"เสี่ยเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม ผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย มั่นใจคว้าแชมป์อาเซียนได้อีกสมัยแม้ไร้แข้งบลูเวฟ และศึกชิงแชมป์เอเชียที่จะคัดทีมไปแข่งชิงแชมป์โลกปีหน้า ถ้าไม่ปล่อยนักเตะมาอีกก็จะใช้นักเตะชุดชิงแชมป์อาเซียนเดินทางไปแข่งขันแทน
ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตซอลทีมชาติไทยชุดสู้ศึกฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2014 ระหว่างวันที่ 19-29 ก.ย. 57 ที่เมืองชาห์อาลัม ประเทศมาเลเซีย โดยเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 17 ก.ย. 57 ทัพโต๊ะเล็กไทยได้ออกเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ออกจากสนามบินดอนเมือง ด้วยเที่ยวบิน FD 311 ด้าน "เสี่ยเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม ผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ได้เผยถึงการเดินทางไปแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนในครั้งนี้ว่า
"ในช่วงที่เดินทางกลับมาจากการเก็บตัวฝึกซ้อมในประเทศยุโรป ทางทีมชาติก็มีความประสงค์จะดึงเอานักเตะของสโมสรชลบุรี บลูเวฟมาร่วมทัพด้วย แต่ปรากฏว่าทางสโมสรไม่ให้ความสำคัญต่อทีมชาติ กลับส่งทีมไปร่วมการแข่งขันฟุตซอลนัดกระชับมิตรที่ประเทศคาซัคสถาน ทำให้ทีมชาติไทยพลาดได้นักเตะฝีเท้าดีเข้ามาร่วมทีมหลายคน จึงเป็นสาเหตุให้โค้ช วิคเตอร์ เฮอร์มัน ต้องตัดรายชื่อแข้งฉลามชลออก"
"ทั้งนี้ยังมั่นใจว่านักเตะสายเลือดใหม่ที่เรียกมาร่วมทีม หลังจากกลับมาจากการฝึกซ้อมอุ่นเครื่องในยุโรปหลายคนมีการเล่นที่พัฒนาขึ้น จึงทำให้มั่นใจว่าในศึกฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียนในครั้งนี้ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยน่าจะคว้าแชมป์มาครองได้อีกสมัย และในศึกชิงแชมป์เอเชียที่จะคัดทีมเดินทางไปแข่งขันชิงแชมป์โลก ถ้าทีมชลบุรี บลูเวฟไม่ยอมส่งนักเตะเข้ามาร่วมทีมชาติอีกครั้ง เราก็จำเป็นจะต้องหาตัวใหม่เข้ามาเสริมทีมแทนต่อไป และอาจจะเอานักเตะชุดที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนเดินทางไปแข่งขันแบบยกชุดก็เป็นได้" ผู้จัดการทีมโต๊ะเล็ก กล่าว
นอกจากนี้ "เสี่ยเปี๊ยก" ยังแสดงความกังวลว่านักเตะไม่มีขวัญกำลังใจในการเล่น จึงได้มอบหมายให้ สงคราม ตะวัน ผู้ช่วยผู้จัดการทีมนำเงินก้อนโตมามอบให้กับนักเตะเป็นพ็อกเกตมันนี่ก่อนที่จะยกทีมเดินทางไปแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียนในแดนเสือเหลืองต่อไป
สำหรับโปรแกรมแข่งขันฟุตซอลทีมชาติชิงแชมป์อาเซียน 2014 ในรอบแรกของทีมไทย วันที่ 20 ก.ย. 57 เวลา 11.00 น. พบฟิลิปปินส์, วันที่ 21 ก.ย. 57 เวลา 08.30 น. พบลาว, วันที่ 22 ก.ย. 57 เวลา 13.30 น. พบเมียนมาร์ และวันที่ 23 ก.ย. 57 เวลา 13.30 น. พบกับเวียดนาม
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *