คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
ห้วงเวลาแห่งการสูญเสียนักร้องผู้ถูกขนานนามในฐานะราชาเพลงลูกทุ่งอย่าง สายัณห์ สัญญา แม้จะไม่ได้ชื่นชอบแนวความคิดทางการเมืองที่แดงเถือกเหลือคณา กอปรกับไม่นิยมสำเนียงแห่งเสียงเพลงลูกทุ่งมาแต่วัยเยาว์ แต่ก็ต้องยอมรับสิ่งหนึ่งว่าต่อให้ไม่อยากฟังก็ยังต้องได้ยินบทเพลงต่างๆ ของ “พี่เป้า” มาบ้าง การจากไปของบุคคลผู้เป็นตำนานครั้งนี้ จึงนำไปสู่การมานั่งค้นหาความคุ้นเคยในวัยเด็กกับเพลงลูกทุ่งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ฟังไปฟังมาก็เพลิดเพลินเจริญใจดี ไม่น่าเบื่อเหมือนที่เคยรู้สึก
ระหว่างที่กำลังเพลินเพลงอยู่นั้น ก็มาสะดุดกับเสียงโทรศัพท์จากเหยี่ยวข่าวภาคสนามรายงานข่าวว่า “พี่จอห์นนี่” สุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา กลับมาแล้วในตำแหน่งนายกสมาคมบาสเกตบอลอาชีพไทย พร้อมกับการเป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันบาสเกตบอลอาชีพ “ไทยแลนด์ โอเพน แชมเปียนชิป 2013” ชิงเงินรางวัล 1,500,000 บาท ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-22 ก.ย.นี้ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน
ซึ่งการแข่งขันรายการนี้มีการนำ 6 ทีมจาก 4 ทวีปเข้าร่วม อาทิ เซี่ยงไฮ้ ชาร์ค (จีน), ยูเอสเอ ออลสตาร์, ออสเตรเลีย, ลิเบีย, คูเวต 2 ทีม และ 2 ทีมจากไทย คือ เมกะ พีอีเอ และฮิวแมน สปอร์ตเรฟ ที่อยู่ในการคุมทีมของ โจ ไบรอันท์ พร้อมประกาศดึงตัว เดนนิส ร็อดแมน อดีตซูเปอร์สตาร์เอ็นบีเอ มาโชว์ตัวด้วย นั่นแหละครับที่ผมบอกว่าเขากลับมาแล้ว เพราะเขาเป็นคนที่คิดอะไรเล็กๆ ไม่เป็น แค่จัดแข่งขันบาสธรรมดาใครๆ ก็จัดได้ แต่เล่นดึงเอาซูเปอร์สตาร์ระดับนี้มา มันไม่ใช่ว่ามีแค่เงินก็ทำได้ แต่ต้องมีระบบการจัดการที่ดีด้วย จึงจะโน้มน้าวใจเหล่านักกีฬาระดับสตาร์ของโลกได้
ผมยังจำได้ถึงครั้งแรกที่พบกับ “พี่จอห์นนี่” เมื่อหลายปีก่อนได้ดี โดยได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ไปสัมภาษณ์อดีตนักบาสเกตบอลเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 5 หรือเมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว ที่ปัจจุบันเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟใหญ่แห่งหนึ่ง แรกๆ ผมก็งงๆ ว่าให้ผมไปคุยทำไม แต่พอได้พบเจอ พูดคุยแล้ว รู้สึกว่าผู้ชายสูงวัยผมสีดอกเลาคนนี้เป็นคนมีเสน่ห์ และจริงใจต่อวงการกีฬาไม่น้อย เขาพูดถึงแผนการเข้ามาพัฒนาวงการบาสเกตบอลไทย ซึ่งเวลานั้นตกต่ำจากการบริหารงานของกลุ่มมาเฟียยัดห่วงที่สุมหัวใช้สมาคมกีฬาแห่งนี้หากินกันมานาน โดยไม่ได้สนใจว่าวงการกีฬายัดห่วงไทยจะตกต่ำกันถึงขนาดการแข่งขันระดับภายในประเทศก็แทบไม่มีให้เห็นเลย
กระทั่งถึงวันที่นายกสมาคมบาสฯ แห่งประเทศไทย ชื่อ “จอห์นนี่” วันนั้นหลายอย่างเปลี่ยนไป มีการดึงโค้ชระดับ โจ ไบรอันท์ ที่เป็นคุณพ่อของ “โคบี ไบรอันท์” มารับงานคุมทีมชาติไทย ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้สวย ทั้งบาสหญิง และชาย กระทั่งถึงวาระต้องเลือกตั้งใหม่ มีการเปลี่ยนตัวนายกสมาคมฯครั้งใหม่ เป็นกลุ่มการเมืองในสภา กทม.ซึ่งถึงทุกวันนี้ก็คงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ คนในวงการนี้คงรู้ดี ว่าจากนโยบายอันสวยหรูของนักเลือกตั้งนั้นทุกวันนี้เป็นเช่นไร
การกลับมาครั้งนี้ “พี่จอห์นนี่” ยอมรับว่าไม่ได้มาเพื่อจะเหยียบเท้าใคร หรือจะมาโชว์ออฟให้ใครหมั่นไส้ แต่ทำทุกอย่างก็เพื่อหวังพัฒนานักกีฬา ผู้ฝึกสอน และ ผู้ตัดสินให้เป็นมืออาชีพ โดยพร้อมเชิญตัวแทนจากสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีบา” มาให้การอบรม เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ตัดสินระดับ “ฟีบา” เพียงคนเดียวเท่านั้น พร้อมกับยืนยันว่าไม่มีทางจะไปทับซ้อนกับสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เนื่องจากในส่วนนั้นเป็นพื้นที่ของกีฬาระดับสมัครเล่นเท่านั้น
พอทราบข่าวดังนี้ ผมที่กำลังอินกับเพลงลูกทุ่งจึงเลือกเพลง “จอห์นนี่ที่รัก” ที่ขับร้องโดย บุษบา อธิษฐาน นักร้องหญิงมาดเท่ผู้ล่วงลับไปก่อนวัยอันควรมาฟังแบบเพลิน เพลิน...
ห้วงเวลาแห่งการสูญเสียนักร้องผู้ถูกขนานนามในฐานะราชาเพลงลูกทุ่งอย่าง สายัณห์ สัญญา แม้จะไม่ได้ชื่นชอบแนวความคิดทางการเมืองที่แดงเถือกเหลือคณา กอปรกับไม่นิยมสำเนียงแห่งเสียงเพลงลูกทุ่งมาแต่วัยเยาว์ แต่ก็ต้องยอมรับสิ่งหนึ่งว่าต่อให้ไม่อยากฟังก็ยังต้องได้ยินบทเพลงต่างๆ ของ “พี่เป้า” มาบ้าง การจากไปของบุคคลผู้เป็นตำนานครั้งนี้ จึงนำไปสู่การมานั่งค้นหาความคุ้นเคยในวัยเด็กกับเพลงลูกทุ่งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ฟังไปฟังมาก็เพลิดเพลินเจริญใจดี ไม่น่าเบื่อเหมือนที่เคยรู้สึก
ระหว่างที่กำลังเพลินเพลงอยู่นั้น ก็มาสะดุดกับเสียงโทรศัพท์จากเหยี่ยวข่าวภาคสนามรายงานข่าวว่า “พี่จอห์นนี่” สุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา กลับมาแล้วในตำแหน่งนายกสมาคมบาสเกตบอลอาชีพไทย พร้อมกับการเป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันบาสเกตบอลอาชีพ “ไทยแลนด์ โอเพน แชมเปียนชิป 2013” ชิงเงินรางวัล 1,500,000 บาท ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-22 ก.ย.นี้ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน
