คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
ที่สุดแล้ว แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ก็สัมผัสกับความพ่ายแพ้จนได้ เมื่อศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ดำเนินมาถึงสัปดาห์ที่ 11 ของฤดูกาลปกติ ซึ่งทีมที่ดับห้าว “หัวหน้าเผ่า” มิใช่ใคร คือคู่ปรับร่วมกลุ่มเอเอฟซี (AFC) ตะวันตก “ม้าป่า” เดนเวอร์ บรองโกส์ ซึ่งถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 48 นั่นเอง
หลังจากบายวีค ได้เวลาเตรียมตัวทำการบ้านมาเป็นอย่างดีก่อนเยือนเดนเวอร์ โดยเกมดังกล่าวจะว่าไป สถิติโดยรวมออกมาสูสี แต่สิ่งที่ บรองโกส์ รู้ดีแก่ใจคือต้องส่ง เพย์ตัน แมนนิง และทีมบุกอันร้อนแรงออกไปปล่อยหมัดใส่ก่อนเลย แม้ต้องเจอทีมรับสุดแกร่ง ทว่าเมื่อความห่างขยายเป็น 2 สกอร์ใหญ่ อเล็กซ์ สมิธ ก็จนปัญหาในการพา ชีฟส์ คัมแบ็ก ขณะที่ “บอลคอนโทรล” ของยอดรันนิงแบ็ก จามาล ชาร์ลส ก็แทบไม่เกิดประโยชน์ในเมื่อทีมของ แอนดี หรีด ตามหลังตลอด
ความปราชัยหนแรก สะท้อนคำครหาที่ว่าโปรแกรมของชีฟส์ตลอด 9 เกมที่ผ่านมาเข้าขั้นหมูตู้ การสตาร์ท 9-0 เกม จึงไม่ใช่เรื่องให้ต้องตกตะลึง ในเมื่อเจอกับควอเตอร์แบ็กที่ยังเซตอะไรไม่ลงตัวทั้ง โทนี โรโม (ดัลลัส คาวบอยส์) อีลาย แมนนิง ของนิวยอร์ก ไจแอนท์ส ซึ่งต้นซีซันผิดพลาดกระจาย ขณะที่ ไมเคิล วิค (ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์) สภาพร่างกายไม่ดี หรือจะเป็นจอมทัพฝีมือยังไม่เข้าขั้นทั้ง เบล็น แก็บเบิร์ต (แจ็คสันวิลล์ จากัวส์), ไรอัน ฟิตซ์แพทริก (เทนเนสซี ไตตันส์), เทอร์เรลล์ พรายเออร์ (โอคแลนด์ เรดเดอร์ส), เคส คีนัม (ฮุสตัน เท็กแซนส์), เจสัน แคมป์เบลล์ (คลีฟแลนด์ บราวน์ส) และ เจฟฟ์ ทูเอล (บัฟฟาโล บิลล์ส)
แต่จากนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ของจริงสำหรับ ชีฟส์ ว่าจะดีพอสร้างปรากฏการณ์ได้ใน “เพลย์ออฟ” หรือไม่ กับการเผชิญหน้ายอดควอเตอร์แบ็กของลีกอย่าง ฟิลิป ริเวอร์ส (ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส) 2 เกม แก้มือกับ เพย์ตัน แมนนิง (บรองโกส์) เผชิญหน้า โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด (วอชิงตัน เรดสกินส์) ดวล พรายเออร์ อีกสักตั้ง แถมยังมีโอกาสชน แอนดรูว์ ลัก กรณี อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ยังต้องการสถิติในการจัดอันดับในโพสต์ซีซัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถิติที่สั่งสมมาได้ดีช่วงเริ่มต้น ชีฟส์ ไม่น่าพลาดการตีตั๋วเข้ารอบ แต่ถ้าได้เพียงพื้นที่ “ไวลด์การ์ด” หากต้องไปเยือน นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์, โคลต์ส หรือว่า ซินซินเนติ เบงกอลส์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่าไปแล้ว สมิธ ถือว่าฝีไม้ลายมือเป็นรองทั้ง ทอม เบรดี, ลัก หรือแม้แต่ แอนดี ดาลตัน ถ้าเกมไหนที่ สมิธ ต้องขว้างมากถึง 40 ครั้ง ถือว่ามีเรื่องผิดปกติกับรูปเกมของชีฟส์ ขึ้นแล้ว
