ปัจจุบันพบว่านักกอล์ฟชายประมาณ 80% ใช้ครีมทากันแดดระหว่างออกรอบ และนักกอล์ฟสตรีใช้กันร้อยทั้งร้อยเลยทีเดียว คำถามก็คือ ควรใช้ครีมกันแดดยี่ห้ออะไรดี? ตอบว่า ก่อนจะเลือกใช้ครีมกันแดดอะไรก็ตาม เราควรจะรู้ถึงอันตราย ที่มากับแสงแดดก่อนจะดีกว่า คือในแสงแดดนั้นจะมีรังสีอุลตราไวโอเลตอยู่ ซึ่งแบ่งออกเป็น UVA และ UVB รังสีทั้งสองนี้ เป็นอันตรายต่อผิวหนังทั้งคู่ โดย UVA สามารถซึมซาบลงสู่ผิวหนังชั้นใน คือหนังแท้ และถ้าถูกรังสีนี้นานๆ และบ่อยๆ จะทำให้เกิดริ้วรอย ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย
สำหรับรังสี UVB ก็จะทำให้ผิวหนังหมองคล้ำ แม้จะโดนผิวหนังในช่วงเวลาสั้นๆ แต่จะคล้ำมาก คล้ำน้อย ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ดังนั้นครีมกันแดดทั่วๆ ไป จึงจะต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีทั้งสองอย่างนี้ โดยจะบอกเป็นค่า SPF และค่า PA ไว้
ค่า SPF (Sun Protection Factor) จะเป็นค่าการป้องกันผิวจากรังสี UVB และค่า PA (Protection Grade UVA) เป็นค่าการป้องกันรังสี UVA ซึ่งค่า PA นี้จะมีเป็น 3 ระดับ คือ PA+, PA++, PA+++ ค่าบวกมากแสดงว่าปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้มากกว่า
ส่วนค่า SPF จะบอกเป็นตัวเลขต่อท้าย เช่น SPF 15, SPF 20, SPF 30, SPF 60 เป็นต้น ซึ่งถ้าตัวเลขมากขึ้น แสดงถึงค่าการปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้มากกว่า
สำหรับบ้านเรา แดดค่อนข้างแรงในช่วงหน้าร้อนนี้ เราอาจเลือกใช้ค่า SPF ระหว่าง 30-50 ก็น่าจะเหมาะสม การทาครีมกันแดดที่ถูกวิธี ให้เกลี่ยเนื้อครีมทาบางๆ ให้ทั่วบริเวณผิวหนังที่เปิดเผยนอกเสื้อผ้า โดยไม่ควรทาหนาจนเกินไป เพราะจะทำให้เหนียวเหนอะหนะ เปลือง และไม่เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าผากควรระวัง เพราะถ้าเหงื่อออกมากๆ จะพาครีมไหลเข้าตา ทำให้ตาแสบ เคืองได้
ส่วนนักกอล์ฟหญิงที่นิยมใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ เป็นประจำ ผิวจะไวต่อแสงแดดมาก เนื่องจากกรดผลไม้จะค่อยๆ กัดผิวให้บางลง จึงควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และผู้ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งนานๆ แสงแดดจะทำลายคุณสมบัติของครีมกันแดด ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง จึงจำเป็นต้องทาครีมกันแดดซ้ำอีกเป็นระยะ การสวมหมวกที่มีกระบังแดดกว้างๆ แบบหมวกของแคดดี้ ก็เป็นอุปกรณ์ช่วยบังแดดได้ดีเหมือนกัน
