คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เพิ่งเขียนถึงวงการมวยสากลบ้านเราที่ดูจะมั่นใจในนักมวยวัยสามสิบกลางๆ พยายามปั้นกันทุกค่าย ซึ่งมองมุมหนึ่งก็ดีที่ไม่ทอดทิ้งผู้ที่เคยสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กองเชียร์ แต่มองอีกมุมก็น่าห่วงทั้งในแง่สภาพร่างกาย และวงการมวยสากลโดยรวมที่ดูจะไม่มีดาวรุ่งมาสานต่อความยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่ทันไร “แวฮามะ” เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม ก็พาสังขารวัย 36 ปี ขึ้นไล่บดคู่ชกจากญี่ปุ่นจนครบยกและเอาชนะคะแนนไปอย่างสวยงาม คว้าแชมป์เฉพาะกาลที่ว่างของ สมาคมมวยโลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) มาให้แฟนๆ ได้ชื่นใจ
โดยตลอดการชก “เจ้ามะ” อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต (112 ปอนด์) ของสถาบันเดียวกัน ใช้ประสบการณ์คุมเกมไว้ได้ตลอด รวมทั้งโชว์ฟอร์มออกหมัดได้เนื้อๆ เน้นๆ ตลอด 12 ยกแบบไม่มีหมด ทำคะแนนเอาชนะ โนบุโอะ นาชิโร นักมวยอันตรายแดนปลาดิบ แม้จะแบบไม่เอกฉันท์ แต่ก็พิสูจน์ตัวเองได้อย่างสวยงามว่ายังไม่หมดไฟ และยังพร้อมที่จะชกในระดับสูงได้อยู่ แบบนี้ “แชแม้” นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ก็พร้อมสนับสนุนให้โอกาสขึ้นลุ้นเข็มขัดต่อไป
ถัดมาอีกไม่กี่วัน เป็นคิวอุ่นหมัดของแชมป์โลกตัวจริงหนึ่งเดียวของไทยในเวลานี้อย่าง ศรีสะเกษ ส.รุ่งวิสัย ที่เดิมหวังจะได้ขึ้นป้องกันเข็มขัดรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของสภามวยโลก ในช่วงงานยักษ์อย่างงานประชุมประจำปีสภามวยโลกในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ปีนี้ยกโขยงมาประชุมที่เมืองไทยเรา แต่มีอาการผิดคิวเล็กๆ ทำให้ไม่ได้จังหวะป้องกันแชมป์ ทางทีมงานเลยจับขึ้นอุ่นเครื่องก่อน และ “เจ้าแหลม” ก็ไม่เอาความผิดหวังมาเป็นอารมณ์ ตั้งหน้าเดินจ้วงหมัดแบบแม่นๆ และแน่นๆ ใส่คู่อุ่นหมัดชาวฟิลิปปินส์ก่อนเอาชนะคะแนนไปได้จากกำหนดชก 6 ยก โชว์ฟอร์มแบบนี้ได้ใจแฟนมวยคอยตามเชียร์เมื่อถึงเวลาป้องกันเข็มขัดจริงแน่นอน
รวมทั้งเพื่อนร่วมค่ายอย่าง “หงอคง” สุริยัน ส.รุ่งวิสัย ก็ขึ้นป้องกันเข็มขัดแชมป์รุ่นแบนตัมเวตของสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย กับนักชกจากฟิลิปปินส์เช่นเดียวกัน โดยนักมวยปินส์ตัวนี้ยังไม่เคยแพ้ใคร มาคราวนี้โดน “เจ้าไมค์” ฮุกซ้ายเต็มชายโครงแพ้น็อกไปเลย เรียกว่าโชว์ฟอร์มได้สวยอีกราย
