เชลซี เปิดบ้านถล่ม อาร์เซนอล อริร่วมกรุงลอนดอน ซึ่งเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน แบบโชคร้าย ยับเยิน 6-0 จากการเหมาคนเดียว 2 ประตูของ ออสการ์ มิดฟิลด์บราซิเลียน ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี 6-0 อาร์เซนอล
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล คุมทีมเกมที่ 1,000 จัดทัพชุดใหญ่ วาง ลูคัส โพดอลสกี, โอลิวิเยร์ ชีรูด์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เป็น 3 หัวหอก ส่ง ซานติ กาซอร์ลา ปั้นเกมแดนกลาง บุกรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ เชลซี ซึ่งมี ซามูเอล เอโต, เอเดน ฮาซาร์ด และ อังเดร ชูร์เล ช่วยกันล่าตาข่าย โดยทั้งคู่ต่างต้องการชัยชนะที่อาจส่งผลต่อการลุ้นแชมป์
เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 4 นาที อาร์เซนอล หวิดขึ้นนำอย่างรวดเร็ว โทมัส โรซิคกี ไหลทะลุช่องเจาะตรงกลางให้ โอลิวิเยร์ ชีรูด์ ยิงเรียดติดมือ ปีเตอร์ เช็ก ถัดมาแค่ 1 นาที กลายเป็น เชลซี ปลดล็อกได้ก่อน อังเดร ชูร์เล ทำชิ่งกับ เพื่อนตรงกลางสนามให้ ลากมาถึงหน้าเขตโทษ แล้วจ่ายออกขวาให้ ซามูเอล เอโต ล็อกหลบ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก่อนปั่นไซด์โป้งด้วยซ้ายเสียบโคนเสาไกลอย่างสุดสวย
ต่อมา “สิงโตน้ำเงินคราม” ทิ้งห่างไปอีกนาทีที่ 7 จากจังหวะสวนกลับ เนมันยา มาติช แย่งบอลบริเวณกลางสนาม แล้วจ่ายออกขวาให้ ชูร์เล กดเรียดฝ่าแนวรับคู่แข่งเสียบมุมเสาไกล เข้าสู่นาที 15 สถานการณ์ ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ย่ำแย่หนัก อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน พุ่งปัดลูกยิง เอเดน ฮาซาร์ด ราวกับเป็นผู้รักษาประตู ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษ แต่กลับชักใบแดงไล่ คีแรน กิบบ์ส ออกจากสนาม ก่อน เพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเจียน สังหารเข้ากลางประตู
ทีมของ โชเซ มูรินโญ เล่นแบบไร้ความกดดัน เน้นเคาะบอลกันสั้นๆ เรียกว่าแทบจะคุมเกมอยู่หมัด และเกือบบวกสกอร์เพิ่มนาที 30 ดาวิด ลุยซ์ ซึ่งรับหน้าที่มิดฟิลด์ตัวรับ ตัดบอลตรงกลางสนาม ลากมาถึงหน้าเขตโทษ แล้วตะบันเรียดระยะประมาณ 25 หลา วอจเซียซ เซสนีย์ ล้มตัวปัดไว้ได้ ก่อนโขยกหนีนาที 43 เฟร์นานโด ตอร์เรส ตัวสำรอง (แทน เอโต ที่บาดเจ็บ น.10) หลุดมาทางเขตโทษด้านขวา แล้วผ่านเรียดเข้ากลางให้ ออสการ์ แปจ่อๆ เสยเพดานตาข่าย ครบ 45 นาที เชลซี นำห่าง 4-0
ครึ่งหลังเปิดฉากมาเพียง 2 นาที “สิงห์บลูส์” มีลุ้นอีกครั้ง ตอร์เรส พาบอลแหวกแนวรับคู่แข่งเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนซัดติดบล็อกกระดอนมาเข้าทาง ดาวิด ลุยซ์ ยิงยัดเสาแรกติดเซฟ เซสนีย์ ต่อมา “ปืนใหญ่” เริ่มกลับมาครองบอลบุกได้บ้าง แต่ก็ถูกดักทางไว้หมด จนกระทั่งได้เสียวนาที 60 โรซิคกี แทงตรงๆ เข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ ซานติ กาซอร์ลา ตะบันเรียดหลุดเสาไกล ถัดมา 3 นาที เจ้าถิ่น ที่ผ่อนไปนาน ตอบโต้บ้าง ตอร์เรส เก็บบอลทางเขตโทษด้านขวา พลิกหนี บาการี ซานญา แล้วไหลให้ ออสการ์ ยิงเน้นๆ ข้ามคานนิดเดียว
ล่วงเลยมานาที 65 จ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก ขยับหนีไปไกลสุดกู่ โรซิคกี จ่าบอลจากขวาเข้ากลางพลาดมาเข้าทาง ออสการ์ บรรจงแปบริเวณหัวกะโหลก บอลกระดอนพื้นแฉลบปลายมือ เซสนีย์ เสียบมุมขวามือ จากนั้น 6 นาที มาติช วางยาวบริเวณกลางสนามแดนตัวเองให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตัวสำรอง (แทน ออสการ์ น.67) หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนแปยัดเสาแรกลอดแขน เซสนีย์ ซุกก้นตาข่าย ช่วงท้าย เกมรุก “เดอะ บลูส์” ดูวูบวาบกว่า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบเกม เชลซี เอาชนะไป 6-0 เก็บเพิ่มเป็น 69 แต้ม จาก 31 นัด ยึดอันดับ 1 ของตารางต่อไป ส่วน อาร์เซนอล มี 62 แต้ม จาก 30 นัด จ่อหล่นอันดับ 3 หาก แมนเชสเตอร์ ซิตี (60 แต้ม) บุกชนะ ฟูแลม
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แกรี เคฮิลล์ , จอห์น เทอร์รี , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , ดาวิด ลุยซ์ , ออสการ์ , อังเดร ชูร์เล , เอเดน ฮาซาร์ด , เนมันยา มาติช , ซามูเอล เอโต
อาร์เซนอล : วอจเซียซ เซสนีย์ , บาการี ซานญา , แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ , โลร็องต์ คอสเซียลนี , คีแรน กิ๊บบ์ส , โทมัส โรซิคกี , มิเกล อาร์เตตา , ลูคัส โพดอลสกี , อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน , ซานติ กาซอร์ลา , โอลิวิเยร์ ชีรูด์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี 6-0 อาร์เซนอล
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล คุมทีมเกมที่ 1,000 จัดทัพชุดใหญ่ วาง ลูคัส โพดอลสกี, โอลิวิเยร์ ชีรูด์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เป็น 3 หัวหอก ส่ง ซานติ กาซอร์ลา ปั้นเกมแดนกลาง บุกรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ เชลซี ซึ่งมี ซามูเอล เอโต, เอเดน ฮาซาร์ด และ อังเดร ชูร์เล ช่วยกันล่าตาข่าย โดยทั้งคู่ต่างต้องการชัยชนะที่อาจส่งผลต่อการลุ้นแชมป์
เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 4 นาที อาร์เซนอล หวิดขึ้นนำอย่างรวดเร็ว โทมัส โรซิคกี ไหลทะลุช่องเจาะตรงกลางให้ โอลิวิเยร์ ชีรูด์ ยิงเรียดติดมือ ปีเตอร์ เช็ก ถัดมาแค่ 1 นาที กลายเป็น เชลซี ปลดล็อกได้ก่อน อังเดร ชูร์เล ทำชิ่งกับ เพื่อนตรงกลางสนามให้ ลากมาถึงหน้าเขตโทษ แล้วจ่ายออกขวาให้ ซามูเอล เอโต ล็อกหลบ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก่อนปั่นไซด์โป้งด้วยซ้ายเสียบโคนเสาไกลอย่างสุดสวย
ต่อมา “สิงโตน้ำเงินคราม” ทิ้งห่างไปอีกนาทีที่ 7 จากจังหวะสวนกลับ เนมันยา มาติช แย่งบอลบริเวณกลางสนาม แล้วจ่ายออกขวาให้ ชูร์เล กดเรียดฝ่าแนวรับคู่แข่งเสียบมุมเสาไกล เข้าสู่นาที 15 สถานการณ์ ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ย่ำแย่หนัก อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน พุ่งปัดลูกยิง เอเดน ฮาซาร์ด ราวกับเป็นผู้รักษาประตู ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษ แต่กลับชักใบแดงไล่ คีแรน กิบบ์ส ออกจากสนาม ก่อน เพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเจียน สังหารเข้ากลางประตู
