ASTVผู้จัดการรายวัน - หลังจากอนิจกรรมของ ชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ส่งผลให้ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่างลง ซึ่งผู้คนในวงการกีฬาไทยต่างจับจ้องไปที่รายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีกีฬา” คนใหม่ โดยมีรายชื่อทั้งบุคคลที่อยู่ภายในพรรค และนอกพรรคแต่ใกล้ชิด นายบรรหาร ศิลปอาชา ขาใหญ่ตัวจริงของพรรคปรากฏขึ้นตามหน้าสื่อต่างๆ ถึงการเป็นตัวเต็ง
หากลองไล่เรียงวิธีการเลือกตำแหน่งรัฐมนตรีของ “เติ้ง เสี่ยว หาร” มักจะเน้นบุคคลใกล้ชิดและเป็นลูกหม้อเก่าในกระทรวงต่างๆ อาทิ เคยมอบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กับ ธีระ วงศ์สมุทร อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับ “บิ๊กเติ้ง” มาแล้ว ดังนั้น บุคคลในแวดวงกีฬาที่มีความใกล้ชิดศูนย์กลางอำนาจพรรคชาติไทยพัฒนาน่าจะมีโอกาสเป็นที่สุด
เริ่มกันที่รายแรก สมบัติ คุรุพันธุ์ ซึ่งต้องถือว่าเป็นข้าราชการกรมพลศึกษาที่ไต่เต้ามาจนถึงตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษา ก่อนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงอย่างสมภาคภูมิ ถือเป็นลูกหม้อที่มีผลงานโดดเด่นจน “รัฐมนตรีชุมพล” ถึงกับออกปากขอแรงมาช่วยในตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หลังเกษียณอายุราชการ เนื่องจากมีประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนาน และได้รับความไว้วางใจจาก “บิ๊กเติ้ง” มาอย่างต่อเนื่อง โดยเคยรับตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรีอีกด้วย
ทั้งนี้ ประสบการณ์ด้านกีฬาที่ได้รับการยอมรับของ สมบัติ คือ การนั่งตำแหน่งนายกสมาคมแฮนด์บอลแห่งประเทศไทย จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสมาพันธ์แฮนด์บอลแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก้าวไปเป็นคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์แฮนด์บอลแห่งเอเชีย
ถัดมามีชื่อของ ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนปัจจุบัน ขึ้นเป็นตัวเต็ง โดยถือว่าก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของกระทรวงแห่งนี้ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนโตเมืองสุพรรณบุรี อย่างแท้จริง เพราะนอกจากเป็นอีกหนึ่งลูกหม้อกรมพลศึกษาแล้ว ยังเคยโดนโยกไปนั่งตำแหน่งรองอธิบดีกรมการท่องเที่ยวทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องมาแล้ว
นอกจากนี้ ดร.สุวัตร ยังมีประสบการณ์ตรงผ่านการดูแลงานด้านกีฬามาอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะร่วมงานกับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในปี 2543, เป็นเลขาสหพันธ์ฟุตบอลนักเรียนเอเชียเมื่อปี 2544 และยังเป็นอุปนายกสมาคมยิมนาสติกแห่งประเทศไทยระหว่างปี 2545-2547 เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคเดียวของ ดร.สุวัตร ดูเหมือนจะเป็นอายุราชการที่ยังเหลืออีกกว่า 2 ปี ในตำแหน่งปลัดกระทรวง อีกทั้งน่าจะยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตำแหน่งปลัดกระทรวง ของ “บิ๊กเติ้ง” ซึ่งไม่น่าจะเปลี่ยนม้ากลางลำธารในเวลานี้
ส่วนอีกรายที่น่าลุ่น คงหนีไม่พ้น “บิ๊กอ๊อด” ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นักการเมืองเก๋าประสบการณ์จากจังหวัดพิจิตร ผู้เคยผ่านงานในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถมยังมีผลงานด้านกีฬาด้วยการดึงเอาสโมสรฟุตบอลโรงงานยาสูบ หรือ “ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร” ไปลงหลักปักฐานที่บ้านเกิด พร้อมเปลี่ยนชื่อให้เสร็จสรรพเป็น “ทีทีเอ็ม-พิจิตร” อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นของเล่นนักการเมืองของสโมสรฟุตบอลรัฐวิสาหกิจแห่งนี้ที่ต้องระหกระเหินไปตามจังหวัดต่างๆ ตามบัญชาของฝ่ายการเมือง
แม้จะเป็นรอยด่าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนอย่าง “บิ๊กอ๊อด” นั้นใจใหญ่ ใจถึง และชื่นชอบกีฬาไม่น้อยไปกว่า เนวิน ชิดชอบ คนโตเมืองบุรีรัมย์ เห็นได้จากการสร้างสนามเหย้าของทีม “ทีทีเอ็ม-พิจิตร” ที่มีมูลค่าและขนาดใหญ่โต นอกจากนี้ อดีต รมต.ประสิทธิ์ ยังมีฝีเท้าฉกาจในการหวดลูกหนัง ขณะเดียวกัน ยังเคยนั่งตำแหน่งนายกสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทยมาแล้วเช่นกัน สำหรับอสัญกรรมของนายชุมพล ยังส่งผลให้คนโตเมืองพิจิตรได้เลื่อนขึ้นมาดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคชาติไทยพัฒนา
ซึ่งจากการเปิดเผยของ วัชระ กรรณิการ์ โฆษกประจำกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่า ขณะนี้จะยังไม่มีการแต่งตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้ให้บุคคลใด เนื่องจากอยู่ระหว่างไว้ทุกข์ให้กับนายชุมพล ศิลปอาชา โดยจะมีการประชุมพรรคชาติไทยพัฒนาอีกครั้ง เพื่อคัดสรรผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งต่อไป ถึงตอนนั้นคงต้องมารอดูว่า “บิ๊กเติ้ง” จะถูกใจเลือกใช้บริการของแคนดิเดตรายใดในท้ายที่สุด