อีกทั้งในเมื่อคู่แข่งเริ่มอ่านช่องทางการวิ่งของ ชาร์ลส ทะลุปรุโปร่ง ดัก พีเดอร์สัน โค้ชทีมบุกก็ต้องไปหากลเม็ดใหม่ในการเจาะทะลวง แอนโธนีย์ เชอร์แมน ฟูลแบ็กอย่าฟัมเบิลง่ายดั่งเกมบ้อท่าที่เดนเวอร์ แอนโธนีย์ ฟาซาโน คงต้องมีบทบาทมากขึ้น เหมือนครั้งที่ทีมเคยมี โทนี กอนซาเลซ ตำนานปีกใน เป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อน หรือจะเป็นกลุ่มปีกนอกก็ต้องพยายามดร็อปบอลให้น้อยลง เมื่อสถานการณ์บีบให้ สมิธ ต้องบอมบ์บ้างอะไรบ้าง
ส่วน “ทีมรับ” อย่าเพิ่งย่ามใจไปกับสถิติอันดับ 2 ของลีก ฉกมา 16 อินเทอร์เซปต์ (วิ่งย้อนเปลี่ยนเป็น 4 ทัชดาวน์) หรือว่าอัดให้คู่แข่งเสีย 8 ฟัมเบิล กระหน่ำแซ็คมากสุด 36 ครั้ง ในเมื่อ แทมบา ฮาลี สุดยอดไลน์แบ็กเกอร์และผองเพื่อน ไม่สามารถถลาโถมทำลายแนวบรองโกส์ เพื่อเข้าถึงตัว แมนนิง ได้แม้แต่หนเดียว เช่นเดียวกับเกมก่อนบายวีคที่สัมผัสตัว ทูเอล ควอเตอร์แบ็กรุคกีไม่ได้ ย้อนไปสัปดาห์ที่ 8 ก็ได้เพียงแซ็คเดียวจาก แคมป์เบลล์ ยังดีที่เป็นการเจอกับแค่ บิลล์ส และบราวน์ส แต่หาก บ็อบ ซัตตัน โค้ชทีมรับไม่สามารถปลุกเร้าความฮึกเหิมของลูกทีมขึ้นมาอีกครั้ง เห็นทีบุญเก่า ชีฟส์ คงหมดเร็วตั้งแต่รูดม่านเพลย์ออฟ
ที่สุดแล้ว แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ก็สัมผัสกับความพ่ายแพ้จนได้ เมื่อศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ดำเนินมาถึงสัปดาห์ที่ 11 ของฤดูกาลปกติ ซึ่งทีมที่ดับห้าว “หัวหน้าเผ่า” มิใช่ใคร คือคู่ปรับร่วมกลุ่มเอเอฟซี (AFC) ตะวันตก “ม้าป่า” เดนเวอร์ บรองโกส์ ซึ่งถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 48 นั่นเอง
หลังจากบายวีค ได้เวลาเตรียมตัวทำการบ้านมาเป็นอย่างดีก่อนเยือนเดนเวอร์ โดยเกมดังกล่าวจะว่าไป สถิติโดยรวมออกมาสูสี แต่สิ่งที่ บรองโกส์ รู้ดีแก่ใจคือต้องส่ง เพย์ตัน แมนนิง และทีมบุกอันร้อนแรงออกไปปล่อยหมัดใส่ก่อนเลย แม้ต้องเจอทีมรับสุดแกร่ง ทว่าเมื่อความห่างขยายเป็น 2 สกอร์ใหญ่ อเล็กซ์ สมิธ ก็จนปัญหาในการพา ชีฟส์ คัมแบ็ก ขณะที่ “บอลคอนโทรล” ของยอดรันนิงแบ็ก จามาล ชาร์ลส ก็แทบไม่เกิดประโยชน์ในเมื่อทีมของ แอนดี หรีด ตามหลังตลอด
ความปราชัยหนแรก สะท้อนคำครหาที่ว่าโปรแกรมของชีฟส์ตลอด 9 เกมที่ผ่านมาเข้าขั้นหมูตู้ การสตาร์ท 9-0 เกม จึงไม่ใช่เรื่องให้ต้องตกตะลึง ในเมื่อเจอกับควอเตอร์แบ็กที่ยังเซตอะไรไม่ลงตัวทั้ง โทนี โรโม (ดัลลัส คาวบอยส์) อีลาย แมนนิง ของนิวยอร์ก ไจแอนท์ส ซึ่งต้นซีซันผิดพลาดกระจาย ขณะที่ ไมเคิล วิค (ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์) สภาพร่างกายไม่ดี หรือจะเป็นจอมทัพฝีมือยังไม่เข้าขั้นทั้ง เบล็น แก็บเบิร์ต (แจ็คสันวิลล์ จากัวส์), ไรอัน ฟิตซ์แพทริก (เทนเนสซี ไตตันส์), เทอร์เรลล์ พรายเออร์ (โอคแลนด์ เรดเดอร์ส), เคส คีนัม (ฮุสตัน เท็กแซนส์), เจสัน แคมป์เบลล์ (คลีฟแลนด์ บราวน์ส) และ เจฟฟ์ ทูเอล (บัฟฟาโล บิลล์ส)
