันตราย เวลเบ็ค เก็บตก แล้วไหลเข้ากลาง แจ็ค วิลเชียร์ สอดทะลุเข้าเขตโทษ แล้วแปแบบเน้นๆ ติดเซฟ เด เคอา อย่างน่าเสียดาย
ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ยังครองบอลบุกมากกว่า และหวิดออกนำอีกครั้งนาที 24 อเล็กซิส ซานเชซ จ่ายทะลุช่องเจาะตรงกลาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โฉบเข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วตวัดยิงติดเซฟ ดาบิด เด เคอา เช่นเคย ต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอบโต้ได้หวาดเสียว นาที 34 อังเคล ดิ มาเรีย ลากตัดจากริมเส้นด้านขวา เข้าเขตโทษ แล้วปั่นไซด์โป้งด้วยเท้าซ้าย หลุดเสาไกลนิดเดียว ช่วงท้ายเกมก้ำกึ่งสูสี แต่โอกาสเข้าทำยังไม่จะแจ้ง ครบ 45 นาที เสมอกัน 0-0
ลุยต่อครึ่งหลัง “เดอะ กันเนอร์ส” เปิดฉากลุยทันทีจนเกือบขึ้นนำนาที 49 อเล็กซิส ซานเชซ ดีดไซด์ก้อยออกกราบซ้าย แดนนี เวลเบ็ค กระชากหนี แพทริค แม็คแนร์ เข้าเขตโทษ แล้วแปเน้นๆ มุมแคบติดบล็อก ดาบิด เด เคอา นายทวาร ถัดมานาที 56 สาวก “เรด เดวิลส์” ส่งเสียงเฮลั่น แอชลีย์ ยัง ตัวสำรอง โยนจากกราบซ้าย วอจเซียซ เซสนีย์ นายทวารชกออกมาเสาสองไม่พ้นอันตราย อันโตนิโอ วาเลนเซีย วิ่งมาตะบันเต็มแรงแฉลบ คีแรน กิบบ์ส ซุกก้นตาข่าย
สถานการณ์ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังเลวร้ายไม่พอ หลังเสียประตู เนื่องจากต้องเสีย วอจเซียซ เซสนีย์ นายทวาร ปะทะกับ คีแรน กิบบ์ส จนบาดเจ็บ ต้องเปลี่ยน เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ดาวรุ่ง เฝ้าเสาแทน จากนั้น “ปืนใหญ่” โหมบุกหมายทวงคืน แต่มาโดนเสียเองนาที 85 จากเกมสวนกลับ อังเคล ดิ มาเรีย เก็บบอลทางขวา แล้วไหลเข้าช่องตรงกลางให้ เวย์น รูนีย์ หลุดมาล่อเป้า ก่อนชิปนิ่มๆ ข้าม มาร์ติเนซ เสียบมุมขวามือ
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 (8 นาที) ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล น่าย้ำชัยแบบสุดๆ อังเคล ดิ มาเรีย หลุดเดี่ยวมาล่อเป้า แล้วยกข้าม เอมิเลียโน มาร์ติเนซ หลุดเสาขวามือ ถัดมา 1 นาที แชมป์ เอฟเอ คัพ 2013-14 จุดประกายความหวัง มิเกล อาร์เตตา ทิ้งบอลยาวมาทางหน้าเขตโทษด้านซ้าย โอลิวิเยร์ ชีรูด์ วอลเลย์ยัดเสาแรก ผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ตุงตาข่าย จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 19 แต้ม จาก 12 นัด ขึ้นอันดับ 4 ของตาราง ส่วน อาร์เซนอล มี 17 แต้ม หล่นอันดับ 8
รายชื่อ 11 ตัวจริง
อาร์เซนอล : วอจเซียซ เซสนีย์ , คีแรน กิบบ์ส , แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ , นาโช มอนเรอัล , คาลัม เชมเบอร์ส , มิเกล อาร์เตตา , แจ็ค วิลเชียร์ , อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน , อารอน แรมซีย์ , อเล็กซิส ซานเชซ , แดนนี เวลเบ็ค
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , คริส สมอลลิง , แพทริค แม็คแนร์ , ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ , ลุค ชอว์ , เวย์น รูนีย์ , ไมเคิล คาร์ริค , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , มารูยาน เฟลไลนี , อังเคล ดิ มาเรีย , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *