คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
การได้เป็นนักกอล์ฟอาชีพ ฟังดูแล้วเหมือนกับเป็นชีวิตในฝันที่ดูน่าอิจฉาของผู้ที่รักกอล์ฟเป็นชีวิตจิตใจ เพราะลักษณะเหมือนจะคล้ายๆ การออกท่องเที่ยวแถมยังได้ตีกอล์ฟรอบโลก ได้เที่ยวด้วยได้เงินด้วย... ดูมีความสุขสุดๆ แม้จะเป็นความจริงอยู่ถึงระดับหนึ่ง แต่ในทางตรงกันข้ามบรรดานักกอล์ฟอาชีพเหล่านี้ต้องแลกความสุขที่ได้กล่าวมาข้างต้นกับอะไรอีกหลายต่อหลายอย่าง
ณ จุดเริ่มต้นของอาชีพในฝันนี้นั้น ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อของความมุ่งมั่น ตั้งใจฝึกฝน เพราะกว่าที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมาได้ถึงจุดนี้ แน่นอนว่าถ้าคุณก้าวมาถึงขั้นนี้ได้ กอล์ฟก็จะสร้างรายได้และความสุขให้กับคุณแน่นอน แต่คุณก็ต้องน้อมรับการสูญเสียบางอย่างได้เช่นกัน เนื่องจากการเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่ต้องเดินทางแข่งขันในทุกๆสัปดาห์นั้น สิ่งแรกที่จะเสียไปก็คือ "เวลา" ลองมานั่งนับๆ ดูกอล์ฟแข่งรายการละ 4 วัน ส่วนใหญ่จะเริ่มจากวันพฤหัสไปถึงวันอาทิตย์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็ต้องมีรอบซ้อมก่อนอีกอย่างน้อยหนึ่งวันก็คือวันพุธ กรณีที่แข่งจบวันสุดท้ายก็อาจจะต้องหอบข้าวของบินกลับบ้านคืนวันนั้นเลย เพื่อกลับมาจัดเสื้อผ้าเปลี่ยนกระเป๋า วันจันทร์เย็นก็อาจจะต้องบินไปแข่งรายการต่อไปที่ประเทศอื่นอีก แล้วถ้าลองคิดดูเล่นๆ บางประเทศอาจจะต้องใช้เวลาบินมากกว่า 6 ชั่วโมง เวลาในช่วงที่ได้อยู่บ้านก็จะน้อยลงไปอีก ความเหนื่อยล้าก็จะเพิ่มมากขึ้น และหากว่าเดือนหนึ่งต้องแข่ง2-3สัปดาห์ล่ะ เวลาให้ตัวเองยังแทบหาไม่ได้ เวลาให้ครอบครัว หรือคนที่เรารักก็แทบจะลืมไปได้เลย นานๆ จะมีอาทิตย์ที่ว่างได้พักสัปดาห์หนึ่ง แต่ที่พบเห็นบ่อยๆ ก็คือบรรดาเพื่อนหรือคนรู้จักเมื่อรู้ว่าโปรมีเวลาว่างก็อยากชวนออกรอบอีก บางงานของสปอนเซอร์เลี่ยงไม่ได้ก็ต้องไป แต่หากเลี่ยงได้ใครก็คงอยากจะพัก อยากใช้เวลากับครอบครัวบ้าง สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งก็คือ "สุขภาพ” นอกจากความเหนื่อยล้าจากการแข่งขันในแต่ละสัปดาห์และการเดินทางที่ต้องนั่งเครื่องบินหลายๆ ชั่วโมงแล้ว ยังมีเรื่องของ Time Zone อีก กรณีที่เวลาต่างกันมากๆ ก็ต้องปรับตัวให้เข้าสู่ภาวะปกติของเวลาในแต่ละประเทศให้ได้โดยเร็ว ท่านผู้อ่านลองคิดตามนะครับ หากจะต้องทำเริ่มนับหนึ่งทำรูทีนนี้ทุกๆ สัปดาห์ ร่างกายเราจะต้องมีความฟิตมากแค่ไหน? ขนาดเราไปเที่ยวต่างประเทศที่เวลาห่างกันมากๆ ยังต้องใช้เวลาปรับตัว 2-3 วันเลย แต่ตารางแข่งขันไม่ได้มีให้นักกอล์ฟอาชีพได้ปรับตัวนานขนาดนั้น พวกเขาต้อง กิน นอน ตื่น ให้เป็นปกติให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ไม่ส่งผลกระทบขณะทำการแข่งขัน
ที่กล่าวมาเบื้องต้นเป็นแค่ 2 ข้อหลักๆ ที่ต้องยอมเสียสละแลกกับการได้ตระเวนเที่ยวตีกอล์ฟรอบโลก ทั้งนี้ทั้งนั้นเรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เงินที่จะต้องใช้กินอยู่ ยิ่งในกรณีที่ไม่ผ่านตัดตัว นอกจากไม่ได้เงินรางวัลแล้ว ยังเสียเวลา เสียสุขภาพไปฟรีๆ อีกด้วย เพราะฉะนั้นหากรักที่จะเป็นนักกอล์ฟอาชีพแล้ว ก็ต้องสร้างความมุ่งมั่น ความกระหายที่ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาให้คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเสียไป
การได้เป็นนักกอล์ฟอาชีพ ฟังดูแล้วเหมือนกับเป็นชีวิตในฝันที่ดูน่าอิจฉาของผู้ที่รักกอล์ฟเป็นชีวิตจิตใจ เพราะลักษณะเหมือนจะคล้ายๆ การออกท่องเที่ยวแถมยังได้ตีกอล์ฟรอบโลก ได้เที่ยวด้วยได้เงินด้วย... ดูมีความสุขสุดๆ แม้จะเป็นความจริงอยู่ถึงระดับหนึ่ง แต่ในทางตรงกันข้ามบรรดานักกอล์ฟอาชีพเหล่านี้ต้องแลกความสุขที่ได้กล่าวมาข้างต้นกับอะไรอีกหลายต่อหลายอย่าง
ณ จุดเริ่มต้นของอาชีพในฝันนี้นั้น ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อของความมุ่งมั่น ตั้งใจฝึกฝน เพราะกว่าที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมาได้ถึงจุดนี้ แน่นอนว่าถ้าคุณก้าวมาถึงขั้นนี้ได้ กอล์ฟก็จะสร้างรายได้และความสุขให้กับคุณแน่นอน แต่คุณก็ต้องน้อมรับการสูญเสียบางอย่างได้เช่นกัน เนื่องจากการเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่ต้องเดินทางแข่งขันในทุกๆสัปดาห์นั้น สิ่งแรกที่จะเสียไปก็คือ "เวลา" ลองมานั่งนับๆ ดูกอล์ฟแข่งรายการละ 4 วัน ส่วนใหญ่จะเริ่มจากวันพฤหัสไปถึงวันอาทิตย์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็ต้องมีรอบซ้อมก่อนอีกอย่างน้อยหนึ่งวันก็คือวันพุธ กรณีที่แข่งจบวันสุดท้ายก็อาจจะต้องหอบข้าวของบินกลับบ้านคืนวันนั้นเลย เพื่อกลับมาจัดเสื้อผ้าเปลี่ยนกระเป๋า วันจันทร์เย็นก็อาจจะต้องบินไปแข่งรายการต่อไปที่ประเทศอื่นอีก แล้วถ้าลองคิดดูเล่นๆ บางประเทศอาจจะต้องใช้เวลาบินมากกว่า 6 ชั่วโมง เวลาในช่วงที่ได้อยู่บ้านก็จะน้อยลงไปอีก ความเหนื่อยล้าก็จะเพิ่มมากขึ้น และหากว่าเดือนหนึ่งต้องแข่ง2-3สัปดาห์ล่ะ เวลาให้ตัวเองยังแทบหาไม่ได้ เวลาให้ครอบครัว หรือคนที่เรารักก็แทบจะลืมไปได้เลย นานๆ จะมีอาทิตย์ที่ว่างได้พักสัปดาห์หนึ่ง แต่ที่พบเห็นบ่อยๆ ก็คือบรรดาเพื่อนหรือคนรู้จักเมื่อรู้ว่าโปรมีเวลาว่างก็อยากชวนออกรอบอีก บางงานของสปอนเซอร์เลี่ยงไม่ได้ก็ต้องไป แต่หากเลี่ยงได้ใครก็คงอยากจะพัก อยากใช้เวลากับครอบครัวบ้าง สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งก็คือ "สุขภาพ” นอกจากความเหนื่อยล้าจากการแข่งขันในแต่ละสัปดาห์และการเดินทางที่ต้องนั่งเครื่องบินหลายๆ ชั่วโมงแล้ว ยังมีเรื่องของ Time Zone อีก กรณีที่เวลาต่างกันมากๆ ก็ต้องปรับตัวให้เข้าสู่ภาวะปกติของเวลาในแต่ละประเทศให้ได้โดยเร็ว ท่านผู้อ่านลองคิดตามนะครับ หากจะต้องทำเริ่มนับหนึ่งทำรูทีนนี้ทุกๆ สัปดาห์ ร่างกายเราจะต้องมีความฟิตมากแค่ไหน? ขนาดเราไปเที่ยวต่างประเทศที่เวลาห่างกันมากๆ ยังต้องใช้เวลาปรับตัว 2-3 วันเลย แต่ตารางแข่งขันไม่ได้มีให้นักกอล์ฟอาชีพได้ปรับตัวนานขนาดนั้น พวกเขาต้อง กิน นอน ตื่น ให้เป็นปกติให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ไม่ส่งผลกระทบขณะทำการแข่งขัน
ที่กล่าวมาเบื้องต้นเป็นแค่ 2 ข้อหลักๆ ที่ต้องยอมเสียสละแลกกับการได้ตระเวนเที่ยวตีกอล์ฟรอบโลก ทั้งนี้ทั้งนั้นเรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เงินที่จะต้องใช้กินอยู่ ยิ่งในกรณีที่ไม่ผ่านตัดตัว นอกจากไม่ได้เงินรางวัลแล้ว ยังเสียเวลา เสียสุขภาพไปฟรีๆ อีกด้วย เพราะฉะนั้นหากรักที่จะเป็นนักกอล์ฟอาชีพแล้ว ก็ต้องสร้างความมุ่งมั่น ความกระหายที่ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาให้คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเสียไป
