เดมบา บา กองหน้าคนใหม่ของเชลซี ประเดิมสนามนัดแรกกับต้นสังกัดใหม่ด้วยการยิง 2 ประตู ก่อนพา "สิงห์บลู" ถล่ม "นักบุญแดนใต้" เซาแธมป์ตัน ขาดลอย 5-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบสาม วันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี เก็บชัยชนะถ้วนหน้า ก่อนเข้ารอบสี่ไปด้วยกัน
เอฟเอ คัพ รอบสาม
เซาแธมป์ตัน 1-5 เชลซี
เกมฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม ที่สนามเซนต์ แมรี สเตเดียม เป็นการเจอกันเองระหว่างสองทีมจากพรีเมียร์ลีก เซาแธมป์ตัน กับ เชลซี วันนี้ทีมเยือนของ ราฟาเอล เบนิเตซ ส่งทีมชุดใหญ่ลงสนาม แถมประเดิมลองของใหม่ส่ง เดมบา บา ดาวยิงชาวเซเนกัล ที่เพิ่งย้ายจาก นิวคาสเซิล มาหมาดๆ เล่นแทน เฟร์นานโด ตอร์เรส ในตำแหน่งหน้าเป้า
เริ่มเกม นาที 6 เชลซี เกือบได้ประตูนำก่อน จังหวะ ดาวิด ลุยซ์ วิ่งเติมขึ้นมาจากแถวสองก่อนบรรจงกดด้วยขวาเต็มข้อ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป จากนั้นนาที 12 ลุยซ์ ได้โอกาสยิงอีกครั้งจากนอกเขตโทษ แต่คราวนี้บอลโด่งไปเข้ามือ อาร์เธอร์ โบรุค นายด่านเจ้าถิ่นรับง่ายๆ
แต่กลายเป็นว่า เซาแธมป์ตัน ที่โดนทีมเยือนนวดอยู่นาน กลับได้ประตูขึ้นนำก่อน เจย์ โรดริเกซ พลิกบอลหนี แกรี เคฮิลล์ ก่อนลากขึ้นไปดีดด้วยขวาผ่านตัว รอส เทิร์นบูล เข้าไปเป็น 1-0 ต่อมา จากนั้นหลังเสียประตู "สิงห์บลู" บุกมากกว่าเดิมจนเกือบตีเสมอได้จากจังหวะยิงด้วยขวาของ เอเดน ฮาซาร์ด นาที 25 แต่บอลผ่านเสาไกลออกไป
ทีมเยือนบุกอยู่นาน กระทั่งนาที 35 ก็มาตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1 ฮาซาร์ด ป้ายเข้ากลางให้ ฆวน มาตา หลุดเข้าไปยิงติดมือของ โบรุค แต่ เดมบา บา วิ่งตามมาซ้ำเข้าไปแบบไม่พลาด และกลายเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในสีเสื้อของ "สิงห์บลู" อีกด้วย และช่วงทดเจ็บ วิคเตอร์ โมเซส ก็มายิงช่วยให้ เชลซี พลิกนำ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยผลดังกล่าว
ครึ่งหลัง เชลซี บุกต่อเนื่อง นาที 50 มาตา ตัดสินใจยิงไกลนอกเขตโทษ แต่ติดบล็อคผู้เล่นเจ้าถิ่นออกหลัง อย่างไรก็ตาม นาที51 ทีมเยือนก็ทะยานหนีเป็น 3-1 จนได้ มาตา ตักบอลเข้าไปหน้าประตู ก่อนเป็น บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จัดการโหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย ชนิด โบรุค ได้แต่ยืนมอง
เท่านั้นไม่พอ นาที 61 ทัพของ "เอล บอส" ก็หนีห่างเป็น 4-1 ฮาซาร์ด ไหลต่อให้ บา วิ่งมากดลูกที่สองของตัวเองในเกมนี้ ผ่านมือ โบรุค เข้าไปอย่างง่ายดาย จากนั้นนาที 64 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวเอา อิวาโนวิช ออก แล้วส่ง แฟรงค์ แลมพาร์ด มาบัญชาเกมแดนกลางในช่วงเวลาที่เหลืออยู่
นาที 70 แข้งนักบุญที่เงียบอยู่นาน ก็ได้ลุ้นประตูทีเดียวสองจังหวะซ้อน แต่ รอส เทิร์นบูล และกองหลังทีมเยือน ช่วยกันสกัดทิ้งได้ทั้งหมด จากนั้นเกมสวนกลับ นาที 71 โมเซส เปิดโด่งเข้ามาให้ บา กระโดดโหม่งเพื่อทำแฮททริก แต่โหม่งไม่ดีบอลตรงตัว โบรุค เซฟเอาไว้ได้
เกมดำเนินมาถึงนาที 81 เชลซี มาได้จุดโทษหลัง แลมพาร์ด ยิงไปโดนแขนของแนวรับ เซาแธมป์ตัน ก่อนลงมือสังหารเองแบบไม่พลาดเป็น 5-1 สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี บุกถล่ม เซาแธมป์ตัน ขาดลอย 5-1 ลอยลำเข้าสู่รอบสี่ของการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อย
ส่วนผลคู่อื่นๆที่เตะในเวลาไล่เลี่ยกัน ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ เอาชนะ โคเวนทรี ซิตี 3-0 เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดบ้านถล่ม วัตฟอร์ด ซิตี ขาด 3-0 ส่งผลให้ทั้งสองทีม รวมถึง เชลซี กอดคอกันเข้ารอบสี่ไปด้วยกันตามความคาดหมาย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เซาแธมป์ตัน : อาร์เธอร์ โบรุค, มายะ โยชิดะ, โชเซ มิเกล ฟอนเต, ลุก ชอว์, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน, สตีเวน ดาวิส, เจมส์ วอร์ด, แจ๊ค คอร์ค, กิลเลอร์เม โด ปราโด, เจสัน พันเชียน, เจย์ โรดริเกซ
เชลซี : รอส เทิร์นบูล, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แอชลีย์ โคล, ดาวิด ลุยซ์, แกรี เคฮิลล์, เซซาร์ อัซพิลิกูเอตา, รามิเรส, วิคเตอร์ โมเซส, ฆวน มาตา, เอเดน ฮาซาร์ด, เดมบา บา
ผลฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบสาม (เฉพาะคู่ที่น่าสนใจ)
ไบรธ์ตัน 2-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
แอสตัน วิลลา 2-1 อิปสวิช ทาวน์
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0 บริสตอล ซิตี
ครอวลีย์ ทาวน์ 1-3 เรดดิง
คริสตัล พาเลซ 0-0 สโต๊ค ซิตี
ฟูแลม 1-1 แบล็คพูล
แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-0 วัตฟอร์ด
ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส 1-1 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
เซาแธมป์ตัน 1-5 เชลซี
ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ 3-0 โคเวนทรี ซิตี
วีแกน 1-1 บอร์นมัธ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
