แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกมาพิชิต อาร์เซนอล 2-0 จากการทำประตูของ เจมส์ มิลเนอร์ และ เอดิน เซโก ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก โดยทั้งสองฝ่ายต้องผู้เล่นข้างละ 10 คน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก
อาร์เซนอล 0-2 แมนฯ ซิตี
โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกมาเยือนรัง เอมิเรตส์ สเตเดียม โดยขาดกำลังสำคัญอย่าง ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อเกวโร และ ซาเมียร์ นาสรี พร้อมถูก แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมือง ทิ้งห่าง 10 แต้ม ขณะที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล ต้องการชัยชนะ เพื่อขยับขึ้นไปอยู่ในพื้นที่ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
เสียงนกหวีดดังขึ้น ต่างฝ่ายต่างเปิดเกมบุกแลกกัน ทว่าการผ่านบอลสุดท้ายยังไม่เฉียบขาด จึงไม่มีช็อตหวาดเสียวตลอด 5 นาทีแรก เข้าสู่นาทีที่ 9 แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เริ่มกดดันคู่แข่งมากขึ้นเรื่อยๆ มาได้จุดโทษ เมื่อ โลร็องต์ คอสเซียลนี กอด เอดิน เซโก ขณะที่กำลังหลุดเดี่ยว ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่ ดาวยิงบอสเนีย สังหารจุดโทษชนเสาซ้ายมือ บอลกระดอนมาเข้าซอง วอยจ์เซียค เซสนีย์
“เรือใบสีฟ้า” ซึ่งได้เปรียบจำนวนผู้เล่น โหมเกมรุกอย่างหนัก แต่ยังไม่มีทีเด็ดในจังหวะปิดสกอร์ ขณะที่ อาร์เซนอล ตั้งรับอย่างเหนียวแน่น และรอเล่นเกมโต้กลับ จนถึงนาที 21 ซิตี ได้เฮ เมื่อ ดาบิด ซิลบา รับบอลจากการเล่นฟรีคิกเร็ว แทงต่อมาให้ คาร์ลอส เตเบซ แทงตามช่องให้ เจมส์ มิลเนอร์ ยิงตามน้ำจากกรอบโทษด้านขวา ผ่านมือ เซสนีย์ เข้าเสาไกล
รูปเกมไม่แตกต่างจากเดิม เมื่อถึงนาที 32 แมนฯ ซิตี โขยกหนี 2-0 เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดเรียดจากกราบขวามาทางเสาแรกให้ คาร์ลอส เตเบซ ล้มตัวยิงติด วอยจ์เซียค เซสนีย์ มาเข้าทาง เอดิน เซโก ซ้ำจ่อๆ ไม่มีเหลือ จากนั้น แชมป์เก่า ผ่อนเกมหันมาเน้นการครองบอลเป็นหลัก ทำให้ “ปืนใหญ่” ทำเกมรุกเข้าใส่ แต่ยังไม่มีโอกาสเงื้อเท้ายิงแบบจะแจ้ง ก่อนจบ 45 นาทีด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 4 นาที ซิตี เกือบได้ลูก 3 เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดโด่งจากกราบขวามาทางเสาสองให้ เอดิน เซโก ขึ้นโหม่งไม่ตรงกรอบ จากนั้น พลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” พยายามครองบอลบุกตอบโต้ แต่การผ่านบอลยังขาดความแน่นอน จึงต้องอาศัยการทำฟาวล์เพื่อตัดเกมรุกคู่แข่งบริเวณกลางสนาม
เข้าสู่นาทีที่ 55 ทีมของ โรแบร์โต มันชินี กลับเป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่า แต่ก็ยังไมมีลุ้นประตูเพิ่ม ขณะที่ ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน บุกไม่ขึ้น จึงต้องอาศัยการการเข้าทำจากลูกเซ็ตพีซ นาที 70 “เดอะ ซิติเซ็นส์” ชวดทิ้งห่าง เมื่อ คาร์ลอส เตเบซ ได้บอลเข้าไปดวลกับ วอยจ์เซียค เซสนีย์ แบบตัวต่อตัว และพยายามล็อกหลบ ทว่า นายด่านชาวโปล ไม่หลงกล
