หุ้นของทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พุ่งขึ้นกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่สโมสรตัดสินใจปลด เดวิด มอยส์ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเพียงวันเดียว โดยปิดที่ 18.78 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 612 บาท) ทำราคาสูงสุดในรอบปี
หลังจากที่ กุนซือชาวสกอตรายนี้ได้แยกทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงเวลา 6 โมงเช้า ของวันที่ 22 เมษายน ก่อนที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะเปิด โดยหลังจากมีการปลดอดีตผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน พ้นทีมนั้น หุ้นของสโมสรก็มีมูลค่าพุ่งขึ้นถึง 6 เปอร์เซ็นต์ หลังปิดตลาดไปจบที่ 18.78 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 612 บาท) สูงที่สุดตั้งแต่เปิดศักราช 2014 มา
เมื่อย้อนกลับไปช่วงที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคุมบังเหียนทัพ “ปีศาจแดง” อยู่นั้น หุ้นของทีมมีมูลค่าประมาณ 19 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อ มอยส์ เข้ามาเขาได้พาหุ้นของทีมดิ่งลงไปเป็นมูลค่า 14.26 (ประมาณ 465 บาท) เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำสถิติราคาหุ้นต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯกำลังฟื้นตัวในช่วงวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์
โดย เอ็ด วูดเวิร์ด ซีอีโอ “ปีศาจแดง” ได้ออกมากล่าวสั้นๆ เกี่ยวกับการที่มูลค่าของสโมสรพุ่งสูงขนาดนี้ว่า “เราฟื้นตัวได้เร็วมากในด้านของธุรกิจ ผมรู้ดีในปีหน้า หุ้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะขึ้นได้อีก อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้คงต้องไปถาม โจเอล กับ อัฟราม เกลมเซอร์ ที่เขาดูแลโดยตรง”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *