โบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลั่นทีมยังมีโอกาสลุ้นแชมป์อยู่แม้คะแนนตามจ่าฝูงอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ถึง 9 แต้ม ด้าน แมตต์ เอลเลียตต์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน อาร์มี่ ยูไนเต็ด บอกยังเร็วเกินไปที่ทีมอย่าง “ทัพบก” จะหวังแชมป์แม้รั้งอันดับ 4 ของตารางการแข่งขัน
หลังจบเกมที่ สนามกีฬากองทัพบอก “สุภาพบุรุษวงจักร” อาร์มี่ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปอย่างสุดมันส์ 2-2 โดยเจ้าบ้านเป็นฝ่ายขึ้นนำถึงสองครั้งจากประตูของ ธนากรณ์ แดงทอง และ เอกชัย ฤทธิพันธ์ ด้าน “ปราสาทสายฟ้า” ได้ ฮาเวียร์ ปาตินโญ หอกตัวเก่งของทีมของประตูไล่ตีเสมอถึง 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม โบซิดาร์ บันโดวิช เฮดโค้ชชาวเซอร์เบียของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้กล่าวหลังจบเกมโดยชม ลูกทีมที่สามารถเล่นได้ดีในครึ่งหลัง พร้อมเชื่อมั่นทีมดังจากแดนอีสานใต้ยังมีโอกาสเป็นแชมป์แม้ตอนนี้แข่งมา 13 นัด มีแต้มตามหลัง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จ่าฝูงถึง 9 คะแนนด้วยกัน
“วันนี้เราเล่นได้ไม่ดีเท่าไร มีข้อผิดพลาดในครึ่งแรกเยอะมาก แต่ครึ่งหลังเราดีขึ้นเป็นรูปเกมที่ดีที่สุดตั้งแต่ผมคุมทีมมาแต่วันนี้เรายังเพรสซิ่งได้ไม่ดีนัก และเสียสองประตูจากข้อผิดพลาดรายบุคคลแต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดของทั้งทีม ผมอาจจะยังบอกไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นว่าจะหวังลุ้นแชมป์อยู่หรือไม่ แต่เรายังมีหวังอยู่ มันมีแค่สองทางคือเชื่อมั่นว่าจะทำได้หรือยอมไปเลย ซึ่งเราเป็นทีมใหญ่เราไม่ถอยหลังแน่ 2-3 เกมต่อไปสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้” บันโดวิช เผย
ด้าน แมตต์ เอลเลียตต์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนอาร์มี่ ยูไนเต็ด กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่าเกมนี้มีความรู้สึกผสมกันโดยไม่รู้ว่าต้องดีใจหรือเสียใจดี แต่มั่นใจว่า บุรีรัมย์ เสียใจแน่นอนเพราะเป็นทีมที่ดีกว่า อาร์มี่ ไม่ฟันธงปีนี้จะเป็นแชมป์หรือไม่เพราะถือว่ายังเร็วเกินไป
“ผมมีความรู้สึกผสมกันนะ ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี เราไม่ได้ 3 แต้ม แต่ก็เสมอกับบุรีรัมย์ทีมที่ดีที่สุดในลีกได้ และปัจจุบันพวกเขาก็ยังเป็นทีมที่ดีที่สุดอยู่ดี ผมคิดว่าบุรีรัมย์คงเสียใจมากกว่าที่ไม่ชนะเรา มันยังเร็วไปจะพูดถึงแชมป์ แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่มันยังเหลืออีกหลายเกม ผมรู้สึกพอใจกับการดำเนินการของเราทั้งหมดตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มันไม่ใช่เพราะโค้ชแต่เป็นเพราะนักกีฬาของเรา” อดีตโค้ช เลสเตอร์ ซิตี กล่าว