ต่อมา 2 นาที ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ได้ลุ้นบ้าง เมื่อโอลิวิเยร์ ชีรูด์ ขึ้นโขกลูกเปิดฟรีคิกจากกราบขวาแบบเหน่งๆ หลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย นาที 74 รองจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก เหลือผู้เล่นเพียง 10 คนแบบโชคร้าย เมื่อ แว็งซ็องต์ คอมปานี เสียบ แจ็ค วิลเชียร์ โดยผู้ตัดสินมองว่าเป็นการสไลด์ 2 เท้า จึงชักใบแดงไล่ออกจากสนาม
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมอันดับ 6 ของตาราง ครองเกมกลางสนามไว้ได้ และมีโอกาสกดดันคู่ต่อสู้พักใหญ่ แต่ขาดความแม่นยำในการผ่านบอลสุดท้าย ขณะที่ อาคันตุกะจาก เอติฮัด สเตเดียม แพ็คเกมรับอย่างหนาแน่น เพื่อเน้นผลการแข่งขัน
นาที 89 เจ้าบ้าน ชวตีไข่แตก เมื่อ อารอน แรมซีย์ จ่ายทะลุช่องให้ ธีโอ วัลคอตต์ หลุดมาทางกรอบโทษด้านขวา แล้วแปผ่าน โจ ฮาร์ท ทว่า โจลีออน เลสค็อตต์ ตามมาเคลียร์ออกหลัง ช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 90 นาที แมนฯ ซิตี ชนะ 2-0 ไล่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 7 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ตัวจริง
อาร์เซนอล : วอยจ์เซียค เซสนีย์ , บาการี ซานญา , โธมัส แฟร์มาเลน , โลร็องต์ คอสเซียลนี , คีแรน กิ๊บบส์ , อาบู ดิยาบี , ลูคัส โพดอลสกี , แจ็ค วิลเชียร์ , อเล็กซ์ อ็อกเลด แชมเบอร์เลน , ธีโอ วัลค็อตต์ , ซานติ กาซอร์ลา
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , แว็งซ็องต์ คอมปานี , ปาโบล ซาบาเลตา , กาแอล กลิชี , มาติยา นาสตาซิช , เจมส์ มิลเนอร์ , ฆาบี การ์เซีย , แกเร็ธ แบร์รี , ดาบิด ซิลบา , เอดิน เซโก , คาร์ลอส เตเบซ
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก
อาร์เซนอล 0-2 แมนฯ ซิตี
โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกมาเยือนรัง เอมิเรตส์ สเตเดียม โดยขาดกำลังสำคัญอย่าง ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อเกวโร และ ซาเมียร์ นาสรี พร้อมถูก แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมือง ทิ้งห่าง 10 แต้ม ขณะที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล ต้องการชัยชนะ เพื่อขยับขึ้นไปอยู่ในพื้นที่ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
เสียงนกหวีดดังขึ้น ต่างฝ่ายต่างเปิดเกมบุกแลกกัน ทว่าการผ่านบอลสุดท้ายยังไม่เฉียบขาด จึงไม่มีช็อตหวาดเสียวตลอด 5 นาทีแรก เข้าสู่นาทีที่ 9 แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เริ่มกดดันคู่แข่งมากขึ้นเรื่อยๆ มาได้จุดโทษ เมื่อ โลร็องต์ คอสเซียลนี กอด เอดิน เซโก ขณะที่กำลังหลุดเดี่ยว ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่ ดาวยิงบอสเนีย สังหารจุดโทษชนเสาซ้ายมือ บอลกระดอนมาเข้าซอง วอยจ์เซียค เซสนีย์
“เรือใบสีฟ้า” ซึ่งได้เปรียบจำนวนผู้เล่น โหมเกมรุกอย่างหนัก แต่ยังไม่มีทีเด็ดในจังหวะปิดสกอร์ ขณะที่ อาร์เซนอล ตั้งรับอย่างเหนียวแน่น และรอเล่นเกมโต้กลับ จนถึงนาที 21 ซิตี ได้เฮ เมื่อ ดาบิด ซิลบา รับบอลจากการเล่นฟรีคิกเร็ว แทงต่อมาให้ คาร์ลอส เตเบซ แทงตามช่องให้ เจมส์ มิลเนอร์ ยิงตามน้ำจากกรอบโทษด้านขวา ผ่านมือ เซสนีย์ เข้าเสาไกล
