แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่า เปิดรังเอติฮัด สเตเดียม ถล่ม แอสตัน วิลลา แบบเละเทะ 5-0 จากการเหมา 2 ประตูของ เซร์คิโอ อเกวโร และคาร์ลอส เตเบซ สองหัวหอกอาร์เจนไตน์ ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี 5-0 แอสตัน วิลลา
โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี หวังขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราว ด้วยการเก็บชัยต่อหน้าแฟนๆ ในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม โดยจัดทัพแบบเน้นรุกเต็มสูบ ด้วยการวาง เซร์คิโอ อเกวโร กับคาร์ลอส เตเบซ เป็นคู่ศูนย์หน้า โดยมี ดาบิด ซิลบา และยายา ตูเร ทำเกมแดนกลาง ขณะที่ แอสตัน วิลลา ต้องฝากความหวังไว้กับ คริสเตียน เบ็นเทเค และกาเบรียล อักบอนลาฮอร์ คู่หูในแนวรุก
เสียงนกหวีดดังขึ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี ครองเกมเหนือกว่า ทว่ายังไม่มีจังหวะจบสกอร์แบบเน้นๆ และเป็น แอสตัน วิลลา ซึ่งอาศัยการตั้งรับที่เหนียวแน่น ใช้เกมโต้กลับจนหวิดขึ้นนำในนาทีที่ 20 เมื่อ เอ็นดา สตีเวนส์ เปิดโด่งจากกราบซ้ายมาให้ คริสเตียน เบ็นเทเค ขึ้นโหม่ง แต่ โจ ฮาร์ท พุ่งปัดไว้ได้
ต่อมา 10 นาที รูปเกมตกเป็นของ “เรือใบสีฟ้า” อย่างชัดเจน แต่แนวรับทีมเยือนยังทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม จนกระทั่งนาทีที่ 43 สาวก “เดอะ ซิตีเซ็นส์” ได้เฮ จากการเปิดลูกเตะมุมของ ซาเมียร์ นาสรี แต่ เอ็นดา สตีเวนส์ โหม่งสกัดไว้ ก่อนถูก แว็งซ็องต์ คอมปานี ยิงสวน ทำให้เกิดจังหวะชุลมุนหน้าประตู และเป็น ดาบิด ซิลบา วิ่งมายิงแบบจ่อๆ ไม่มีเหลือ จบ 45 นาทีแรก เจ้าถิ่นนำ 1-0
ลุยต่อครึ่งหลัง แชมป์เก่ายังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง และขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 54 เมื่อ “สิงห์ผยอง” ต้องมาเสียจุดโทษแบบโชคร้าย จากจังหวะที่ไลน์แมนมองว่า แอนเดรียส ไวแมนน์ เจตนาใช้มือ ก่อน เซร์คิโอ อเกวโร สังหารไม่พลาด
หลังทิ้งห่าง 2 ประตู ลูกทีมของ โรแบร์โต มันชินี เริ่มผ่อนเกมลง ขณะที่แนวรุกของ วิลลา ไม่สามารถกดดันแนวรับมหาเศรษฐีเมืองแมนเชสเตอร์ ได้เลย และต้องมาเสียจุดโทษที่สองในนาทีที่ 65 เมื่อ แบร์รี แบนแนน ทำแฮนด์บอลแบบชัดเจน แต่คราวนี้เป็น คาร์ลอส เตเบซ ยิงไม่พลาด ต่อมา 2 นาที ซิตี โขยกหนี 4-0 เมื่อ “เตฟ” จ่ายบอลให้ “เอล กุน” หลุดมาทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนซัดมุมแคบแฉลบ เอ็นดา สตีเวนส์ เบียดเสาแรกตุงตาข่าย
รองจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ยังเหนือกว่าอย่างชัดเจน และนำห่าง 5-0 ในนาทีที่ 74 เมื่อ เอดิน เซโก ไหลบอลให้ ซาเมียร์ นาสรี ซึ่งวิ่งอ้อมหลังมาทางกรอบโทษด้านซ้าย ก่อนตบเข้ากลางให้ คาร์ลอส เตเบซ แปง่ายๆ ทางเสาสอง จากนั้น แมนฯ ซิตี ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง และหวิดจะพังประตูที่ 6 หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จบเกมจึงเอาชนะด้วยสกอร์ดังกล่าว
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท, ไมคอน, แว็งซ็องต์ คอมปานี, กาแอล กลิชี, มาติยา นาสตาซิช, ซาเมียร์ นาสรี, แกเร็ธ แบร์รี, ดาบิด ซิลบา, ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อเกวโร, คาร์ลอส เตเบซ
แอสตัน วิลลา : แบรด กูซาน, รอน ฟลาร์, เคียแรน คลาร์ก, เอ็นดา สตีเวนส์, แม็ทธิว โลว์ตัน, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, แอชลีย์ เวสต์วูด, แบร์รี แบนแนน, อันเดรียส ไวมันน์, สตีเฟน ไอร์แลนด์, คริสเตียน เบ็นเทเค
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน
ลิเวอร์พูล 3-1 วีแกนฯ
[1-0 หลุยส์ ซัวเรซ น.46, 2-0 หลุยส์ ซัวเรซ น.57, 3-0 โฆเซ เอ็นริเก น.64]
นิวคาสเซิล 1-2 สวอนซี
[0-1 มิชู น.58, 0-2 โจนาธาน เด กุซมัน น.86, 1-2 เด็มบา บา น.90+3]
ควีนสปาร์กฯ 1-3 เซาแธมป์ตัน
[0-1 ริคกี แลมเบิร์ต น.23, 0-2 เจสัน พันชีออน น.45+1, 1-2 เดวิด ฮอยเล็ตต์ น.49, 1-3 แอนทอน เฟอร์ดินานด์ (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.82]
เรดดิง 2-1 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 สตีเวน เนสมิธ น.10, 1-1 อดัม เล ฟอนเดร น.50, 2-1 อดัม เลอ ฟอนเดร น.79 (จุดโทษ)]
เวสต์บรอมฯ 2-1 เชลซี
[1-0 เชน ลอง น.10, 1-1 เอเดน อาซาร์ด น.39, 2-1 ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี น.50]
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี 5-0 แอสตัน วิลลา
โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี หวังขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราว ด้วยการเก็บชัยต่อหน้าแฟนๆ ในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม โดยจัดทัพแบบเน้นรุกเต็มสูบ ด้วยการวาง เซร์คิโอ อเกวโร กับคาร์ลอส เตเบซ เป็นคู่ศูนย์หน้า โดยมี ดาบิด ซิลบา และยายา ตูเร ทำเกมแดนกลาง ขณะที่ แอสตัน วิลลา ต้องฝากความหวังไว้กับ คริสเตียน เบ็นเทเค และกาเบรียล อักบอนลาฮอร์ คู่หูในแนวรุก
เสียงนกหวีดดังขึ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี ครองเกมเหนือกว่า ทว่ายังไม่มีจังหวะจบสกอร์แบบเน้นๆ และเป็น แอสตัน วิลลา ซึ่งอาศัยการตั้งรับที่เหนียวแน่น ใช้เกมโต้กลับจนหวิดขึ้นนำในนาทีที่ 20 เมื่อ เอ็นดา สตีเวนส์ เปิดโด่งจากกราบซ้ายมาให้ คริสเตียน เบ็นเทเค ขึ้นโหม่ง แต่ โจ ฮาร์ท พุ่งปัดไว้ได้
ต่อมา 10 นาที รูปเกมตกเป็นของ “เรือใบสีฟ้า” อย่างชัดเจน แต่แนวรับทีมเยือนยังทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม จนกระทั่งนาทีที่ 43 สาวก “เดอะ ซิตีเซ็นส์” ได้เฮ จากการเปิดลูกเตะมุมของ ซาเมียร์ นาสรี แต่ เอ็นดา สตีเวนส์ โหม่งสกัดไว้ ก่อนถูก แว็งซ็องต์ คอมปานี ยิงสวน ทำให้เกิดจังหวะชุลมุนหน้าประตู และเป็น ดาบิด ซิลบา วิ่งมายิงแบบจ่อๆ ไม่มีเหลือ จบ 45 นาทีแรก เจ้าถิ่นนำ 1-0
ลุยต่อครึ่งหลัง แชมป์เก่ายังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง และขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 54 เมื่อ “สิงห์ผยอง” ต้องมาเสียจุดโทษแบบโชคร้าย จากจังหวะที่ไลน์แมนมองว่า แอนเดรียส ไวแมนน์ เจตนาใช้มือ ก่อน เซร์คิโอ อเกวโร สังหารไม่พลาด
หลังทิ้งห่าง 2 ประตู ลูกทีมของ โรแบร์โต มันชินี เริ่มผ่อนเกมลง ขณะที่แนวรุกของ วิลลา ไม่สามารถกดดันแนวรับมหาเศรษฐีเมืองแมนเชสเตอร์ ได้เลย และต้องมาเสียจุดโทษที่สองในนาทีที่ 65 เมื่อ แบร์รี แบนแนน ทำแฮนด์บอลแบบชัดเจน แต่คราวนี้เป็น คาร์ลอส เตเบซ ยิงไม่พลาด ต่อมา 2 นาที ซิตี โขยกหนี 4-0 เมื่อ “เตฟ” จ่ายบอลให้ “เอล กุน” หลุดมาทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนซัดมุมแคบแฉลบ เอ็นดา สตีเวนส์ เบียดเสาแรกตุงตาข่าย
รองจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ยังเหนือกว่าอย่างชัดเจน และนำห่าง 5-0 ในนาทีที่ 74 เมื่อ เอดิน เซโก ไหลบอลให้ ซาเมียร์ นาสรี ซึ่งวิ่งอ้อมหลังมาทางกรอบโทษด้านซ้าย ก่อนตบเข้ากลางให้ คาร์ลอส เตเบซ แปง่ายๆ ทางเสาสอง จากนั้น แมนฯ ซิตี ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง และหวิดจะพังประตูที่ 6 หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จบเกมจึงเอาชนะด้วยสกอร์ดังกล่าว
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท, ไมคอน, แว็งซ็องต์ คอมปานี, กาแอล กลิชี, มาติยา นาสตาซิช, ซาเมียร์ นาสรี, แกเร็ธ แบร์รี, ดาบิด ซิลบา, ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อเกวโร, คาร์ลอส เตเบซ
แอสตัน วิลลา : แบรด กูซาน, รอน ฟลาร์, เคียแรน คลาร์ก, เอ็นดา สตีเวนส์, แม็ทธิว โลว์ตัน, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, แอชลีย์ เวสต์วูด, แบร์รี แบนแนน, อันเดรียส ไวมันน์, สตีเฟน ไอร์แลนด์, คริสเตียน เบ็นเทเค
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน
ลิเวอร์พูล 3-1 วีแกนฯ
[1-0 หลุยส์ ซัวเรซ น.46, 2-0 หลุยส์ ซัวเรซ น.57, 3-0 โฆเซ เอ็นริเก น.64]
นิวคาสเซิล 1-2 สวอนซี
[0-1 มิชู น.58, 0-2 โจนาธาน เด กุซมัน น.86, 1-2 เด็มบา บา น.90+3]
ควีนสปาร์กฯ 1-3 เซาแธมป์ตัน
[0-1 ริคกี แลมเบิร์ต น.23, 0-2 เจสัน พันชีออน น.45+1, 1-2 เดวิด ฮอยเล็ตต์ น.49, 1-3 แอนทอน เฟอร์ดินานด์ (ทำเข้าประตูตัวเอง) น.82]
เรดดิง 2-1 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 สตีเวน เนสมิธ น.10, 1-1 อดัม เล ฟอนเดร น.50, 2-1 อดัม เลอ ฟอนเดร น.79 (จุดโทษ)]
เวสต์บรอมฯ 2-1 เชลซี
[1-0 เชน ลอง น.10, 1-1 เอเดน อาซาร์ด น.39, 2-1 ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี น.50]