ทีมของ โชเซ มูรินโญ เล่นแบบไร้ความกดดัน เน้นเคาะบอลกันสั้นๆ เรียกว่าแทบจะคุมเกมอยู่หมัด และเกือบบวกสกอร์เพิ่มนาที 30 ดาวิด ลุยซ์ ซึ่งรับหน้าที่มิดฟิลด์ตัวรับ ตัดบอลตรงกลางสนาม ลากมาถึงหน้าเขตโทษ แล้วตะบันเรียดระยะประมาณ 25 หลา วอจเซียซ เซสนีย์ ล้มตัวปัดไว้ได้ ก่อนโขยกหนีนาที 43 เฟร์นานโด ตอร์เรส ตัวสำรอง (แทน เอโต ที่บาดเจ็บ น.10) หลุดมาทางเขตโทษด้านขวา แล้วผ่านเรียดเข้ากลางให้ ออสการ์ แปจ่อๆ เสยเพดานตาข่าย ครบ 45 นาที เชลซี นำห่าง 4-0
ครึ่งหลังเปิดฉากมาเพียง 2 นาที “สิงห์บลูส์” มีลุ้นอีกครั้ง ตอร์เรส พาบอลแหวกแนวรับคู่แข่งเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนซัดติดบล็อกกระดอนมาเข้าทาง ดาวิด ลุยซ์ ยิงยัดเสาแรกติดเซฟ เซสนีย์ ต่อมา “ปืนใหญ่” เริ่มกลับมาครองบอลบุกได้บ้าง แต่ก็ถูกดักทางไว้หมด จนกระทั่งได้เสียวนาที 60 โรซิคกี แทงตรงๆ เข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ ซานติ กาซอร์ลา ตะบันเรียดหลุดเสาไกล ถัดมา 3 นาที เจ้าถิ่น ที่ผ่อนไปนาน ตอบโต้บ้าง ตอร์เรส เก็บบอลทางเขตโทษด้านขวา พลิกหนี บาการี ซานญา แล้วไหลให้ ออสการ์ ยิงเน้นๆ ข้ามคานนิดเดียว
ล่วงเลยมานาที 65 จ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก ขยับหนีไปไกลสุดกู่ โรซิคกี จ่าบอลจากขวาเข้ากลางพลาดมาเข้าทาง ออสการ์ บรรจงแปบริเวณหัวกะโหลก บอลกระดอนพื้นแฉลบปลายมือ เซสนีย์ เสียบมุมขวามือ จากนั้น 6 นาที มาติช วางยาวบริเวณกลางสนามแดนตัวเองให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตัวสำรอง (แทน ออสการ์ น.67) หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนแปยัดเสาแรกลอดแขน เซสนีย์ ซุกก้นตาข่าย ช่วงท้าย เกมรุก “เดอะ บลูส์” ดูวูบวาบกว่า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบเกม เชลซี เอาชนะไป 6-0 เก็บเพิ่มเป็น 69 แต้ม จาก 31 นัด ยึดอันดับ 1 ของตารางต่อไป ส่วน อาร์เซนอล มี 62 แต้ม จาก 30 นัด จ่อหล่นอันดับ 3 หาก แมนเชสเตอร์ ซิตี (60 แต้ม) บุกชนะ ฟูแลม
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แกรี เคฮิลล์ , จอห์น เทอร์รี , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , ดาวิด ลุยซ์ , ออสการ์ , อังเดร ชูร์เล , เอเดน ฮาซาร์ด , เนมันยา มาติช , ซามูเอล เอโต
อาร์เซนอล : วอจเซียซ เซสนีย์ , บาการี ซานญา , แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ , โลร็องต์ คอสเซียลนี , คีแรน กิ๊บบ์ส , โทมัส โรซิคกี , มิเกล อาร์เตตา , ลูคัส โพดอลสกี , อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน , ซานติ กาซอร์ลา , โอลิวิเยร์ ชีรูด์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *