“เมย์” ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ ฝ่าด่านหิน “ออล อิงแลนด์”

ASTVผู้จัดการรายวัน - ศึกแบดมินตันระดับพรีเมียร์ซูเปอร์ซีรีส์ที่สองของปี “ออล อิงแลนด์ 2014” ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ นักตบลูกขนไก่ไทยพาเหรดเข้าร่วมแข่งขันครบครัน ฝ่ายหญิงมี รัชนก อินทนนท์ มือ 3 ของโลก เป็นตัวชูโรง ขณะที่ฝ่ายชายนำมาโดย “ซูเปอร์แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ มือ 6 ของโลก ซึ่งวิเคราะห์จากเส้นทางหลังเห็นผลการประกบคู่ ตั้งแต่รอบแรกถือเป็นเป็นงานหนักไม่น้อยของทัพนักกีฬาไทย มีเพียง “เมย์” แชมป์โลกคนล่าสุดเท่านั้น ที่น่าจะฝากผีฝากไข้ฝ่าด่านได้ลึกที่สุด

ศึกพรีเมียร์ซูเปอร์ซีรีส์ โยเน็กซ์ ออลอิงแลนด์ แบดมินตัน แชมเปียนชิปส์ 2014 ระหว่างวันที่ 5-9 มีนาคม 2557 ชิงเงินรางวัลรวม 400,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 12 ล้านบาท ) ซึ่งรายการนี้ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในรายการเก่าแก่ของโลก เนื่องจากมีการจัดแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 1899 หรือ 144 ปีที่แล้ว

โดยในปี 2013 ที่ผ่านมา วงการแบดมินตันไทยสร้างชื่อกระหึ่มในรายการนี้ จากผลงานของ “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่ดาวรุ่งที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกที่ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ แม้สุดท้ายไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อพลาดท่าพ่ายให้กับ ทีนา บวน จอมเก๋าวัย 33 ปี จากเดนมาร์กไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม

ซึ่งก่อนออกเดินทาง “น้องเมย์” ได้เผยกับทีมข่าว MGR SPORT ว่า “ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ลงฝึกซ้อมอย่างหนัก หวั่นว่าอาจมีอาการล้า จึงไม่กล้าหวังสูงกับการแข่งขันรายการนี้ โดยตั้งเป้าไว้เพียงรอบ 8 คนสุดท้ายเท่านั้น เนื่องจากไม่อยากกดดันตัวเอง แม้รอบแรกเจอคู่ต่อสู้ไม่หนักมาก แต่ กู หยวน ขนไก่มือ 21 โลกชาวจีนถือว่าไม่ธรรมดา ซึ่งหากผ่านรอบนี้ไปได้ อาจต้องเจอ ณิชชาอร ก็เป็นได้”

นอกจาก รัชนก ในประเภทหญิงเดี่ยว ไทยยังได้ลุ้นจากนักกีฬาไทยอีก 3 ราย ประกอบด้วย ณิชชาอร จินดาพล นักแบดสาวสวยวัย 22 ปี, บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธ์ ขนไก่มือ 17 โลก และ พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ที่ฟอร์มแรงตอนนี้อันดับโลกทะยานขึ้นมารั้งมือ 10 ของโลกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการแข่งขันรายการนี้นักกีฬาทั้ง 4 คนต้องพบศึกหนักอย่างรวดเร็วในช่วงต้นของการแข่งขัน

โดยเฉพาะ บุศนันท์ งานหนักตั้งแต่รอบแรกต้องเจอกับนักตบลูกขนไก่มือหนึ่งของโลกอย่าง หลี เสี่ยวเร่ย จากจีน ที่ผ่านมาคู่นี้พบกันมา 2 ครั้ง ขนไก่ไทยยังไม่สามารถเอาชนะได้เลย อีกทั้งตอนนี้สภาพร่างกายล่าสุดของ “น้องครีม” ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้ารุมเร้า จนนักกายภาพบำบัดประจำทีมต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จึงเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะฝ่าด่านอรหันต์ด่านนี้ไปได้

ขณะที่ รัชนก จากสายการแข่งขันของแชมป์โลกชาวไทย ค่อนข้างมีโอกาสที่สุดในบรรดานักกีฬาไทย เนื่องจากหากผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศอาจได้เจอกับ ไท่ ซื่อ หยิง จากไต้หวัน ที่เคยพบกันในรายการนี้เมื่อปีก่อน ซึ่ง “น้องเมย์” สามารถเอาชนะไปได้สบาย 2 เกมรวด จากนั้นก็จะถึงด่านหิน หากว่า หลี เสี่ยวเร่ย มาตามนัดในรอบรองชนะเลิศ ที่สุดแล้วถ้าผ่านไปได้ก็มีโอกาสจารึกชื่อในประวัติศาสตร์ว่าเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้สำเร็จ

ด้าน ณิชชาอร มือ 12 ของโลก ซึ่งไต่อันดับขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากที่ 36 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา รอบแรกเจอ หลี ฮาน มือ 19 ของโลก ซึ่งทั้งคู่เคยดวลกันมาเพียงครั้งเดียวในปี 2011 รายการ ไชน่า โอเพน โดยสาวไทยเป็นฝ่ายพ่ายไป ทว่างานหนักของ “แน็ต” หากผ่านรอบแรกได้ก็ต้องไปวัดฝีมือกับ “เมย์” ซึ่งดูจากฟอร์มแล้วคงยากที่จะผ่านนักแบดรุ่นน้องไปได้

สุดท้ายสำหรับประเภทหญิงเดี่ยว “น้องพีช” พรทิพย์ ที่ตอนนี้รั้งอันดับ 10 ของโลก รอบแรกงานเบาพบ จาง ซือ กา มือ 32 ของโลกจากฮ่องกง แต่รอบต่อไปอาจต้องพบกระดูกชิ้นโตอย่าง แบ ยอน จู มือ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ซึ่งโอกาสได้ไปต่อยังอยู่ที่ 50-50

สำหรับ ประเภทชายเดี่ยว “เจ้าสอง” ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข มือ 12 ของโลก เจอศึกหนักตั้งแต่รอบแรก เมื่อต้องดวลกับ ลี ชอง เหว่ย มือไร้เทียมทาน เบอร์ 1 ของโลกจากมาเลเซีย โดยเจอกันมา 7 ครั้ง ตบลูกขนไก่ไทยปราชัยเรียบวุธ ส่วน บุญศักดิ์ พลสนะ ในช่วงต้นก่อนถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยังสดใส เนื่องจากเจอมือวางไม่สูงมากนัก แต่หากทะลุเข้าถึงรอบ 8 คน ตามเส้นทางมีโอกาสได้พบกับ เฉิน หลง มือ 2 ของโลกจากจีน ซึ่งจากสถิติพบกันมา 7 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2010 “แมน” เอาชนะได้เพียง 2 ครั้งแรกเท่านั้น หลังจากนั้นถือว่าผูกปีแพ้มาโดยตลอด