xs
xsm
sm
md
lg

“บา” ฮีโร่ สิงห์อัดเปแอสเช 2-0 ลิ่ว “อเวย์ โกล”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บา ซัดประตูชัยนาที 87
เดมบา บา ศูนย์หน้าชาวเซเนกัล สวมบทฮีโร่ ซัดประตูชัยท้ายเกม ช่วย เชลซี พลิกสถานการณ์อัด ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2-0 รวม 2 นัด เสมอกัน 3-3 เข้ารอบรองชนะเลิศ ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ตามกฎประตู “อเวย์ โกล” เมื่อคืนวันอังคารที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา

ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัด 2
เชลซี (1) 2-0 เปแอสเช (3) (รวม 2 นัด เสมอ 3-3 เชลซี เข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน)

โชเซ มูรินโญ กุนซือ เชลซี ซึ่งต้องการชนะอย่างน้อย 2-0 จัด ซามูเอล เอโต ประสานงาน วิลเลียน และ เอเดน ฮาซาร์ด ล่าตาข่าย โดยมี ออสการ์ กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ปั้นเกมแดนกลาง รับมือ ปารีส แซงต์ แชร์แมงต์ ซึ่งวาง เอดินสัน คาวานี รับบทศูนย์หน้าตัวเป้า แทน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่บาดเจ็บ

เสียงนกหวีดดังขึ้น ทั้งคู่ผลัดกันรุกและรับ โดยรูปเกมยังคงเน้นการเคาะบอลสั้นๆ และไล่บีบพื้นที่ จึงไม่มีช็อตหวาดเสียวเกิดขึ้นเลย ล่วงเลยมานาที 18 เชลซี เจอข่าวร้าย เมื่อ เอเดน ฮาซาร์ด เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง เกิดบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนให้ อังเดร ชูร์เล ลงมารับช่วงต่อ เจ้าถิ่น เริ่มจะบดต่อเนื่อง และหวิดขึ้นนำนาที 27 แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดฟรีคิกกราบซ้ายแฉลบกำแพง บอลพุ่งมาเสาแรก ซัลวาตอเร ซิริกู บินปัดออกหลัง

ทีมของ โชเซ มูรินโญ จุดประกายความหวังนาที 32 บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ทุ่มไกลจากกราบขวา บอลตกใส่หลัง ดาวิด ลุยซ์ ที่พยายามโหม่งเสยมาเข้าทาง อังเดร ชูร์เล วิ่งมาแปเหน่งๆ ซุกก้นตาข่าย จากนั้นนาที 37 แลมพาร์ด เปิดฟรีคิกกราบซ้าย บอลชุลมุนหน้าประตู แกรี เคฮิลล์ หันมาเจอบอลก่อน กะซัดเต็มแรง แต่กลับแป็ก ลอยโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย ครบ 45 นาที เชลซี นำ 1-0 สกอร์รวมตามอยู่ 2-3

ลุยต่อครึ่งหลัง เกมทำท่าจะเปิดแลกกันสนุก นาที 52 พลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” ซึ่งบุกได้น้ำได้เนื้อกว่า น่าทิ้งห่างแบบสุดๆ วิลเลียน เก็บบอลทางเขตโทษด้านขวา แล้วไหลย้อนมาให้ อังเดร ชูร์เล ยิงแบบเน้นๆ ชนคาน ต่อมา 1 นาที ออสการ์ ปั่นฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกด้านซ้าย ระยะประมาณ 20 หลา บอลโค้งชนคานอีกครั้ง นาที 56 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มีโอกาสบ้าง เอเซเคล ลาเวซซี ปั่นฟรีคิกกราบซ้ายโค้งมาเสาสอง ปีเตอร์ เช็ก บินปัดออกหลัง

ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน กลับมาบุกเป็นระลอก ก่อนได้เสียวนาที 68 จังหวะทิ้งยาวเจาะตรงกลาง เดมบา บา ตัวสำรอง (แทน แฟรงค์ แลมพาร์ด น.66) โหม่งเสยต่อให้ อังเดร ชูร์เล วิ่งตัดจากขวาเข้ากลาง แล้วตะบันตรงหัวกะโหลกเข้ามือ ซัลวาตอเร ซิริกู ถัดมา 2 นาที ทีมเยือน ตอบโต้ แบลส มาตุยดี จ่ายยาวให้ เอดินสัน คาวานี ควบเข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วฮาล์ฟวอลเลย์เต็มข้อข้ามคาน

“เปแอสเช” เริ่มบุกได้น่ากลัวขึ้น และหวิดตีเสมอนาที 78 โยฮัน กาบาย ตัวสำรอง (แทน มาร์โก แวร์รัตติ น.55) ทิ้งยาวจากกลางสนามฝั่งขวาแทยงมาให้ เอดินสัน คาวานี ดูดลงพื้น แล้วแปข้ามคานนิดเดียว “สิงห์บลูส์” เร่งเครื่องกันต่อ ก่อนได้เฮนาที 87 แกรี เคฮิลล์ สาดยาวเข้าเขตโทษ บอลขลุกขลิกมาถึง เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา ตะบันเต็มแรงหน้าเขตโทษด้านซ้ายแฉลบมาเข้าทาง เดมบา บา เบียดชนะตัวประกบ ก่อนล้มตัวยิงจ่อๆ เสยเพดานตาข่าย

 ทีมของ โลร็องต์ บล็องก์ บุกแบบไม่คิดชีวิต และพลาดโอกาสตีไข่แตกช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 หลุดมาทางเขตโทษด้านขวา แล้วไหลย้อนมาให้ มาร์คสวินญอส บรรจงแปเน้นๆ ยัดเสาแรก ปีเตอร์ เช็ก พุ่งปัดออกหลัง จบเกม เชลซี เอาชนะไป 2-0 รวม 2 นัด เสมอกัน 3-3 เข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน

ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง ที่สนามซิกนัล อิดูนา ปาร์ก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เกือบสร้างปฏิหาริย์ เอาชนะ 2-0 โดย รีล มาดริด น่าจะปิดบัญชีตั้งแต่นาที 17 ทว่า อังเคล ดิ มาเรีย ปีกอาร์เจนไตน์ พลาดจุดโทษ ก่อน มาร์โก รอยส์ เหมา 2 ประตู นาที 24 และ 37 ส่งผลให้ “ราชันชุดขาว” เข้ารอบรองชนะเลิศแบบหืดจับ สกอร์รวม 2 นัด 3-2

รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แกรี เคฮิลล์ , จอห์น เทอร์รี , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , ดาวิด ลุยซ์ , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ออสการ์ , เอเดน ฮาซาร์ด , วิลเลียน , ซามูเอล เอโต
เปแอสเช : ซัลวาตอเร ซิริกู , ติอาโก ซิลวา , อเล็กซ์ , แม็กซ์เวลล์ , คริสตอฟ ฌัลเลต์ , ติอาโก ม็อตตา , แบลส มาตุยดี , มาร์โก แวร์รัตติ , เอดินสัน คาวานี , เอเซเคล ลาเวซซี , ลูคัส มูรา

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น