ASTV ผู้จัดการรายวัน – นาทีนี้ต้องยอมรับว่ามีแนวโน้มสูงที่ก้านเหล็กสาวไทยจะไปสร้างชื่อบนเวทีโลกอย่าง แอลพีจีเอ ทัวร์ เนื่องจากขีดความสามารถไม่ได้เป็นรองชาติใด โดยเฉพาะจากเกาหลีใต้ที่ยึดหัวหาดอยู่ ณ ขณะนี้ ส่วนอีกฟากหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐอเมริกาดร็อปลงไปชนิดที่ว่าคาดเดาไม่ได้ถึงโมเมนตัมว่าจะเหวี่ยงคืนกลับมาอีกเมื่อใด ดังนั้นสวิงขาอ่อนจากแดนสยามที่นำโดย “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ และ “น้องโม” โมรียา จุฑานุกาล จึงมีลุ้นจากอันดับโลกที่ขยับสูงขึ้นต่อเนื่องและเมื่อมองถึงปัจจัยทุกอย่างแล้วต้องบอกว่าไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปแล้ว
จบศึกกอล์ฟ “ซีเอ็มอี ไทเทิลโฮเดอร์ส” รายการส่งท้ายปี ที่ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พรอนงค์ เพชรล้ำ เกือบได้ฉลองแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ อย่างเป็นทางการใบแรกของตัวเอง แต่มาตีพลาดรอบสุดท้ายนิดเดียวสกอร์ตามหลัง ซานซาน เฟิง แชมป์จากแดนมังกร เพียง 2 สโตรกเท่านั้น ขณะที่ โมรียา เทิร์นโปรเล่นอาชีพปีแรกผลงานดีที่สุดคว้าอันดับ 4 ร่วมศึก “ไอเอสพีเอส ฮานดะ วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพน” อันดับโลกล่าสุดกระโดดจากมือ 419 เมื่อปลายปี 2012 ขึ้นมารั้งที่ 88 ของโลก พร้อมซิวรางวัล “รุคกี ออฟ เดอะ เยียร์” ประจำฤดูกาลไปครอง
อย่างไรก็ดี แม้จบปี 2013 ยังไม่มีแชมป์ใบแรกในแมตช์อย่างเป็นทางการมาฝากแฟนกอล์ฟชาวไทย แต่ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากับผลงานโดยรวมในซีซันนี้ ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องเริ่มพูดถึงความหวังในการคว้าแชมป์แบบเต็มตัว อีกหนึ่งสัญญาณที่ดีนอกจาก “โปรแหวน” แกนหลักตัวความหวัง และ “น้องโม” กับ “จูเนียร์” ที่ขึ้นมาทามรัศมีรุ่นพี่ เข้าสู่ฤดูกาล 2014 แฟนกอล์ฟไทยยังมีข่าวดีเมื่อ “โปรปลาย” พัชรจุฑา คงกระพันธ์ หรือ “พีเค” จะมาเป็นอีกหนึ่งความหวังหลังเพิ่งได้รับการ์ดทัวร์ เช่นเดียวกับ “น้องเม” เอรียา ดาวรุ่งขวัญใจแฟนๆ ที่อยู่ในช่วงพักฟื้นจากการเข้าผ่าหัวไหล่ขวาและรอควอลิฟายหวังรับการ์ดทัวร์ด้วยเช่นกัน
ด้านคู่แข่งเมื่อเทียบในละแวกเอเชียหากพิจารณาตามเนื้อผ้าก้านเหล็กสาวไทยไม่เป็นรอง ทั้งญี่ปุ่น จีน หรือ ไต้หวัน เนื่องจากกระแสความแรงของ ไอ มิยาซาโตะ จากแดนปลาดิบ และ เจิ้ง หย่านี่ อดีตมือ 1 โลกของไต้หวันที่อาจผ่านจุดพีคสุดของอาชีพมาแล้ว และยังไม่มีดาวรุ่งหน้าใหม่มาทดแทน ทำให้ชั่วโมงนี้มีเพียงแก๊งกอล์ฟสาวจากเกาหลีใต้ที่ยึดหัวหาดครองบัลลังก์อยู่
โดย “โปรอุ๋ย” วิรดา นิราพาธพงศ์พร อดีตก้านเหล็กสาวไทยคนแรกที่ได้การ์ดทัวร์ไปโชว์วงสวิงใน แอลพีจีเอทัวร์ ก่อนวางมือเมื่อปี 2011 และผันตัวมารับบทผู้ฝึกสอนกอล์ฟทีมชาติไทย ชี้ว่า ปัจจุบันระยะทางระหว่างนักกอล์ฟสาวบ้านเรากับเวทีแอลพีจีเอ ทัวร์ ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม โอกาสที่จะควอลิฟายการ์ดทัวร์ไม่ยากเหมือนในอดีต เนื่องจากโปรสาวไทยในยุคใหม่พัฒนาขึ้นมาสูสีกับบรรดาโปรดังระดับโลกได้ดีขึ้น และการจัดแมตช์แข่ง “ฮอนดา แอลพีจีเอ ทัวร์” ที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2006 ถือเป็นประโยชน์โดยตรง ทำให้กระแสกอล์ฟในไทยคึกคักเด็กรุ่นใหม่มาเริ่มเล่นกอล์ฟกันมากขึ้น
“วงการกอล์ฟหญิงไทยช่วงหลังพัฒนาขึ้นมาได้รวดเร็ว เห็นได้จากหลายฝ่ายและสปอนเซอร์เริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น ความสามารถของนักกอล์ฟไทยเมื่อไปเทียบกับโปรต่างชาติถือว่าสู้ได้ และถ้ามองโอกาสคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ของน้องๆ เชื่อมีแน่นอนอาจจะว่าอยู่ในช่วง 1-2 ปีนี้ โดยมั่นใจว่าจะไม่ใช่การขึ้นมาแค่สีสันแต่จะสร้างชื่อได้ในระยะจากทั้ง โมรียา และ เอรียา ที่เป็นเลือดใหม่ของไทย” โปรอุ๋ย กล่าว
ขณะที่ “โปรวาว” พรพงษ์ เพชรล้ำ พี่ชายแท้ๆ ของ “โปรแหวน” ที่คอยทำหน้าที่แบกถุงกอล์ฟให้น้องสาวทุกหลุมทุกทัวร์นาเมนต์ มองว่า สภาพอากาศและฝีมือที่เคยกลัวกันไม่ใช่อุปสรรคใหญ่ของสาวไทยอีกต่อไป หากปรับตัวกับอากาศหนาวและอาหารฝรั่งได้ สำคัญที่ยังเป็นรองและต้องปรับแก้คือเรื่องสภาพจิตใจความคิด และความสม่ำเสมอตลอด 4 วัน ส่วนใหญ่ถ้าออกสตาร์ทดีแต่เมื่อเจอความกดดันจะเสียทันที ทำให้พลาดแชมป์ไปเองทั้งที่น่าจะได้ลุ้นกว่านี้