xs
xsm
sm
md
lg

เปิบ “เนื้อย่างเกาหลี” ปิดท้ายตะลุยอินชอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร้านเนื้อย่างมีอยู่ทั่วในเกาหลี
ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ฉบับก่อนผู้เขียนได้พาไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ที่เต็มไปดัวยความเรียบง่ายแต่น่าหลงใหลแล้ว งวดนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศไปชิมเมนูเด็ดต้นตำรับจากแดนกิมจิอย่างเนื้อย่างเกาหลี (คาลบี) ที่ฮิตเสียจนประเทศไทยต้องนำมาเปิดขายกันเกลื่อนไปหมด ซึ่งใครมาถึงแดนกิมจิแล้วแต่ไม่ได้ลิ้มลองชิมเนื้อย่างรสเด็ดถือว่ามีความผิดเพราะคุณจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว

สำหรับร้านเนื้อย่างเกาหลี เรียกได้ว่ามีแทบทุกหัวมุมถนน โดยเฉพาะย่านซองดูที่ผู้เขียนพักอยู่ระหว่างตามติดนักกีฬาไทยในศึก เอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียล อาร์ต เกมส์ มีร้านเนื้อย่างเปิดแย่งลูกค้าในละแวกนั้นกันถึง 4 ร้าน ทั้งแบบตึกแถวและตั้งอยู่ในโรงแรม แต่บรรยากาศในร้านคึกคักเหมือนกันหมดไม่ว่าจะมากันแบบครอบครัวหรือเพื่อนฝูง ซึ่งแต่ละร้านก็จะขายแตกต่างกันไป บางร้านแยกขายเนื้อวัว-เนื้อหมู หรือทั้งสองอย่างรวมกันก็มี

นอกจากนี้ ร้านเนื้อย่างแต่ละแห่งยังมีอัตราค่าบริการที่แตกต่างกัน มีทั้งแบบสั่งเป็นจานและบุฟเฟต์ หากเป็นบุฟเฟต์จะตกอยู่ที่หัวละ 16,000 วอน (ประมาณ 450 บาท) ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับร้านเนื้อย่างบ้านเรา ส่วนที่สั่งเป็นจานราคาแบ่งตามคุณภาพของเนื้อ อยู่ที่ 13,000 วอน - 25,000 วอน (300-600 บาท) ซึ่งวัตถุดิบที่แต่ละร้านนำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าชิมเรียกได้ว่าเป็นชั้นหนึ่งและขนาดใหญ่มาก ต่างจากเมืองไทยที่พนักงานจะเอาเนื้อสไลด์เป็นแผ่นบางๆ ให้ปิ้งกัน ทานแล้วไม่จุใจ

พอเลือกร้านโดนใจได้แล้วก็พลิกเมนูสั่งกันเลย ซึ่งเนื้อวัวนั้นมีให้เลือกหลายทั้งเนื้อสัน, เนื้อสะโพก และเนื้อติดกระดูก ขณะที่เนื้อหมูจะใกล้เคียงกันแต่มีเมนูพิเศษเป็นเนื้อหมู 5 ชั้น ชิ้นใหญ่ ถูกใจคนชอบเนื้อหมูแน่นอน พร้อมเครื่องเคียงอย่าง กิมจิ, ซุปกระดูกหมู และน้ำมันงากับเต้าเจี้ยวทานเป็นน้ำจิ้ม แต่ทั้งนี้อาหารจำพวกปิ้งมีแค่เนื้อวัวกับหมูเท่านั้น ไม่มีปลาแซลมอน, ปลาหมึก หรือหอย เหมือนของไทย หากสนใจต้องไปร้านอาหารทะเลโดยเฉพาะ

หลังอาหารที่สั่งไว้มาเสิร์ฟถึงโต๊ะก็ได้เวลาเอาเนื้อลงปิ้งเสียที แต่อยู่ๆจะเอาเนื้อทั้งหมดลงตะแกรงพร้อมกันไม่ได้เด็ดขาด หากสั่งหมูกับเนื้อรวมกันก็ต้องปิ้งทีละอย่างห้ามปนกันไม่เช่นนั้นจะเสียรสชาด ถือเป็นกฏเหล็กของทุกร้านก็ว่าได้ (ผู้เขียนลองเอาหมูปิ้งคู่กับเนื้อ ปรากฏว่าโดนเจ้าของร้านต่อว่าเป็นภาษาเกาหลีเสียยกใหญ่) ซึ่งขณะปิ้งบนเตาถ่านก็จะได้กลิ่นควันหอมฉุยลอยมาเตะจมูกพร้อมกันด้วย

พอปิ้งจนสุกทั้งสองด้าน ทางร้านก็จะนำกรรไกรมาให้ลูกค้าตัดแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กๆ (บางร้านใจดีเดินมาตัดให้ด้วย) ก่อนใช้ตะเกียบอลูมิเนียมคีบทานจากเตาได้เลย โดยส่วนของเนื้อวัวนั้นรสชาดหวานกลมกล่อม สัมผัสได้ถึงอารมณ์จากต้นตำรับอย่างเต็มเปี่ยม ส่วนเนื้อหมู 5 ชั้นแม้จะปิ้งจนสุกแล้วแต่ก็เหนียวนุ่ม เคี้ยวง่าย ยิ่งได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมกระดกโซจู สาเกเกาหลีที่มีให้หยิบจากตู้เย็นแบบไม่อั้น ยิ่งอร่อยเหาะ ทานเสร็จบอกใครต่อใครได้เต็มปากเลยว่า “มาถึงเกาหลีใต้แล้ว”

สำหรับทริปตะลุย “อินชอนเกมส์” ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ คงต้องรูดม่านลงแต่เพียงเท่านี้ โดยตลอด 10 วันที่ผู้เขียนได้บินลัดฟ้าไปเกาะติดความเคลื่อนไหวของนักกีฬาไทยที่มีคิวลงล่าเหรียญรางวัล ได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองกิมจิและได้ความทรงจำที่ดีกลับไปเป็นกระบุง ซึ่งหากมีได้รับโอกาสให้กลับมาทำงานที่นี่อีกครั้งในศึก “เอเชียน เกมส์ 2014” หรือไปที่เมืองอื่นก็จะเก็บเรื่องราวต่างๆมาเล่าสู่กันฟังผ่านหน้ากระดาษเช่นเคย

รายงานพิเศษจากเกาหลีใต้ / เรื่องโดย : วัลลภ สวัสดี / ภาพโดย : ธัชกร กิจไชยภณ
เนื้อกำลังถูกย่างจนควันฉุย
หมู 5 ชั้นทีเด็ดของคนชอบหมู
พนักงานเดินมาตัดเนื้อให้
ซุปกระดูกหมูซดแก้เลี่ยน
หมูกับเนื้อห้ามย่างรวมกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น