ASTV ผู้จัดการรายวัน - ธีราทร บุญมาทัน ชื่อนี้เคยถูกตีตราว่าเป็น "แบดบอย" วงการฟุตบอลไทย จากการโดน 2 ใบแดงที่ลงรับใช้ชาติติดๆ กันคือฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกและ ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ประเทศอินโดนีเซีย จึงกลายเป็น "แพะรับบาป" ไปโดยปริยายด้วยเพราะผลงานของทีมช่วงนั้นก็ไม่สู้ดี แต่แท้จริงแล้วแบ็กซ้ายสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งมีส่วนพา "ช้างศึก" ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012" มีวิถีชีวิตเรียบง่ายที่สำคัญกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวทั้งที่อายุเพียงแค่ 22 ปี MGR SPORT จึงถือโอกาสพาไปคุยกับ "เจ้าอุ้ม" ระหว่างพักแข้งก่อนเหินฟ้าไปเยือน มาเลเซีย นัดแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคมนี้
ต้องยอมรับว่าเวลานี้ ธีราทร กลายเป็นแบ็กซ้ายตัวเลือกแรกของทีมชาติไทยไปแล้ว แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ต้องฝ่าอุปสรรคชีวิตวัยเยาว์เริ่มจากครอบครัวที่พื้นฐานไม่ได้ร่ำรวยก่อนจะเข้าสู่วิถีลูกหนัง เจ้าตัวย้อนความให้ฟังว่า "ฐานะทางบ้านผมไม่ค่อยดีนัก พ่อเป็นช่างตัดผม แม่ทำอาชีพรับจ้างประกอบเลนส์แว่นตาในโรงงาน จึงหวังอยากจะเข้าโรงเรียนกีฬา เพราะจะได้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทางบ้านที่มีน้องอีก 1 คน เนื่องจากเราไม่ต้องจ่ายค่าเทอม เรียนฟรี ทุกอย่างฟรีหมด พ่อจึงขอให้คนรู้จักที่เป็นลูกค้าฝากเข้าโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ผมเลยย้ายออกจากโรงเรียนวัดแถวบ้าน จังหวัดนนทบุรี ตอนป.3 ซึ่งตอนนั้นก็มีแค่รองเท้าผ้าใบใส่เที่ยวคู่เดียวจนโค้ชต้องบอกให้โทรศัพท์หาพ่อเพื่อซื้อให้ใหม่"
"หลังจากฝึกทักษะฟุตบอลที่นั่นจนถึงอายุ 15 ปีก็ได้ย้ายไปโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี พอจบมัธยมปลายก็มีโอกาสไปเล่นให้กับสโมสรราชประชา ตอนนั้นเริ่มได้เงินเดือนๆ ละ 18,000 บาทก็ให้พ่อกับแม่หมด บวกกับเบี้ยเลี้ยงจากการติดทีมชาติที่เก็บเรื่อยมาตั้งแต่อายุ 12 ปีพออายุ 18 ปีก็มีเงินประมาณ 200,000 บาทและปีถัดมาได้ย้ายไปเล่นให้สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เดือนๆ ละ 25,000 บาท ฐานะที่บ้านก็เริ่มดีขึ้น เลยได้โอกาสซื้อรถให้พ่อและตนเองคนละคัน จากนั้นพอเปลี่ยนมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ได้คอยดูแลและสนับสนุนอย่างดีตลอดเวลา เรียกได้ว่าตอนนี้ผมดูแลค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมด ล่าสุดเพิ่งซื้อบ้านหลังใหม่ราคา 6.7 ล้านบาท ที่บ้านเกิดจังหวัดนนทบุรี ให้ครอบครัวอีก 1 หลัง ปัจจุบันก็พอมีเอเยนต์ต่างชาติเข้ามาดูฟอร์มและมาสอบถามจะให้ทีมงานบินมาดู โดยเสนอค่าเหนื่อยคร่าวๆให้ราวล้านกว่าบาทต่อเดือน ซึ่งยังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรมากมายเพราะยังมีสัญญากับต้นสังกัด แต่ใจจริงก็อยากจะลองไปเล่นต่างประเทศดูสักครั้ง โดยเฉพาะ เจ-ลีก ประเทศญี่ปุ่น เพราะติดตามดูเป็นประจำ" แข้งวัย 22 ปี เผย
