ASTV ผู้จัดการรายวัน – ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับศึก “เวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ 2014” โดยนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ทำผลงานแข่ง 9 นัด ชนะ 2 แพ้ 7 รั้งที่ 11 ของตาราง ซึ่งแม้จะไม่ผ่านด่านอรหันต์เข้าไปเล่นรอบสุดท้าย แต่สิ่งที่สังเกตได้อย่างชัดเจนเลยทัวร์นาเมนต์นี้บรรดานักตบลูกยางเลือดใหม่ได้รับโอกาสมากขึ้น ดังนั้น จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะก้าวขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ในอนาคต
จากนี้นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย มี 2 ศึกใหญ่รออยู่เบื้องหน้าคือ “เอเชียน เกมส์” ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน - 4 ตุลาคม 2557 และศึกชิงแชมป์โลก 2014 ที่ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 23 กันยายน - 12 ตุลาคม 2557 ทำให้ต้องแบ่งนักกีฬาออกเป็น 2 ชุด เนื่องจากการแข่งขันดังกล่าวคาบเกี่ยวกัน โดย “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้วางแผนรับมือมานานแล้ว ดังนั้น ศึก WGP จึงให้โอกาสผู้เล่นดาวรุ่งได้ทดสอบศักยภาพมากเป็นพิเศษ
“รายชื่อของนักกีฬาทั้ง 2 ชุด จะมีการประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ซึ่งเราได้ทำการฝึกซ้อมนักกีฬารวมกันทั้งหมด ตั้งแต่จบการแข่งขันชิงถ้วย ก. ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อให้มีความคุ้นเคยและประสานงานกันอย่างเข้าใจทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง และได้มีโอกาสลงแข่งขันในศึก เวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ โดยเห็นได้ว่าการเปลี่ยนตัวดาวรุ่งลงมาแทนนั้น สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการช่วยทีมคว้าชัยชนะถึง 2 นัด ทั้งที่เรามีอันดับโลกเป็นรอง นับว่าเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้วสำหรับการใช้งานผู้เล่นใหม่” โค้ชอ๊อต เผย
ทั้งนี้ กุนซือวัย 48 ปี ยังได้เผยถึงเป้าหมายของการแข่งขันทั้ง 2 ศึกใหญ่ให้ฟังด้วยว่า “การแข่งขัน เอเชียน เกมส์ แม้ว่าผลงานที่ผ่านมาทั้ง 4 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1998 เราทำอับดับดีที่สุดคือที่ 4 และใน กวางโจว เกมส์ 2010 เราจบที่อันดับ 5 แต่ไม่ได้หมายความว่าความหวังในการคว้าเหรียญรางวัลของเราที่เกาหลีใต้จะน้อยลง อย่างที่ทราบกันดีว่าคู่แข่งสำคัญอย่าง จีน และ ญี่ปุ่น จะไม่ส่งผู้เล่นชุดใหญ่มาแข่งขัน ซึ่งคาดการ์ณว่า สาวจีน จะต้องส่งผู้เล่นชุดยู 23 ที่เราเคยพบในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2013 และสามารถเอาชนะมาได้ โดยผู้เล่นชุดนี้เราจะได้เปรียบในเรื่องบอลเร็ว ขณะที่ญี่ปุ่นชุดสำรอง มีฝีมือไม่ต่างจากชุดใหญ่ แต่เราได้พยายามหาจุดอ่อนของแต่ละตำแหน่ง เพื่อเตรียมนำมาแก้ไขต่อไปแล้ว ทั้งนี้ เป้าหมายของสมาคมฯ คือการคว้า 1 เหรียญในอินชอนเกมส์ให้สำเร็จ”
ส่วนศึกชิงแชมป์โลกนั้นการแข่งขันครั้งล่าสุด ปี 2010 ทีมไทยจบอันดับ 13 ซึ่งถือว่าเป็นผลงานดีที่สุดเท่าที่เคยทำได้ “รายการนี้เราต้องการให้ผู้เล่นไปหาประสบการณ์เพื่อนำมาปรับใช้ ซึ่งเป้าหมายเราคือการทำอันดับโลกให้ดีขึ้น โดยสมาคมฯ ได้ให้ความสำคัญไม่ต่างจาก เอเชียน เกมส์ เพียงแต่ว่ารายการนี้ผู้เล่นจะได้ประสบการณ์ที่นำมาต่อยอดได้มากกว่า” โค้ชอ๊อต ทิ้งท้าย
