เอเยนซี-บ่อยครั้งที่บรรดาดาวรุ่งพุ่งแรงจากหลากหลายชนิดกีฬาถูกคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวดวงใหม่ประดับวงการ ถูกยกให้เป็นว่าที่ซูเปอร์สตาร์ในอนาคต แต่พอเอาเข้าจริงหลายรายพบว่าเป็นการเชิดชูของสื่อที่ดูเกินจริง โดยทีมข่าว MGR Sport รวบรวม 5 ดาวรุ่งพุ่ง (เกือบ) แรง 5 ราย ย้อนรอยนำเสนอบรรทัดต่อจากนี้
เฟเดริโก มาเคดา (ฟุตบอล) - อดีตเด็กสร้างชาวอิตาเลียนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาจาก ลาซิโอ ตั้งแต่วัย 17 ปี เรียกเสียงฮือฮาจากกองเชียร์ “เรด เดวิลส์” ด้วยการสวมบทซูเปอร์ซับ ยิงประตูชัยเฉือนเอาชนะ แอสตัน วิลลา 2-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญช่วยให้ “ผีแดง” คว้าแชมป์โค้งสุดท้ายฤดูกาล 2008-09 เป็นใบเบิกทางเกรดเอเพื่อขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แต่แล้ว 2 ปี ผ่านไป มาเคดา ลงสนามในลีกเพียง 12 เกม ซัดไป 2 ประตูและไม่มีวี่แววจะได้รับโอกาสจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการขึ้นสู่ชุดใหญ่เต็มตัว กระทั้งล่าสุดถูก ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ และ แดนนี เวลเบ็ค ที่ขึ้นมาที่หลังแจ้งเกิดไปก่อนเรียบร้อย ส่วนเจ้าตัวต้องถูกส่งไปให้ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส ยืมตัวในปีนี้
ริคกี ฟาวเลอร์ (กอล์ฟ) - หลังประกาศเทิร์นโปรในปี 2009 และทำผลงานโดดเด่นจนถูก คอรีย์ พาวิน กัปตันไรเดอร์คัพ สหรัฐอเมริกาปี 2010 เรียกไปติดทีมดวลกับยุโรปในโควตาสุดท้าย ทำให้เจ้าตัวคว้ารางวัลรุคกีแห่งปีมาครองแบบไม่มีข้อสงสัย
โดยโปรวัย 23 ปีรายนี้เป็นที่น่าจับตามองของฝั่งมะกัน ไม่แพ้กับฟากยุโรปซึ่งมีเด็กหนุ่มชื่อ รอรีย์ แม็คอิลรอย สร้างปรากฏการณ์ขึ้นมาก่อนหน้าไม่นานจนครองบัลลังก์มือ 1 ของโลกในปัจจุบัน และด้วยวัยที่ไล่เรี่ยกัน ก้านเหล็กไอร์แลนด์เหนือบินสูงถือมือ 1 โลก พร้อมกับแชมป์เมเจอร์ 2 รายการ ขณะที่ ฟาวเลอร์ ผันตัวเองไปเป็นเจ้าพ่อแฟร์ชันในสนามกอล์ฟมากกว่า และมีแชมป์เวลส์ ฟาร์โก แชมเปียนชิป 2012 ติดมือ เพียงใบเดียวรั้งอยู่ที่มือ 28 ของโลก ขยับขึ้นเพียง 5 อันดับจาก 2 ปีก่อน
เบอร์นาร์ด โทมิค (เทนนิส) - นักหวดวัย 19 ปีชาวออสซี มีเส้นทางในศึกแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ปี 2011 ที่น่าประทับใจ โดยสามารถพลิกล็อกโค่นชนะ โรบิน โซลเดอร์ลิง มือ 5 ของโลกชาวสวีดิชในขณะนั้น และเข้าถึงรอบควอเตอร์ไฟนอลก่อนไปแพ้ให้กับ โนวัค ยอโควิช เจ้าของแชมป์ปีดังกล่าวชาวเซิร์บแบบสูสี 1-3 เซต
ผลงานดังกล่าวทำให้ โทมิค ขยับมาอยู่ในอับดับ 27 ของโลก ทำสถิติเป็นนักเทนนิสชายที่มีอายุน้อยที่สุดที่สามารถเข้าสู่ท็อป 50 ของโลกได้สำเร็จ พร้อมความคาดหวังจากฝั่งบ้านเกิดจะก้าวมาเป็น เลย์ตัน ฮิววิตต์ คนใหม่แดนจิงโจ้ ทว่าทำไปทำมาด้วยวินัยที่หย่อนยานจึงทำให้ยังไม่มีแชมป์ประดับบารมีแม้แต่รายการเดียวและอันดับโลกล่าสุดหล่นไปอยู่ที่ 49 เป็นที่เรียบร้อย
เกร็ก โอเดน (บาสเกตบอล เอ็นบีเอ) - เซ็นเตอร์ของ ปอร์ทแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส เจ้าของตำแหน่งนัมเบอร์วันดราฟท์ในปี 2007 จากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สเตท ถูกตราหน้าเป็นการดราฟท์ยอดแย่ในประวัติศาสตร์ เอ็นบีเอ เพราะนับตั้งแต่ปี 2002 เหยา หมิง เซ็นเตอร์ร่างยักษ์ของ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ต่อด้วยปี 2003 เลอบรอน เจมส์ ฟอร์เวิร์ดเจ้าของรางวัลเอ็มวีพี 3 สมัย ที่ย้ายจาก คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส มาอยู่กับ ไมอามี ฮีท ทีมแชมป์ปีล่าสุด ต่างสร้างชื่อขึ้นมาโด่งดังถ้วนหน้า
ยิ่งไปกว่านี้ โอเดน ถูก เควิน ดูแรนท์ ดราฟท์เบอร์ 2 ในปีเดียวโชว์ความเหนือชั้นปาดหน้าทำผลงานพา โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ เข้าชิงแชมป์ศึกเอ็นบีเอในปีล่าสุด ถึงแม้สุดท้ายปราชัยให้กับ ฮีท ไปก็ตาม
นิโก รอสเบิร์ก (ฟอร์มูลา วัน) - เลโอนาร์โด ดิ คาปริโอ แห่งวงการรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก เติบโตมารุ่นเดียวกับ ลูอิส แฮมิลตัน นักซิ่งสหราชอาณาจักร โดยได้รับโอกาสขับให้ทีม เอทีแอนด์ที วิลเลียมส์ ครั้งแรกปี 2006 ก่อนย้ายมาจับพวกมาลัยให้กับเมอร์เซเดส จีพี และมีผลงานคงเส้นคงวามาตลอดคว้าอันดับ 7 มา 3 ปีซ้อน
ล่าสุดปี 2012 รอสเบิร์ก ซิวแชมป์แรกที่ศึก ไชนีส กรังด์ปรีซ์ ที่แดนมังกรเมื่อต้นปี และถูกมองว่าจะเป็นนักขับหมายเลข 1 ของ เมอร์เซเดส ในยามที่ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ อำลาวงการ ทว่าผลงานครึ่งซีซั่นหลังไม่เข้าเป้า จนต้นสังกัดไปคว้าตัว แฮมิลตัน มาจากแม็คลาเรน เพื่อรำตำแหน่งเป็นนักขับเบอร์หนึ่งของทีมในปี 2013 ส่วน ดิ คาปริโอ แห่งเอฟวัน ยังรับบทเป็นพระรองต่อไป