ส่วนการใช้ชีวิตนอกสนามของ ธีราทร ไม่ได้หวือหวาอย่างที่หลายคนคิด เรียกได้ว่าต่างกับลีลาการเล่นดุดันในสนามโดยสิ้นเชิง "โดยส่วนตัวผมไม่ใช่คนกินเหล้า สูบบุหรี่อยู่แล้ว จะมีเรื่องเที่ยวบ้างแต่ก็นานๆครั้ง เป็นการนัดเพื่อนไปกินข้าว เดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้ากันมากกว่า เช่น มาบุญครอง พารากอน ผมไม่ชอบออกเที่ยวตอนกลางคืนเพราะกลัว มันมีอุบัติเหตุเกิดเยอะ และพ่อแม่ก็เป็นห่วงด้วย จึงไม่ค่อยเสียเงินไปกับเรื่องฟุ่มเฟือยพวกนี้เท่าไหร่ ตอนอยู่แคมป์บุรีรัมย์ เวลาว่างผมก็ตีปิงปอง เล่นสนุกเกอร์ หรือออกไปกินช็อคโกแลตเย็นกับเพื่อนๆ ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวไหน ส่วนมากจะอยู่ห้องพักดูโทรทัศน์ เล่นเกมส์กับ แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ ที่เป็นรูมเมท ถึงเวลาก็ไปเล่นฟิตเนส ไปสนามซ้อม"
แน่นอนว่าแบ็กซ้ายที่มี แอชลีย์ โคล ดีกรีทีมชาติอังกฤษของ เชลซี เป็นไอดอล ไม่ลืมเอ่ยถึงช่วงเวลาเลวร้ายในชีวิตที่โดน 2 ใบแดงติดๆ กันว่า "ผมรู้สึกท้อสุดๆ เล่นแล้วก็โดนด่าจนถึงขนาดไปปรึกษาพ่อเพื่อขอเลิกเล่นทีมชาติ แต่พ่อบอกว่าตนเองอุตส่าห์ตามรับตามส่งผมตั้งแต่เด็กหมดเงินเสียเวลาไปไม่รู้เท่าไหร่ ยอมเหนื่อยมาโดยตลอดจะมาเลิกแค่นี้ได้ยังไงให้คิดดูดีๆ ผมจึงตัดสินใจสู้ต่อ จนก่อนหน้านี้แม้ว่าทางต้นสังกัดเตรียมจะส่งไปฝึกซ้อมที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี ประเทศอังกฤษ เผื่อจะมีแมวมองมาติดต่อและได้ไปเล่นต่างประเทศ แต่พอดีทีมชาติมีทัวร์นาเมนต์จึงพับแผนไปก่อน จริงๆ แล้วผมเป็นคนตลกจับคู่เฮฮากับ ธีรศิลป์ แดงดา ประจำ จะซีเรียสก็แค่ในเกมเท่านั้น เพราะเป็นอารมณ์กระหายชัยชนะ ไม่อยากแพ้ บางเกมจึงมีหลุดไปบ้างแต่ตอนนี้ก็ปรับปรุงตัวขึ้นแล้ว เพราะไม่ว่าสโมสรหรือเพื่อชาติก็เต็มที่ทุกนัดใส่หมดเท่าที่มีแรงวิ่ง"
ก่อนจบการสนทนาเมื่อสอบถามถึงเรื่องของหัวใจ "เจ้าอุ้ม" เปิดเผยว่า 4 ห้องนี้มีคนจับจ้องอยู่แล้วคือ “น้องเบส” แฟนสาวนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา วัย 21 ปี ซึ่งใครที่ได้ไปเชียร์ทีมชาติไทยหรือสโมสร บุรีรัมย์ น่าจะได้เคยเห็นหวานใจแบ็กซ้าย "เซราะกราว" มาเชียร์ติดขอบสนามเป็นประจำ ซึ่งทั้งคู่คบหากันมา 2 ปีแล้ว “เจอกันครั้งแรกตอนที่บุรีรัมย์ มีกิจกรรมไปละลายพฤติกรรมที่จังหวัดชลบุรี และได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนจนเจอกับน้องเขา จากนั้นก็ขอพินบีบีและคุยกันมาโดยตลอดจนได้คบหาเป็นแฟนกัน จากนี้ก็คงดูกันไปเรื่อยๆ เพราะยังเด็กด้วยกันทั้งคู่ พ่อแม่ก็รับรู้ เวลาว่างก่อนแข่งผมก็ไปหาเป็นประจำไปกินข้าว เดินเล่นที่ เซ็นทรัล ชลบุรี"