xs
xsm
sm
md
lg

“ดวลเดือด 5 คู่” เพลย์ออฟ NBA

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“มิลล์แซ็ป” ผู้แบกความหวังชาวแอตแลนตา
เอเยนซี - ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) รอบเพลย์ออฟ ณ เวลานี้กำลังชิงชัยกันอย่างดุเดือดทั้ง 4 คู่ของฝั่งตะวันออกและตะวันตก เว็บไซต์ “บลีเชอร์ รีพอร์ต” จึงรวบรวมการดวลแบบตัวต่อตัวของแต่ละคู่ ซึ่งแฟนๆ จะกะพริบตาไม่ได้ โดยที่น่าสนใจเป็นการโคจรมาพบกันของว่าที่ตำนานอย่าง ทิม ดันแคน ของ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส กับ เดิร์ก โนวิตซ์กี ของ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ ทั้งนี้ยังมี รัสเซลล์ เวสต์บรูก การ์ดตัวเก่ง โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ที่จะกลับมาล้างตา เมมฟิส กริซซ์ลีส์ หลังจากบาดเจ็บจนพ่ายรอบรองชนะเลิศ เวสเทิร์น คอนเฟอร์เรนซ์

1. เดวิด เวสต์ (อินเดียนา เพเซอร์ส) vs พอล มิลล์แซ็ป (แอตแลนตา ฮอว์คส)
หากเอ่ยถึงประสิทธิภาพเกมรุก มิลล์แซ็ป สามารถออกอาวุธหลากหลายกว่า เวสต์ ที่เก็บได้เพียง 14.4 แต้ม 48.8 เปอร์เซ็นต์ และการรีบาวน์ดอันดุดัน 7.9 ครั้ง หลายขุม โดยเฉพาะการยิง 3 คะแนนที่มีความแม่นยำ 35.8 เปอร์เซ็นต์ และเป็นความหวังของ ฮอว์คส มากกว่า แอล ฮอร์ฟอร์ด เซ็นเตอร์ดีกรีออล-สตาร์ 2 สมัย จากความพยายามส่งบอลลงห่วง 14.1 ครั้งต่อเกม การปะทะกันของทั้งคู่ เพเซอร์ส น่าจะต้องการ ฟอร์เวิร์ดลูกพั่ใหญ่ ต้านทาน อดีตผู้เล่น ยูทาห์ แจซซ์ มิฉะนั้น จ่าฝูงสายตะวันออก ฟอร์มกระท่อนกระแท่นช่วงปิดฤดูกาลปกติ อาจน้ำตาตก

2. แอล เจฟเฟอร์สัน (ชาร์ล็อตต์ บ็อบแค็ทส์) vs คริส บอช (ไมอามี ฮีต)
บอช จัดเป็นฟอร์เวิร์ดครบเครื่องทั้งการโพสต์ , ลุยวงใน และยิงระยะกลาง ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป “อวตาร” ต้องปรับมาเล่นสไตล์ เน้นชู้ตระยะไม่เกิน 16 ฟุต (481 ครั้ง) มากกว่าใต้แป้น (472 ครั้ง) อย่างไรก็ตาม เจฟเฟอร์สัน เองก็น่ากลัวไม่น้อย เมื่อพบ แชมป์เก่า กดไป 25.3 แต้ม 15.3 รีบาวน์ด จากการดวลกัน 3 ครั้ง ช่วงฤดูกาลปกติ แต่โชคร้ายที่ต้องฝืนลงเล่นทั้งที่บาดเจ็บเท้า จึงไม่อาจกลัยมาเล่นดุดันได้เหมือนเดิม เท่ากับว่า “แมวเหมียว” ไม่สามารถกดดันใส่ อดีตผู้เล่น โตรอนโต แร็พเตอร์ส อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

