“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยังคงรักษาฟอร์มเก่งไว้ได้ในการทัวร์ปรีซีซันที่ออสเตรเลีย หลังเอาชนะ เมลเบิร์น วิคตอรี 2-0 จากประตูของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ในครึ่งแรก และ ยาโก อัสปาส ดาวยิงคนใหม่จากการผ่านบอลของ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าที่มีข่าวย้ายทีมรายวัน
เกมนี้ต้องย้ายมาเตะที่ เมลเบิร์น คริกเก็ต กราวนด์ ความจุ 100,000 ที่นั่ง เพราะได้รับความสนใจจากสาวก “เดอะ ค็อป” ชาวออสซีอย่างล้นหลาม รายชื่อผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทเกมนี้ประกอบไปด้วย แบร็ด โจนส์, เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, อังเดร วิสดอม, โฆเซ เอ็นริเก, สตีเวน เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์แดน อิเบ, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟาบิโอ บอรินี ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยที่เป็นประเด็นย้ายทีม และเพิ่งเหินฟ้ามาสมทบมีชื่อเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ ซิมง มิโญเลต์, หลุยส์ อัลเบอร์โต และ ยาโก อัสปาส 3 แข้งใหม่
เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น เจอร์ราร์ด ที่เกมนี้ถอยไปยืนต่ำเป็นพิเศษวางบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ สเตอร์ลิง ตั้งป้อมวอลเลย์ด้วยซ้าย แต่กดไม่ลงบอลโด่งออกเสาสองไปไกล ช่วง 15 นาทีแรกเจ้าถิ่น เมลเบิร์น วิคตอรี คุมพื้นที่กันดีไม่ปล่อยให้ ลิเวอร์พูล ต่อบอลสั้น จึงต้องอาศัยบอลยาวเสียเป็นส่วนใหญ่ จนถึงนาที 18 ปีกตัวจี๊ดคนเดิมของฝั่งอาคันตุกะจากอังกฤษมีโอกาสอีกครั้งคราวนี้ยิงไกลด้วยขวาระยะ 25 หลา แต่บอลไต่หลังเท้าเลยเลี้ยวหนีปากประตูออกไป
แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะครองบอลบุกได้มากกว่า แต่โอกาสยิงประตูใกล้เคียงที่สุดครั้งแรกเป็นของ เมลเบิร์น วิคตอรี จาก แอนดรูว์ บูท นาที 20 แต่งหลบ อังเดร วิสดอม และยิงเร็ว แต่ โจนส์ ล้มปัดเอาไว้ได้ จากนั้นไม่นานทีมเยือนตอบโต้ทันควัน เจอร์ราร์ด ยิงไกลแบบไม่จับหลังเพื่อนไหลมาให้ แต่ นาธาน โค ไม่พลาดแม้จะติดไซด์แต่ก็เหินทุบออกหลังไปได้ เมื่อเกมเริ่มเปิดนาที 32 บอลของ “หงส์แดง” ต่อจากกลางสนามสวยงาม “กัปตันสตีวีจี” ปล่อยฝากที่ อัลเลน ก่อนที่จะวิ่งไปรอบริเวณหัวกะโหลก ซึ่งก็จ่ายคืนมาให้แปย้อนศรไปเสาแรกตุงตาข่ายส่งให้ขึ้นนำไปก่อน 1-0 พร้อมจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลังทีม “หงส์แดง” ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิม และเกือบได้ประตูอีกครั้งจากจังหวะสับไกของ บอรินี ที่เบียดกับกองหลังเจ้าถิ่นในกรอบเขตโทษ แต่ยังหาโอกาสยิงได้ ทว่าไปตรงตัวผู้รักษาประตู จากนั้นนาทีที่ 61 ก็มีการเปลี่ยนตัว เจอร์ราร์ด ออก แล้วส่ง ลูคัส เลวา ลงสนาม
ถึงนาทีที่ 71 ร็อดเจอร์ส จัดการเปลี่ยนตัวครั้งใหญ่ด้วยการส่ง หลุยส์ ซัวเรซ, มาร์ติน เคลลี, ดาเนียล แอ็กเกอร์, เซบาสเตียน โคอาเตส, จอน ฟลานาแกน, สจวร์ต ดาวนิง, หลุยส์ อัลแบร์โต, ซิมง มิโญเลต์, เจย์ สเปียริง, ยาโก อัสปาส แทนที่ บอรินี, เกล็น จอห์นสัน, อังเดร วิสดอม, โฆเซ เอ็นริเก, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ราฮีม สเตอร์ลิง, แบร็ด โจนส์, จอร์แดน อิเบ
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 81 ดาวนิง ได้จังหวะพาบอลเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษด้านขวา ทว่าติดกองหลัง เมลเบิร์น ก่อนกระดอนมาเข้าทาง อัสปาส แต่ก็ยังติดบล็อกกองหลังได้แค่หวาดเสียวเท่านั้น ขณะที่ ซัวเรซ ที่ได้รับเสียงเชียร์จากแฟนบอลก็พยายามพาบอลเข้าไป ซึ่งก็ยังไม่ผ่านกองหลังคู่แข่งอยู่ดี
ถัดมาอีก 3 นาที อัสปาส ได้โอกาสพาบอลเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ แต่ก็โดนปัดออกหลังไป ก่อนได้ลูกเตะมุม และเป็น แอ็กเกอร์ ที่โขกบอลไปเข้าทางนายด่าน เมลเบิร์น อีกครั้ง กระทั่งนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลา ซัวเรซ ลากพาบอลเข้ากรอบเขตโทษก่อนผ่านให้ อัสปาส ชาร์จหน้าประตูระยะเผาขนขยับสกอร์เป็น 2-0 พร้อมกับจบเกมดังกล่าว