“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้องลุ้นถึงวินาทีสุดท้าย กว่าจะเชือด “ทหารเสือราชินี” ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส 3-2 จากการสกัดเข้าประตูตัวเองของ สตีเวน โคลเกอร์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ขยับขึ้นกลุ่มท็อป 5 ของ พรีเมียร์ ลีก ชั่วคราว
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ควีนสปาร์กฯ 2-3 ลิเวอร์พูล
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล ยังขาด แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าที่ยังคงมีปัญหาบาดเจ็บ ส่ง มาริโอ บาโลเตลลี ประสานงาน ราฮีม สเตอร์ลิง และ อดัม ลัลลานา ล่าตาข่าย พร้อม เอ็มเร คาน มิดฟิลด์ป้ายแดง หายเจ็บ ลงคุมแดนกลางกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน บุกรัง ลอฟตัส โรด รับมือ ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส
เสียงนกหวีดดังขึ้น บอลอยู่ในการครอบครองของ ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ เสียส่วนใหญ่ช่วงต้นเกม และทักทายน่ากลัวนาทีที่ 10 ชาร์ลี ออสติน ปั๊มบอลแย่งกับ เกล็น จอห์น แถม มาร์ติน สเคอร์เทล ยังเข้าพรวด จนหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วยิงติดบล็อก ซิมง มิโญเลต์ นายทวาร ก่อนซ้ำดาบสองแบบจ่อๆ เข้าหน้าต่าง เกมรุก ลิเวอร์พูล ยังต่อกันไม่ติดจนเกือบโดนก่อนนาที 28 บ็อบบี ซาโมรา หลุดมาทางเขตโทษด้านขวา ทิ้งตัวตวัดเข้ากลาง เลรอย เฟอร์ วิ่งมาแประยะเผาขนแฉลบคานออกหลัง
ทีมของ แฮร์รี เรดแนปป์ ปล่อยโอกาสทองหลุดมืออีกครั้งนาที 34 บ็อบบี ซาโมรา ตั้งป้อมโยนจากขวาเข้ากลาง เลรอย เฟอร์ เทกตัวโหม่งสวน ซิมง มิโญเลต์ นายทวาร ชนคานตกลงมาชุลมุนอยู่หน้าประตู สุดท้าย เกล็น จอห์นสัน ขวางจังหวะตามซ้ำของ ชาร์ลี ออสติน ก่อน มาร์ติน สเคอร์เทล เคลียร์พ้นอันตราย ถัดมานาที 44 “หงส์แดง” หวิดปลดล็อก มาริโอ บาโลเตลลี ชิ่งให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด กับตันทีม สอดทะลุเข้าเขตโทษด้านซ้าย ล็อกหนีตัวประกบ แล้วปั่นไซด์เฉี่ยวโคนเสาไกล ครบ 45 นาที เสมอ 0-0
ครึ่งหลังเปิดฉากมาเพียง 2 นาที “ทหารเสือราชินี” ได้เสียว แม็ทธิว ฟิลลิปส์ ตัวสำรอง ขยับหลอกตัวประกบ แล้วเปิดจากขวา เดยัน ลอฟเรน โหม่งเคลียร์มาเข้าทาง ซานโดร ตั้งป้อมกดเต็มข้อ ซิมง มิโญเลต์ ล้มตัวปัดออกหลัง ถัดมานาที 55 เจ้าถิ่น ยังเดินเกมไหลลื่นกว่า คาร์ล เฮนรี แปหนุนยาวจากจากสนามให้ ชาร์ลี ออสติน หลุดเข้าเขตโทษด้านขวา แล้วยิงมุมแคบ ผ่านหน้าประตูไป
เข้าสู่นาที 61 ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ น่าออกนำแบบสุดๆ ราฮีม สเตอร์ลิง ลากลุยมาทางขวา จ่ายเข้ากลางติดบล็อก เมาริซิโอ อิสลา กระดอนมาถึง อดัม ลัลลาลา แปเน้นๆ จากเขตโทษด้านขวา อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ นายทวาร ปัดมาเข้าทาง มาริโอ บาโลเตลลี ซ้ำแบบโล่งๆ ข้ามคาน ถัดมา 6 นาที สาวก “เดอะ ค็อป” ส่งเสียงเฮ จากการเล่นฟรีคิกเร็วกราบขวา สเตอร์ลิง ไหลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผ่านเรียดเข้ากลาง ริชาร์ด ดันน์ สกัดเข้าประตูตัวเอง