เห็นแบบนี้ก็ต้องบอกว่ามวยสากลบ้านเราแม้หลังๆ จะมีเสียงบ่นมากมายถึงการจัดชกช่วงบ่ายสาม หรือการหาคู่อุ่นเครื่องชนิดเตรียมมานอนอย่างเดียว หรืออะไรก็ตาม ก็ยังมีนักมวยฝีมือดีที่แฟนมวยชาวไทยสามารถติดตามเชียร์ได้อีกหลายคน แต่ก็ต้องขอท้วงติงไปยังผู้เกี่ยวข้องบ้างในเรื่องการโปรโมตจนเกินเหตุในหลายๆ ครั้ง เพราะพูดกันจริงๆ แชมป์โลกตัวจริงในขณะนี้ก็มีแต่ ศรีสะเกษ คนเดียว แต่เวลาอ่านข่าวหรือฟังบรรยายการถ่ายทอดสดทางทีวีแล้วราวกับบ้านเราแชมป์โลกเดินจะชนกันตาย คนโน้นก็แชมป์คนนี้ก็แชมป์ ทั้งๆ ที่จริงๆ เป็นแชมป์ภูมิภาคบ้าง แชมป์เฉพาะกาลบ้าง แชมป์เยาวชนบ้าง เล่นพูดไม่หมดเรียกแต่แชมป์อย่างเดียว ไม่บอกว่าแชมป์อะไร
เรียนตามตรงเลยว่าที่ขัดหูที่สุดก็เมื่อวันที่ “เจ้ามะ” เด่นเก้าแสน คว้าแชมป์เฉพาะกาลเส้นนี้มาได้นี่แหละ ท่านผู้บรรยายพูดออกอากาศได้เต็มปากเต็มคำว่าเข็มขัดเส้นนี้เคยเป็นของ เขาทราย มาก่อน ทั้งๆ ที่ “พี่ระ” ของเรานั้นเป็นแชมป์โลกตัวจริงระดับตำนาน เพียงแต่เป็นรุ่นนี้เหมือนกันเท่านั้น แฟนมวยที่ไม่ได้ติดตามใกล้ชิดฟังผ่านๆ หูคงคิดว่า “แวฮามะ” เป็นแชมป์ตัวจริงไปซะแล้ว แบบนี้นี่แหละแฟนมวยที่ติดตามจริงเขาจะเสื่อมศรัทธาเอาได้
เพิ่งเขียนถึงวงการมวยสากลบ้านเราที่ดูจะมั่นใจในนักมวยวัยสามสิบกลางๆ พยายามปั้นกันทุกค่าย ซึ่งมองมุมหนึ่งก็ดีที่ไม่ทอดทิ้งผู้ที่เคยสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กองเชียร์ แต่มองอีกมุมก็น่าห่วงทั้งในแง่สภาพร่างกาย และวงการมวยสากลโดยรวมที่ดูจะไม่มีดาวรุ่งมาสานต่อความยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่ทันไร “แวฮามะ” เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม ก็พาสังขารวัย 36 ปี ขึ้นไล่บดคู่ชกจากญี่ปุ่นจนครบยกและเอาชนะคะแนนไปอย่างสวยงาม คว้าแชมป์เฉพาะกาลที่ว่างของ สมาคมมวยโลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) มาให้แฟนๆ ได้ชื่นใจ
โดยตลอดการชก “เจ้ามะ” อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต (112 ปอนด์) ของสถาบันเดียวกัน ใช้ประสบการณ์คุมเกมไว้ได้ตลอด รวมทั้งโชว์ฟอร์มออกหมัดได้เนื้อๆ เน้นๆ ตลอด 12 ยกแบบไม่มีหมด ทำคะแนนเอาชนะ โนบุโอะ นาชิโร นักมวยอันตรายแดนปลาดิบ แม้จะแบบไม่เอกฉันท์ แต่ก็พิสูจน์ตัวเองได้อย่างสวยงามว่ายังไม่หมดไฟ และยังพร้อมที่จะชกในระดับสูงได้อยู่ แบบนี้ “แชแม้” นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ก็พร้อมสนับสนุนให้โอกาสขึ้นลุ้นเข็มขัดต่อไป
