สุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยในที่ประชุมกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นห่วงฟุตบอลชายทีมชาติไทย จะชวดเหรียญทองอีกสมัย เนื่องจากทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยรายงานว่า ทางเมียนมาร์จะขอทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนมาให้ได้
หลังขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ร่วงตกรอบแรกศึกฟุตบอลซีเกมส์ตั้งแต่ครั้งที่ 25 ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อพ.ศ.2552 ต่อเนื่องถึงครั้งที่ 26 ที่เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อพ.ศ.2554 ทำให้หลายฝ่ายเริ่มเป็นห่วงศึกซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ผลงานจะเป็นอย่างไร
ล่าสุดทางสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เผยว่า "ในที่ประชุมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้หยิบยกประเด็นฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดลุยศึกซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ที่เราไม่ประสบความสำเร็จถึงสองครั้งติดต่อกัน ทำให้กระทรวงฯรู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะฟุตบอลเป็นชนิดกีฬาที่คนไทยให้ความสนใจและตั้งความหวังไว้สูงมาก ต้องได้เหรียญทองเท่านั้น อีกทั้งคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้แจ้งต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาว่าทางเมียนมาร์ จะขอทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งในฐานะที่ตนเองเป็นเจ้าภาพครั้งนี้"
"ทั้งนี้ทางกระทรวงฯ ได้ขอความร่วมมือกับทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดลุยซีเกมส์ที่เนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์โดยทันที และในที่กระชุมยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงนักฟุตบอลไทยให้ความสำคัญในการเล่นให้กับสโมสรอาชีพมากกว่าการความสำคัญในระดับทีมชาติ อาจะเป้นเพราะเรื่องของค่าตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าหรือไม่" ปลัด ก.กีฬา กล่าว
สำหรับผลงานของฟุตบอลชายทีมชาติไทย ในการแข่งซีเกมส์ตลอด 26 ครั้งที่ผ่านมา ครองความยิ่งใหญ่ 13 สมัย(ครั้งที่3, 8, 11-13, 17-24) ส่วนประเทศเมียนมาร์ครองความยิ่งใหญ่ในช่วงต้นของการแข่งขันทั้งสิ้น 5 สมัยตั้งแต่ปี พ.ศ.2508-2516(ครั้งที่3-7)