รูปเกมไม่แตกต่างจากเดิม เมื่อถึงนาที 32 แมนฯ ซิตี โขยกหนี 2-0 เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดเรียดจากกราบขวามาทางเสาแรกให้ คาร์ลอส เตเบซ ล้มตัวยิงติด วอยจ์เซียค เซสนีย์ มาเข้าทาง เอดิน เซโก ซ้ำจ่อๆ ไม่มีเหลือ จากนั้น แชมป์เก่า ผ่อนเกมหันมาเน้นการครองบอลเป็นหลัก ทำให้ “ปืนใหญ่” ทำเกมรุกเข้าใส่ แต่ยังไม่มีโอกาสเงื้อเท้ายิงแบบจะแจ้ง ก่อนจบ 45 นาทีด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 4 นาที ซิตี เกือบได้ลูก 3 เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดโด่งจากกราบขวามาทางเสาสองให้ เอดิน เซโก ขึ้นโหม่งไม่ตรงกรอบ จากนั้น พลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” พยายามครองบอลบุกตอบโต้ แต่การผ่านบอลยังขาดความแน่นอน จึงต้องอาศัยการทำฟาวล์เพื่อตัดเกมรุกคู่แข่งบริเวณกลางสนาม
เข้าสู่นาทีที่ 55 ทีมของ โรแบร์โต มันชินี กลับเป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่า แต่ก็ยังไมมีลุ้นประตูเพิ่ม ขณะที่ ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน บุกไม่ขึ้น จึงต้องอาศัยการการเข้าทำจากลูกเซ็ตพีซ นาที 70 “เดอะ ซิติเซ็นส์” ชวดทิ้งห่าง เมื่อ คาร์ลอส เตเบซ ได้บอลเข้าไปดวลกับ วอยจ์เซียค เซสนีย์ แบบตัวต่อตัว และพยายามล็อกหลบ ทว่า นายด่านชาวโปล ไม่หลงกล
ต่อมา 2 นาที ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ได้ลุ้นบ้าง เมื่อโอลิวิเยร์ ชีรูด์ ขึ้นโขกลูกเปิดฟรีคิกจากกราบขวาแบบเหน่งๆ หลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย นาที 74 รองจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก เหลือผู้เล่นเพียง 10 คนแบบโชคร้าย เมื่อ แว็งซ็องต์ คอมปานี เสียบ แจ็ค วิลเชียร์ โดยผู้ตัดสินมองว่าเป็นการสไลด์ 2 เท้า จึงชักใบแดงไล่ออกจากสนาม
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมอันดับ 6 ของตาราง ครองเกมกลางสนามไว้ได้ และมีโอกาสกดดันคู่ต่อสู้พักใหญ่ แต่ขาดความแม่นยำในการผ่านบอลสุดท้าย ขณะที่ อาคันตุกะจาก เอติฮัด สเตเดียม แพ็คเกมรับอย่างหนาแน่น เพื่อเน้นผลการแข่งขัน
นาที 89 เจ้าบ้าน ชวตีไข่แตก เมื่อ อารอน แรมซีย์ จ่ายทะลุช่องให้ ธีโอ วัลคอตต์ หลุดมาทางกรอบโทษด้านขวา แล้วแปผ่าน โจ ฮาร์ท ทว่า โจลีออน เลสค็อตต์ ตามมาเคลียร์ออกหลัง ช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 90 นาที แมนฯ ซิตี ชนะ 2-0 ไล่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 7 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ตัวจริง
อาร์เซนอล : วอยจ์เซียค เซสนีย์ , บาการี ซานญา , โธมัส แฟร์มาเลน , โลร็องต์ คอสเซียลนี , คีแรน กิ๊บบส์ , อาบู ดิยาบี , ลูคัส โพดอลสกี , แจ็ค วิลเชียร์ , อเล็กซ์ อ็อกเลด แชมเบอร์เลน , ธีโอ วัลค็อตต์ , ซานติ กาซอร์ลา
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , แว็งซ็องต์ คอมปานี , ปาโบล ซาบาเลตา , กาแอล กลิชี , มาติยา นาสตาซิช , เจมส์ มิลเนอร์ , ฆาบี การ์เซีย , แกเร็ธ แบร์รี , ดาบิด ซิลบา , เอดิน เซโก , คาร์ลอส เตเบซ