ซึ่งการแข่งขันรายการนี้มีการนำ 6 ทีมจาก 4 ทวีปเข้าร่วม อาทิ เซี่ยงไฮ้ ชาร์ค (จีน), ยูเอสเอ ออลสตาร์, ออสเตรเลีย, ลิเบีย, คูเวต 2 ทีม และ 2 ทีมจากไทย คือ เมกะ พีอีเอ และฮิวแมน สปอร์ตเรฟ ที่อยู่ในการคุมทีมของ โจ ไบรอันท์ พร้อมประกาศดึงตัว เดนนิส ร็อดแมน อดีตซูเปอร์สตาร์เอ็นบีเอ มาโชว์ตัวด้วย นั่นแหละครับที่ผมบอกว่าเขากลับมาแล้ว เพราะเขาเป็นคนที่คิดอะไรเล็กๆ ไม่เป็น แค่จัดแข่งขันบาสธรรมดาใครๆ ก็จัดได้ แต่เล่นดึงเอาซูเปอร์สตาร์ระดับนี้มา มันไม่ใช่ว่ามีแค่เงินก็ทำได้ แต่ต้องมีระบบการจัดการที่ดีด้วย จึงจะโน้มน้าวใจเหล่านักกีฬาระดับสตาร์ของโลกได้
ผมยังจำได้ถึงครั้งแรกที่พบกับ “พี่จอห์นนี่” เมื่อหลายปีก่อนได้ดี โดยได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ไปสัมภาษณ์อดีตนักบาสเกตบอลเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 5 หรือเมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว ที่ปัจจุบันเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟใหญ่แห่งหนึ่ง แรกๆ ผมก็งงๆ ว่าให้ผมไปคุยทำไม แต่พอได้พบเจอ พูดคุยแล้ว รู้สึกว่าผู้ชายสูงวัยผมสีดอกเลาคนนี้เป็นคนมีเสน่ห์ และจริงใจต่อวงการกีฬาไม่น้อย เขาพูดถึงแผนการเข้ามาพัฒนาวงการบาสเกตบอลไทย ซึ่งเวลานั้นตกต่ำจากการบริหารงานของกลุ่มมาเฟียยัดห่วงที่สุมหัวใช้สมาคมกีฬาแห่งนี้หากินกันมานาน โดยไม่ได้สนใจว่าวงการกีฬายัดห่วงไทยจะตกต่ำกันถึงขนาดการแข่งขันระดับภายในประเทศก็แทบไม่มีให้เห็นเลย
กระทั่งถึงวันที่นายกสมาคมบาสฯ แห่งประเทศไทย ชื่อ “จอห์นนี่” วันนั้นหลายอย่างเปลี่ยนไป มีการดึงโค้ชระดับ โจ ไบรอันท์ ที่เป็นคุณพ่อของ “โคบี ไบรอันท์” มารับงานคุมทีมชาติไทย ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้สวย ทั้งบาสหญิง และชาย กระทั่งถึงวาระต้องเลือกตั้งใหม่ มีการเปลี่ยนตัวนายกสมาคมฯครั้งใหม่ เป็นกลุ่มการเมืองในสภา กทม.ซึ่งถึงทุกวันนี้ก็คงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ คนในวงการนี้คงรู้ดี ว่าจากนโยบายอันสวยหรูของนักเลือกตั้งนั้นทุกวันนี้เป็นเช่นไร
การกลับมาครั้งนี้ “พี่จอห์นนี่” ยอมรับว่าไม่ได้มาเพื่อจะเหยียบเท้าใคร หรือจะมาโชว์ออฟให้ใครหมั่นไส้ แต่ทำทุกอย่างก็เพื่อหวังพัฒนานักกีฬา ผู้ฝึกสอน และ ผู้ตัดสินให้เป็นมืออาชีพ โดยพร้อมเชิญตัวแทนจากสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีบา” มาให้การอบรม เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ตัดสินระดับ “ฟีบา” เพียงคนเดียวเท่านั้น พร้อมกับยืนยันว่าไม่มีทางจะไปทับซ้อนกับสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เนื่องจากในส่วนนั้นเป็นพื้นที่ของกีฬาระดับสมัครเล่นเท่านั้น
พอทราบข่าวดังนี้ ผมที่กำลังอินกับเพลงลูกทุ่งจึงเลือกเพลง “จอห์นนี่ที่รัก” ที่ขับร้องโดย บุษบา อธิษฐาน นักร้องหญิงมาดเท่ผู้ล่วงลับไปก่อนวัยอันควรมาฟังแบบเพลิน เพลิน...