ล่วงเลยมานาที 85 ความพยายามของ “คิวพีอาร์” สัมฤทธิ์ผลนาที 86 จังหวะเปิดจากขวามาเสาสอง ชาร์ลี ออสติน โหม่งชงเข้ากลาง เอดูอาร์โก วาร์กัส ชาร์จระยะเผาขนไม่พลาด ช่วงทดเจ็บนาทีแรก ทีมเยือน ออกนำอีกครั้งจากเกมสวนกลับ สตีเวน เจอร์ราร์ด แทงให้ ฟิลิปเป คูตินโญ ตัวสำรอง ลากตัดเข้าใน แล้วตะบันเรียดเสียบมุมเสาไกล ต่อมาเพียงไม่กี่อึดใจ ทีมน้องใหม่ ตีเสมอทันควัน เลรอย เฟอร์ โฉบโหม่งยัดเสาแรกตุงตาข่าย
เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ ทว่า “เดอะ เรดส์” กลับได้ประตูชัยจากจังหวะโต้กลับ ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากจากกลางสนามถึงเขตโทษด้านซ้าย แล้วตบเข้ากลาง สตีเวน โคลเกอร์ วิ่งมาช่วยสกัด แต่พลาดเข้าประตูตัวเอง จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะแบบหวุดหวิด 3-2 เก็บเพิ่มเป็น 13 แต้ม จาก 8 นัด แซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นอันดับ 5 ชั่วคราว
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ควีนสปาร์กฯ : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ , สตีเวน โคลเกอร์ , ยุน ซุก ยอง , เนดุม โอนูโอฮา , ริชาร์ด ดันน์ , เลรอย เฟอร์ , เมาริซิโอ อิสลา , คาร์ล เฮนรี , ซานโดร , ชาร์ลี ออสติน , บ็อบบี ซาโมรา
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , โฆเซ เอ็นริเก , เดยัน ลอฟเรน , มาร์ติน สเคอร์เทล , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , อดัม ลัลลานา , เอ็มเร คาน , ราฮีม สเตอร์ลิง , มาริโอ บาโลเตลลี
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ประจำวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม
สโต๊ก 2-1 สวอนซี
[0-1 วิลฟรีด โบนี (จุดโทษ) น.34 , 1-1 ชาร์ลี อดัม (จุดโทษ) น.43 , 2-1 โจนาธาน วอลเตอร์ส น.76]
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ควีนสปาร์กฯ 2-3 ลิเวอร์พูล
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล ยังขาด แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าที่ยังคงมีปัญหาบาดเจ็บ ส่ง มาริโอ บาโลเตลลี ประสานงาน ราฮีม สเตอร์ลิง และ อดัม ลัลลานา ล่าตาข่าย พร้อม เอ็มเร คาน มิดฟิลด์ป้ายแดง หายเจ็บ ลงคุมแดนกลางกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน บุกรัง ลอฟตัส โรด รับมือ ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส
เสียงนกหวีดดังขึ้น บอลอยู่ในการครอบครองของ ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ เสียส่วนใหญ่ช่วงต้นเกม และทักทายน่ากลัวนาทีที่ 10 ชาร์ลี ออสติน ปั๊มบอลแย่งกับ เกล็น จอห์น แถม มาร์ติน สเคอร์เทล ยังเข้าพรวด จนหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วยิงติดบล็อก ซิมง มิโญเลต์ นายทวาร ก่อนซ้ำดาบสองแบบจ่อๆ เข้าหน้าต่าง เกมรุก ลิเวอร์พูล ยังต่อกันไม่ติดจนเกือบโดนก่อนนาที 28 บ็อบบี ซาโมรา หลุดมาทางเขตโทษด้านขวา ทิ้งตัวตวัดเข้ากลาง เลรอย เฟอร์ วิ่งมาแประยะเผาขนแฉลบคานออกหลัง
