“กรุ๊ปโหด” สมชื่อ “เรือ” อาการโคม่า

เอเยนซี - ผ่านครึ่งทางสำหรับรอบแบ่งกลุ่มศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2012-13 ต้องบอกว่าโหดสมชื่อสำหรับ “กรุ๊ป ออฟ เดธ” สาย ดี เพราะเมื่อคืนวันพุธที่ 24 ตุลาคม 2555 รีล มาดริด แชมป์สูงสุด 9 สมัยแพ้ ขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี ส่อแววซ้ำรอยฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการตกรอบเมื่อมีเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น

ภาพรวมเวลานี้มีเพียง 4 ทีมที่ชนะรวดร้อยเปอร์เซ็นต์มี 9 แต้ม โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ไม่น่าพลาด ทั้ง เอฟซี ปอร์โต, มาลากา, บาร์เซโลนา และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนกลุ่ม เอฟ ต้องลุ้นกันมันหยด เพราะว่า บาเลนเซีย, บาเต บอริซอฟ และ บาเยิร์น มิวนิก มี 6 แต้มเท่ากัน ขณะที่ ลีลล์ อมบ๊วยจากการแพ้รวด ปิดท้ายด้วยกลุ่ม อี เชลซี ที่กำลังลุ้นเป็นทีมแรกป้องกันแชมป์ภายใต้ชื่อ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ก็ยังลูกผีลูกคน หลังพ่าย ชัคเตอร์ โดเนสต์ค โดยมี ยูเวนตุส เป็นขวากหนามอีกด้วย

โดยเมื่อคืนวันพุธที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา รีล มาดริด บุกพ่าย ดอร์ตมุนด์ 1-2 เจ้าถิ่นได้ประตูจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี นาที 36 และ มาร์เซล ชเมลเซอร์ นาที 64 ทีมเยือนได้ คริสเตียโน โรนัลโด ยิงตีเสมอทันควันนาที 38 แต่สุดท้ายไม่รอด ขณะที่ผลอีกคู่กลุ่ม ดี เช่นเดียวกัน แมนฯซิตี สถานการณ์ร่อแร่บุกพ่าย อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-3 ทั้งที่นำไปก่อนจาก ซาเมียร์ นาสรี นาที 22 เจ้าถิ่นทวงคืนทั้งต้นทั้งดอกจาก เซียม เดอ ยอง นาที 45, นิคลาส มอยซานเดอร์ นาที 57 และ คริสเตียน อิริคเซน นาที 68

ทำให้ ดอร์ตมุนด์ แชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมนี 2 ปีหลังสุดที่ฤดูกาลที่แล้วตกรอบแรกโดยมีแค่ 4 แต้ม แซงรั้งจ่าฝูงด้วยการมี 7 แต้ม ตามด้วย รีล มาดริด 6 แต้ม อาแจกซ์ 3 แต้ม และ แมนฯซิตี แต้มเดียว ขณะที่เหลืออีก 3 นัด ซึ่งตามทฤษฎีทุกทีมยังมีโอกาสที่จะเข้ารอบน็อกเอาต์

หลังเกม โชเซ มูรินโญ ที่หมายหมั้นปั่นมือพา รีล มาดริด คว้าแชมป์ยุโรปให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2002 ออกมาเตือนลูกทีม ว่า ห้ามประมาทและอย่าขีดฆ่าชื่อ แมนฯซิตี เด็ดขาด “ทุกคนรู้ดีว่ากลุ่มนี้อัดแน่นไปด้วยทีมชั้นยอดขนาดไหน บางคนทำเป็นเรื่องตลก แต่ถือเป็นงานหนักสาหัสสากรรจ์ สุดท้ายจะต้องมีหนึ่งสโมสรใหญ่ไปเล่น ยูโรปา ลีก รีล มาดริด และ ดอร์ตมุนด์ อยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่สุด หลังผ่านครึ่งทาง แต่ ซิตี ยังคงสามารถเก็บได้ถึง 10 แต้มเต็ม ดังนั้น เราก็ต้องทำให้แน่ใจว่าจะต้องมี 11 แต้มเป็นอย่างน้อย”

ส่วน แมนฯซิตี ซึ่งเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็โชคร้ายอยู่ “กรุ๊ป ออฟ เดธ” และตกรอบไปด้วยการมี 10 แต้ม โรแบร์โต มันชินี เจ้านายใหญ่ชาวอิตาเลียน ยอมรับว่า ต้องอาศัยปาฎิหาริย์เพื่อที่จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย “ถือเป็นความรับผิดชอบของผมที่เตรียมทีมในค่ำคืนนี้ได้ไม่ดีพอ ดังนั้น ผมจะยอมรับความละอายทั้งหลายทั้งปวง บางครั้งคุณคิดว่าเกมจะดำเนินไปในทิศทางหนึ่ง แต่สุดท้ายเมื่ออกมาแล้วกลับไม่ใช่ อาแจกซ์ เล่นกันได้ดีกว่าเรามาก ผมจึงต้องย้ำอีกครั้งว่าตนพลาดเอง สถานการณ์ตอนนี้ลำบากมาก ถ้าหากทำได้คือชนะ 3 เกมที่เหลือก็มีโอกาส แต่จำต้องพึ่งปาฏิหาริย์ด้วย”

โดยปัญหาที่เห็นได้ชัดในฤดูกาลนี้ของ แมนฯซิตี ที่ มันชินี แก้ไม่ตก ก็คือ เกมรับ เพราะว่า 13 นัด รวมทุกรายการไม่เสียประตูเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น โดยโปรแกรมนัดต่อไปจะเปิด เอติฮัด สเตเดียม รับมือ อาแจกซ์ วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายนนี้ หากแก้จุดบกพร่องนี้ไม่ได้ คงต้องทำใจกลับมาลุ้นแชมป์ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งตัวแทนจาก อังกฤษ ที่ถือว่าอยู่กลุ่มไม่หนักอย่างสาย บี แต่ อาร์เซนอล พังคาถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม ต่อ ชาลเก 04 ด้วยสกอร์ 0-2 จาก คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ นาที 76 และ อิบราฮิม อเฟลลาย นาที 86 ถือเป็นความพ่ายแพ้ถ้วยยุโรปคารังใหม่นับตั้งแต่ปี 2009 และแพ้ต่อสโมสรต่างชาติครั้งแรกนับตั้งแต่เสียท่า อินเตอร์ มิลาน 0-3 ที่ ไฮบิวรี เมื่อเดือนกันยายนปี 2003 แต่ “ปืนโต” ยังรั้งอันดับ 2 ด้วยการมี 6 แต้มตาม “ราชันสีน้ำเงิน” แต้มเดียวที่เหลือ คือ โอลิมเปียกอส 3 แต้ม และ มงต์เปลลิเยร์ 1 แต้ม ถือว่าสถานการณ์ยังพอเบาใจได้