ถัดมาอีกไม่กี่วัน เป็นคิวอุ่นหมัดของแชมป์โลกตัวจริงหนึ่งเดียวของไทยในเวลานี้อย่าง ศรีสะเกษ ส.รุ่งวิสัย ที่เดิมหวังจะได้ขึ้นป้องกันเข็มขัดรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของสภามวยโลก ในช่วงงานยักษ์อย่างงานประชุมประจำปีสภามวยโลกในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ปีนี้ยกโขยงมาประชุมที่เมืองไทยเรา แต่มีอาการผิดคิวเล็กๆ ทำให้ไม่ได้จังหวะป้องกันแชมป์ ทางทีมงานเลยจับขึ้นอุ่นเครื่องก่อน และ “เจ้าแหลม” ก็ไม่เอาความผิดหวังมาเป็นอารมณ์ ตั้งหน้าเดินจ้วงหมัดแบบแม่นๆ และแน่นๆ ใส่คู่อุ่นหมัดชาวฟิลิปปินส์ก่อนเอาชนะคะแนนไปได้จากกำหนดชก 6 ยก โชว์ฟอร์มแบบนี้ได้ใจแฟนมวยคอยตามเชียร์เมื่อถึงเวลาป้องกันเข็มขัดจริงแน่นอน
รวมทั้งเพื่อนร่วมค่ายอย่าง “หงอคง” สุริยัน ส.รุ่งวิสัย ก็ขึ้นป้องกันเข็มขัดแชมป์รุ่นแบนตัมเวตของสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย กับนักชกจากฟิลิปปินส์เช่นเดียวกัน โดยนักมวยปินส์ตัวนี้ยังไม่เคยแพ้ใคร มาคราวนี้โดน “เจ้าไมค์” ฮุกซ้ายเต็มชายโครงแพ้น็อกไปเลย เรียกว่าโชว์ฟอร์มได้สวยอีกราย
เห็นแบบนี้ก็ต้องบอกว่ามวยสากลบ้านเราแม้หลังๆ จะมีเสียงบ่นมากมายถึงการจัดชกช่วงบ่ายสาม หรือการหาคู่อุ่นเครื่องชนิดเตรียมมานอนอย่างเดียว หรืออะไรก็ตาม ก็ยังมีนักมวยฝีมือดีที่แฟนมวยชาวไทยสามารถติดตามเชียร์ได้อีกหลายคน แต่ก็ต้องขอท้วงติงไปยังผู้เกี่ยวข้องบ้างในเรื่องการโปรโมตจนเกินเหตุในหลายๆ ครั้ง เพราะพูดกันจริงๆ แชมป์โลกตัวจริงในขณะนี้ก็มีแต่ ศรีสะเกษ คนเดียว แต่เวลาอ่านข่าวหรือฟังบรรยายการถ่ายทอดสดทางทีวีแล้วราวกับบ้านเราแชมป์โลกเดินจะชนกันตาย คนโน้นก็แชมป์คนนี้ก็แชมป์ ทั้งๆ ที่จริงๆ เป็นแชมป์ภูมิภาคบ้าง แชมป์เฉพาะกาลบ้าง แชมป์เยาวชนบ้าง เล่นพูดไม่หมดเรียกแต่แชมป์อย่างเดียว ไม่บอกว่าแชมป์อะไร
เรียนตามตรงเลยว่าที่ขัดหูที่สุดก็เมื่อวันที่ “เจ้ามะ” เด่นเก้าแสน คว้าแชมป์เฉพาะกาลเส้นนี้มาได้นี่แหละ ท่านผู้บรรยายพูดออกอากาศได้เต็มปากเต็มคำว่าเข็มขัดเส้นนี้เคยเป็นของ เขาทราย มาก่อน ทั้งๆ ที่ “พี่ระ” ของเรานั้นเป็นแชมป์โลกตัวจริงระดับตำนาน เพียงแต่เป็นรุ่นนี้เหมือนกันเท่านั้น แฟนมวยที่ไม่ได้ติดตามใกล้ชิดฟังผ่านๆ หูคงคิดว่า “แวฮามะ” เป็นแชมป์ตัวจริงไปซะแล้ว แบบนี้นี่แหละแฟนมวยที่ติดตามจริงเขาจะเสื่อมศรัทธาเอาได้