ทีมของ แฮร์รี เรดแนปป์ ปล่อยโอกาสทองหลุดมืออีกครั้งนาที 34 บ็อบบี ซาโมรา ตั้งป้อมโยนจากขวาเข้ากลาง เลรอย เฟอร์ เทกตัวโหม่งสวน ซิมง มิโญเลต์ นายทวาร ชนคานตกลงมาชุลมุนอยู่หน้าประตู สุดท้าย เกล็น จอห์นสัน ขวางจังหวะตามซ้ำของ ชาร์ลี ออสติน ก่อน มาร์ติน สเคอร์เทล เคลียร์พ้นอันตราย ถัดมานาที 44 “หงส์แดง” หวิดปลดล็อก มาริโอ บาโลเตลลี ชิ่งให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด กับตันทีม สอดทะลุเข้าเขตโทษด้านซ้าย ล็อกหนีตัวประกบ แล้วปั่นไซด์เฉี่ยวโคนเสาไกล ครบ 45 นาที เสมอ 0-0
ครึ่งหลังเปิดฉากมาเพียง 2 นาที “ทหารเสือราชินี” ได้เสียว แม็ทธิว ฟิลลิปส์ ตัวสำรอง ขยับหลอกตัวประกบ แล้วเปิดจากขวา เดยัน ลอฟเรน โหม่งเคลียร์มาเข้าทาง ซานโดร ตั้งป้อมกดเต็มข้อ ซิมง มิโญเลต์ ล้มตัวปัดออกหลัง ถัดมานาที 55 เจ้าถิ่น ยังเดินเกมไหลลื่นกว่า คาร์ล เฮนรี แปหนุนยาวจากจากสนามให้ ชาร์ลี ออสติน หลุดเข้าเขตโทษด้านขวา แล้วยิงมุมแคบ ผ่านหน้าประตูไป
เข้าสู่นาที 61 ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ น่าออกนำแบบสุดๆ ราฮีม สเตอร์ลิง ลากลุยมาทางขวา จ่ายเข้ากลางติดบล็อก เมาริซิโอ อิสลา กระดอนมาถึง อดัม ลัลลาลา แปเน้นๆ จากเขตโทษด้านขวา อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ นายทวาร ปัดมาเข้าทาง มาริโอ บาโลเตลลี ซ้ำแบบโล่งๆ ข้ามคาน ถัดมา 6 นาที สาวก “เดอะ ค็อป” ส่งเสียงเฮ จากการเล่นฟรีคิกเร็วกราบขวา สเตอร์ลิง ไหลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผ่านเรียดเข้ากลาง ริชาร์ด ดันน์ สกัดเข้าประตูตัวเอง
ล่วงเลยมานาที 85 ความพยายามของ “คิวพีอาร์” สัมฤทธิ์ผลนาที 86 จังหวะเปิดจากขวามาเสาสอง ชาร์ลี ออสติน โหม่งชงเข้ากลาง เอดูอาร์โก วาร์กัส ชาร์จระยะเผาขนไม่พลาด ช่วงทดเจ็บนาทีแรก ทีมเยือน ออกนำอีกครั้งจากเกมสวนกลับ สตีเวน เจอร์ราร์ด แทงให้ ฟิลิปเป คูตินโญ ตัวสำรอง ลากตัดเข้าใน แล้วตะบันเรียดเสียบมุมเสาไกล ต่อมาเพียงไม่กี่อึดใจ ทีมน้องใหม่ ตีเสมอทันควัน เลรอย เฟอร์ โฉบโหม่งยัดเสาแรกตุงตาข่าย
เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ ทว่า “เดอะ เรดส์” กลับได้ประตูชัยจากจังหวะโต้กลับ ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากจากกลางสนามถึงเขตโทษด้านซ้าย แล้วตบเข้ากลาง สตีเวน โคลเกอร์ วิ่งมาช่วยสกัด แต่พลาดเข้าประตูตัวเอง จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะแบบหวุดหวิด 3-2 เก็บเพิ่มเป็น 13 แต้ม จาก 8 นัด แซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นอันดับ 5 ชั่วคราว
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ควีนสปาร์กฯ : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ , สตีเวน โคลเกอร์ , ยุน ซุก ยอง , เนดุม โอนูโอฮา , ริชาร์ด ดันน์ , เลรอย เฟอร์ , เมาริซิโอ อิสลา , คาร์ล เฮนรี , ซานโดร , ชาร์ลี ออสติน , บ็อบบี ซาโมรา
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , โฆเซ เอ็นริเก , เดยัน ลอฟเรน , มาร์ติน สเคอร์เทล , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , อดัม ลัลลานา , เอ็มเร คาน , ราฮีม สเตอร์ลิง , มาริโอ บาโลเตลลี
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ประจำวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม
สโต๊ก 2-1 สวอนซี
[0-1 วิลฟรีด โบนี (จุดโทษ) น.34 , 1-1 ชาร์ลี อดัม (จุดโทษ) น.43 , 2-1 โจนาธาน วอลเตอร์ส น.76]
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *