xs
xsm
sm
md
lg

ชำแหละ “เซราะกราว” ปีนี้บ้อท่า ปีหน้าไม่พลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เนวิน” พร้อมนำเซราะกราวคืนความยิ่งใหญ่
ASTV ผู้จัดการรายวัน - เป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่ป้องกันแชมป์ยากกว่า ประโยคนี้ยังใช้ได้มาโดยตลอด ล่าสุดที่โดนกับตัวเองคงไม่พ้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าศึกไทยพรีเมียร์ลีก ที่มาปีนี้ฟอร์มอันไร้เทียมทานกลับหดหาย ยกธงขาวตั้งแต่ยังไม่จบซีซัน ทีมงาน MGR Sport จึงขอชำแหละถึงที่มาของผลงานที่รูดลง พร้อมเป้าหมายที่เหลือในปีนี้ของอดีตแชมป์ “เซราะกราว” ดังบรรทัดต่อไปนี้

หลังจากที่ “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกมาแถลงการณ์ยกธงขาวก่อนหน้านี้ รับว่าไม่สามารถป้องกันแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกซีซันนี้ไว้ยังถิ่นอีสานใต้ได้ และสุดท้ายก็ออกมาเป็นเช่นนั้นจริง เพราะคะแนนล่าสุด โดนจ่าฝูงเอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทิ้งขาดถึง 21 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียงแค่ 6นัดเท่านั้น ยังไม่รวมอันดับ 2 อย่าง ”ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ที่นำอยู่ 8 แต้ม และเหลือเกมในมือที่แข่งน้อยกว่าอีกหนึ่งนัด

“ทัพเซราะกราว” ประเดิมศักราชใหม่ 3 นัดแรกในบ้าน ด้วยฟอร์มแชมป์ ถล่ม เชียงราย บีบีซียู และ โอสถสภา แบบราบคาบ (3-1,3-0,4-2) แต่หลังจากนั้นต้องยอมรับว่าตั้งแต่เข้าช่วงหน้าร้อนในเดือนเมษายน ฟอร์มของ “ปราสาทสายฟ้า” เริ่มรูดลงแบบไม่เป็นท่า ผลงานในบ้านที่ควรจะการันตี 3 แต้มเต็ม กลับพลาดแบบน่าเขกกะโหลก เสมอ อาร์มี วัวชน พัทยา เพื่อนตำรวจ อีสาน และ เอสซีจี เมืองทองฯ รวมถึงโดน ชลบุรี บุกมาเชือดถึงถิ่น 4-3 ที่สำคัญแพ้แบบไป-กลับ (ออกไปเยือนโดน 4-2)

สิ่งที่ส่งให้ผลงานออกมาเช่นนั้นประการแรกคงหนีไม่พ้นการขาย รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ออกจากทีม เพราะหลังจากปล่อย ”เจ้าอ้น” ไปให้ บีอีซี เทโรฯ ทีมยังไม่สามารถหาตัวตายตัวแทนมาคุมเกมแดนกลางสนามได้ดีเท่า การมาของอัสการ์ ยาดิเกรอฟ ดูเหมือนจะฝากผีฝากไข้ได้ในช่วงแรก แต่กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่ามิดฟิลด์อุซเบกิสถาน ไร้ซึ่งสมรรถภาพ ก่อนถูกยกเลิกสัญญาหลังมาอยู่กับทีมได้เพียงแค่ 3 เดือน บ่อยครั้งที่ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม กุนซือพยายามใช้ ธีราทร บุญมาทัน มายืนแผงกลาง แต่ตำแหน่งดังกล่าวไม่สามารถทำให้แบ็คซ้ายที่ว่ากันว่าดีที่สุดในเมืองไทยตอนนี้แสดงศักยภาพออกมาได้เท่าที่ควร

นอกจากจะขาดตัวปั้นเกมแล้วทีมยังมาเสีย แฟรงค์ โอฮานด์ซา ดาวซัลโว 18 ประตูฤดูกาลก่อน ที่บาดเจ็บหน้าแข้งในเกมทิ้งทวนตกรอบศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก จนถูกขายต่อไปในที่สุด ทำให้เหลือกองหน้าไว้ใช้งานแค่ แฟรงค์ อาเชียมปง, สุริยา ดอมไธสง และ เอกชัย สำเร ที่เหลือก็เป็นแค่เยาวชนดาวรุ่ง ไม่มีใครจะมาเป็นผู้ผลิตสกอร์ได้เหมือนดาวยิงแคเมอรูน ถึงแม้ว่าเลกสองทีมจะซื้อ อันวาร์ ราจาบอฟ หัวหอกชาวอุซเบกิสถาน มาหวังระเบิดตาข่ายก็ตาม แต่ผลงานไม่ต่างจากเพื่อนร่วมชาติรายแรก หนำซ้ำแย่กว่าเพราะอยู่กับทีมได้แค่ 2เดือน

และนั่นคือปัญหาสำคัญของ “ปราสาทสายฟ้า” ในปีนี้ โควตานักเตะต่างชาติ 3+1 (เอเชีย) ที่ “บิ๊กเน” เคยลั่นไว้ก่อนเปิดซีซันว่า “แข้งต่างชาติและแข้งเอเชียจะเป็นตัวแปรให้ทีมได้เปรียบกว่าทีมอื่นกว่าทีมอื่น” แต่ไปๆมาๆกลับเหมือนว่าทีมไม่ได้ใช้ประโยชน์จากจุดนี้เลย จะมีก็แค่ เอ็ควัลลา เฮอร์มัน กับ อาเชียมปง เท่านั้นที่ยึดตำแหน่งตัวจริงได้ ที่เหลือไม่ได้มีศักยภาพเหนือกว่านักเตะไทยแม้แต่นิดเดียว ชินโนะซึเกะ ฮอนดะ และ โจเซฟ โอบามา ไม่สามารถเบียด ประทุม ชูทอง ลงมายืนเซ็นเตอร์คู่ เอ็ควัลลา ได้

ซึ่ง เนวิน เผยว่า “ผมต้องเป็นผู้รับผิดแต่ผู้เดียวในเรื่องการวางแผนซื้อตัวผู้เล่นผิดพลาด โควตาต่างชาติเราใช้ได้ไม่เกิน2 คน ส่วนประเด็นอื่นนั้นผมว่าเป็นส่วนน้อย เพราะถ้าเรามีผู้เล่นที่สมบูรณ์อะไรต่างคงไม่เกิดแน่นอน เป้าหมายที่เหลือในปีนี้เราจะต้องรักษาอันดับ 3 ไว้ให้ได้ และต้องได้ไปเพลย์ออฟแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า”

หลังจากนี้ต้องดูว่าช่วงเวลาที่เหลือในลีกอีก 7 นัด “ปราสาทสายฟ้า” จะทำผลงานได้ตามเป้าหรือไม่ รวมถึงป้องกันแชมป์บอลถ้วยอีก 2 รายการ (โตโยต้า ลีกคัพ, มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ) โดยรายการแรกจะพบ บางกอกกล๊าส ในรอบรองฯ ส่วนรายการหลังถือว่าสำคัญต้องผ่าน บีอีซี เทโรศาสน ในรอบ 8 ทีม เพื่อกรุยทางคว้าแชมป์ ซิวโควตาไปแข่งรอบเพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้า ซึ่งถือว่ามีโอกาสสูงเพราะแข้งที่นำเข้ามาเล่นบอลถ้วยในเลกสองพอจะเป็นความหวังให้กับทีมได้ทั้ง จอร์จี เซ็ตโควิช, ออสมาร์ อิบาเนซ และ โกรัน เยอร์โควิช ที่กำลังท็อปฟอร์ม

แต่ที่แน่ๆ นายใหญ่แดนอีสาน บอกว่าต้องกลับมาเป็นแชมป์เซราะกราว ที่ทุกคนภาคภูมิใจ พร้อมให้สัญญาว่าปีหน้าต้องไม่มีผิดพลาดแน่นอน โดยเตรียมแผนการทั้งในและนอกสนาม ประเดิมคว้า อิกอร์ บูร์ซาโนวิช เพลย์เมกเกอร์ จากนาโกยา แกรมปัส ในเจลีก ญี่ปุ่น ที่ “บิ๊กเน” เผยว่าฝีมือดีกว่าที่เคยคว้ามา และ มิเกล ทูซอน โค้ชประตูจากสเปน รวมถึงทุ่มทุนสร้างแคมป์เก็บตัวสุดหรูมูลค่ากว่า 100 ล้าน

โดยทิ้งท้ายว่า “ต้องเอาแชมป์คืนให้ได้ไม่ว่าจะต้องทุ่มขนาดไหน” ตรงตามคอนเซ็ปต์ที่ กรุณา ชิดชอบ ศรีภรรยาสุดที่รักสั่งมาทุกประการ "หมดเท่าไรหมดไป แต่อย่าหมดใจ"
ขาด “โอฮานด์ซา” เหมือนขาดใจ
ไม่มีใครแทนบทบาท “รังสรรค์”
“โกรัน” ความหวังของทีมลุยแชมเปียนส์ลีก
บุรีรัมย์ฯ กับความสำเร็จเมื่อปีที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น