แต่จากนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ของจริงสำหรับ ชีฟส์ ว่าจะดีพอสร้างปรากฏการณ์ได้ใน “เพลย์ออฟ” หรือไม่ กับการเผชิญหน้ายอดควอเตอร์แบ็กของลีกอย่าง ฟิลิป ริเวอร์ส (ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส) 2 เกม แก้มือกับ เพย์ตัน แมนนิง (บรองโกส์) เผชิญหน้า โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด (วอชิงตัน เรดสกินส์) ดวล พรายเออร์ อีกสักตั้ง แถมยังมีโอกาสชน แอนดรูว์ ลัก กรณี อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ยังต้องการสถิติในการจัดอันดับในโพสต์ซีซัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถิติที่สั่งสมมาได้ดีช่วงเริ่มต้น ชีฟส์ ไม่น่าพลาดการตีตั๋วเข้ารอบ แต่ถ้าได้เพียงพื้นที่ “ไวลด์การ์ด” หากต้องไปเยือน นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์, โคลต์ส หรือว่า ซินซินเนติ เบงกอลส์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่าไปแล้ว สมิธ ถือว่าฝีไม้ลายมือเป็นรองทั้ง ทอม เบรดี, ลัก หรือแม้แต่ แอนดี ดาลตัน ถ้าเกมไหนที่ สมิธ ต้องขว้างมากถึง 40 ครั้ง ถือว่ามีเรื่องผิดปกติกับรูปเกมของชีฟส์ ขึ้นแล้ว
อีกทั้งในเมื่อคู่แข่งเริ่มอ่านช่องทางการวิ่งของ ชาร์ลส ทะลุปรุโปร่ง ดัก พีเดอร์สัน โค้ชทีมบุกก็ต้องไปหากลเม็ดใหม่ในการเจาะทะลวง แอนโธนีย์ เชอร์แมน ฟูลแบ็กอย่าฟัมเบิลง่ายดั่งเกมบ้อท่าที่เดนเวอร์ แอนโธนีย์ ฟาซาโน คงต้องมีบทบาทมากขึ้น เหมือนครั้งที่ทีมเคยมี โทนี กอนซาเลซ ตำนานปีกใน เป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อน หรือจะเป็นกลุ่มปีกนอกก็ต้องพยายามดร็อปบอลให้น้อยลง เมื่อสถานการณ์บีบให้ สมิธ ต้องบอมบ์บ้างอะไรบ้าง
ส่วน “ทีมรับ” อย่าเพิ่งย่ามใจไปกับสถิติอันดับ 2 ของลีก ฉกมา 16 อินเทอร์เซปต์ (วิ่งย้อนเปลี่ยนเป็น 4 ทัชดาวน์) หรือว่าอัดให้คู่แข่งเสีย 8 ฟัมเบิล กระหน่ำแซ็คมากสุด 36 ครั้ง ในเมื่อ แทมบา ฮาลี สุดยอดไลน์แบ็กเกอร์และผองเพื่อน ไม่สามารถถลาโถมทำลายแนวบรองโกส์ เพื่อเข้าถึงตัว แมนนิง ได้แม้แต่หนเดียว เช่นเดียวกับเกมก่อนบายวีคที่สัมผัสตัว ทูเอล ควอเตอร์แบ็กรุคกีไม่ได้ ย้อนไปสัปดาห์ที่ 8 ก็ได้เพียงแซ็คเดียวจาก แคมป์เบลล์ ยังดีที่เป็นการเจอกับแค่ บิลล์ส และบราวน์ส แต่หาก บ็อบ ซัตตัน โค้ชทีมรับไม่สามารถปลุกเร้าความฮึกเหิมของลูกทีมขึ้นมาอีกครั้ง เห็นทีบุญเก่า ชีฟส์ คงหมดเร็วตั้งแต่รูดม่านเพลย์ออฟ