3. ไมค์ คอนลีย์ (เมมฟิส กริซซ์ลีส์) vs รัสเซลล์ เวสต์บรูก (โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์)
เทียบกันแบบเฮด-ทู-เฮด เวสต์บรูก เหนือกว่าชัดเจน ด้วยผลงาน 24.0 แต้ม ฟิลด์โกล 58.3 เปอร์เซ็นต์ 7.5 แอสซิสต์ ส่วน คอนลีย์ เก็บเพียง 13.0 ฟิลด์โกล 34.8 เปอร์เซ็นต์ 9.0 แอสซิสต์) ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า คอนลีย์ กำลังพีคสุดขีด หลังจากเล่นมานาน 7 ปี ปิดสกอร์สุงสุดตลอดอาชีพ 17.2 แต้ม ยกระดับจากปีที่แล้ว แค่ 14.6 แต้ม) ทั้งคู่จะต้องพิสูจน์ฝีมือ ด้วยสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันของ “โอเคซี” ที่ยึดกลยุทธ์ “รัน แอนด์ กัน (บอลเร็ว)” และ “พญาหมี” กับแผน “กริต แอนด์ ไกรน์ด (กดดันเต็มพื้นที่ และเล่นใต้แป้น)” ภาระจึงตกอยุ่กับ 2 เพลย์เมกเกอร์ ที่จะปั้นเกมพาทีมสู่รอบรองชนะเลิศ สายตะวันตก

4. เดิร์ก โนวิตซ์กี (ดัลลัส แมฟเวอริกส์) vs ทิม ดันแคน (ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส)
2 ฟอร์เวิร์ดดีกรี “ฮอลล์ ออฟ เฟม” โคจรมาพบกันตั้งแต่รอบแรก แต่ก็ยังคงสร้างผลงานน่าประทับใจตลอดอาชีพ โดย ดันแคน ถูกใช้งานอย่างทะนุถนอม ลงสนาม 29.2 นาทีต่อเกม) ส่อง 15.1 แต้ม 9.7 รีบาวน์ด 3.0 แอสซิสต์ ผนวกแรงกระตุ้นคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ส่วน เดิร์ก ยังคงเป็นเสาหลักค้ำ “แมฟส์” และกำลังร้อนแรง นับตั้งแต่เดือนเมษายน ซัด 24.3 แต้ม 7.1 รีบาวน์ด ซึ่งตามประวัติศาสตร์ ลบำพังเพียง จอมแม่นชาวเยอรมัน ก็สามารถพลิกโฉมหน้าซีรีส์ ดังเช่น เคยแผลงฤทธิ์กับ ฮีต ทั้งที่ตามอยู่ 1-2 เกม (ชนะ 4-2) ก่อนปลดล็อกแชมป์ เมื่อปี 2011 ฉะนั้นการประลองฝีมือของคู่นี้แฟนๆ จะพลาดมิได้ด้วยประการทั้งปวง

5. สตีเฟน เคอร์รี (โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส) vs คริส พอล (แอลเอ คลิปเปอร์ส)
วอร์ริเออร์ส ดูจะมีปัญหาพอสมควร เมื่อขาด แอนดรูว์ โบกัต เซ็นเตอร์เลือดออสซี ที่บาดเจ็บซี่โครง แต่ก็ไม่ถึงกับแย่เสียทั้งหมด ด้วยการเล่น “สมอลล์ บอล (ไม่มีเซ็นเตอร์)” ซึ่งจะได้เปรียบด้านความคล่องตัว กอปรกับการส่องไกลอันแม่นยำ 42.4 เปอร์เซ็นต์ และการลุยเดี่ยวของ เคอร์รี ทำนองเดียวกัน “คลิปส์” สามารถฉกฉวยการชิงพื้นที่ใต้แป้น โดยมี เบลค กริฟฟิน (ฟอร์เวิร์ด) กับ เดออังเดร จอร์แดน (เซ็นเตอร์) เป็นหัวหอก ขึ้นอยู่กับว่า “ซีพีทรี” ซึ่งมีการอ่านเกมที่เฉียบขาด จะป้อนบอลแก่เพื่อน โจมตีจุดอ่อนคู่แข่งมากน้อยเพียงใด

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


“เจฟเฟอร์สัน” กัดฟันช่วย “แมวเหมียว”
“คอนลีย์” ทีเด็ดย้ำแค้น “โอเคซี”
“เดิร์ก-ดันแคน” ดวลกันแต่หัววัน
“เคอร์รี” กุมชะตา “นักรบ”
กำลังโหลดความคิดเห็น