ด้าน ทัดดาว นึกแจ้ง บอลเร็วทีมชาติไทย ที่ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงตั้งแต่ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2013 มาจนถึงแมตช์ เวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ ที่ผ่านมา ได้กล่าวถึงแนวทางในการพัฒนาตัวเอง เกิดจากการใช้วิธีครูพักลักจำ “จากการที่ได้ฝึกซ้อมร่วมกับรุ่นพี่ ทำให้เราได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์มามากมาย โดยเฉพาะกับ พี่หน่อง ปลื้มจิตร์ ถินขาว ซึ่งจะคอยสอนว่าการสปริงมือที่จะตบแต่ละครั้ง ต้องอยู่ในระดับไหน หรือการสังเกตคู่แข่ง เพื่อฉวยโอกาสในการทำบอลเร็ว ซึ่งเทคนิคดังกล่าวตนเองได้นำมาใช้ ประกอบกับการที่เป็นคนช่างสังเกต จึงมักจะนำเทคนิคของผู้เล่นจีนมาใช้กับตัวเอง เช่น การใช้สายตาหลอกคู่แข่ง และตบบอลหลอกทิศทาง ส่วนตัวคิดว่าหากมีโอกาสได้ลงทีมแข่งเอเชียนเกมส์ จะเล่นอยู่ในฟอร์มที่ดีกว่า เพราะรูปร่างไม่ต่างกันมาก”
ส่วน พรพรรณ เกิดปราชญ์ ที่ยอมรับว่าตนเองยังไม่สามารถเทียบรุ่นกับ นุศรา ต้อมคำ มือเซตที่ดีที่สุดในโลกได้เลย เพราะยังอ่อนประสบการณ์ แต่ก็จะพยายาม “ส่วนตัวพร้อมทั้งร่างกาย พละกำลัง และความมุ่งมั่น แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยังไม่มากพอ ทำให้ยังไม่สามารถต่อกรกับคู่แข่งที่เหนือกว่าเราได้ดีพอ เหมือนกับที่ พี่ซาร่า ทำได้ จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้ลงเป็นตัวจริงเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่ฝึกซ้อมจะได้คำแนะนำที่มีประโยชน์จากรุ่นพี่เสมอ ซึ่งคิดว่าจะเป็นเรื่องหากได้รับโอกาสให้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเวทีที่มีคู่แข่งที่แข็งแกร่ง เพราะหากสามารถโชว์ฟอร์มได้ตามที่ฝึกซ้อม หรือมีการพัฒนาที่เพิ่มขึ้น คงจะได้รับความไว้วางใจจากโค้ช และรุ่นพี่เพิ่มมากขึ้น”
สำหรับ อัจฉราพร คงยศ อีกหนึ่งผู้เล่นที่ถือเป็นตัวความหวังในอนาคตเลยก็ว่าได้ โดย “เพียว” ยังมีจุดเด่นที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งทั้งบอลหลัก บอลสั้น หัวเสา และยังได้รับโอกาสให้มีชื่อเป็นผู้เล่นตัวจริง ในศึก เวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ ที่เพิ่งผ่านมา “หนูรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับโอกาส และการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ เพราะมีโอกาสไม่บ่อยนักที่จะได้พบกับทีมอันดับต้นๆ ของโลก เพราะที่ผ่านมามีโอกาสได้เจอคู่แข่งสำคัญในเอเชีย แต่เราไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงซึ่งภาพที่เพียวเห็นรุ่นพี่เล่น ทำให้เรามีความกระหายอยากเป็นแบบนั้นบ้าง ในเมื่อพวกพี่เขาทำได้ เราเองก็ต้องทำได้ จนได้รับโอกาสในที่สุด และรู้สึกว่าตัวเองประหม่าน้อยลง มีสมาธิมากขึ้น หากได้รับโอกาสทั้ง เอเชียน เกมส์ หรือชิงแชมป์โลก ก็อยากแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าโค้ชคิดไม่ผิดที่เลือกเรามา และส่วนตัวพร้อมที่จะเจอกับคู่แข่งจากทุกชาติ เพื่อพิสูจน์ตัวเอง”
ทั้งนี้ บทสรุปของทัพลูกยางสาวไทยจะออกมาเป็นอย่างไร คงต้องรอดูจากผลการแข่งขันที่จะออกมา หากสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ บรรดาสายเลือดใหม่เหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนรุ่นพี่ได้แบบไม่มีข้อครหา แต่หากผลไม่ออกมาตามเป้า ต้องมานั่งคิดกันอีกทีว่าจอมตบสาวไทย จะมีทางออกสำหรับอนาคตวอลเลย์บอลทีมชาติไทยต่อไปอย่างไร เพื่อสานต่อความสำเร็จต่อไปไม่ให้เกิดภาวะสุญญากาศเหมือนกีฬาชนิดอื่น
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *