คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
สัปดาห์นี้เรามาคุยกันเรื่องมวยสากลอาชีพกันบ้างนะครับ เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาช่วงบ่ายๆ มีการถ่ายทอดสดมวยสากลอาชีพป้องกันแชมป์โลกสถาบันหลักของนักชกชาวไทยจากประเทศญี่ปุ่น นี่ถือเป็นมหกรรมที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักที เพราะตอนนี้นักมวยไทยที่เป็นแชมป์โลกสถาบันหลักที่ได้รับการยอมรับ ก็มีแค่ 2 คนเท่านั้น แถมยังไปป้องกันแชมป์ถึงแดนปลาดิบอีก เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เพราะหลังๆ เราจะเห็นแต่มวยป้องกันแชมป์หรือชิงแชมป์สถาบันแปลกๆ ตั้งเองชกเองบ้าง หรือแชมป์ระดับภูมิภาค แต่ก็โปรโมทกันว่าเป็นบัลลังก์โลก และก็มักเป็นการชกในเมืองไทย จ้างมวยฟิลิปปินส์ หรืออินโดนีเซีย มาขึ้นเวทีรอนอน ดังนั้นผมเชื่อว่าน่าจะมีแฟนมวยสากลอาชีพส่วนใหญ่นั่งติดขอบจอแบบใจจดจ่อ
แชมป์โลกชาวไทยของเรา เทพฤทธิ์ ศิษย์หมอเส็ง บินไปป้องกันแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท น้ำหนักไม่เกิน 115 ปอนด์ ของสมาคมมวยโลก หรือ WBA กับโนบูโอะ นาชิโร่ อดีตแชมป์ในรุ่นนี้ แฟนมวยชาวไทยคงจะจำกันได้ดี สำหรับมวยสากลอาชีพรุ่นนี้ของสถาบันนี้ คือรุ่นที่เขาทราย แกแล็คซี่ขวัญใจตลอดกาลชาวไทยเราเคยครองความยิ่งใหญ่มาก่อน (สมัยก่อนเรียกรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท) หลังจากป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ถึง 19 ครั้ง ส่วนเทพฤทธิ์นั้น ไปป้องกันแชมป์คราวนี้เป็นครั้งที่ 3
ผลการชก เทพฤทธิ์ก็เอาชนะคะแนนไปได้แบบกองเชียร์ลุ้นเหนื่อย คะแนนที่ออก 115-114, 115-113, และอีกท่านให้เสมอกัน 114-114 เรียกว่าชนะด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ (Majority Decision) ครับ โดยยกต้นๆ เทพฤทธิ์ทำได้ดีมาก กระแทกแย็ปซ้ายเข้าหน้านาชิโร่จังๆ จนนาชิโร่เข้าไม่ติด และมีหมัดฮุคขวาเข้าเป้าเป็นระยะๆ ทำคะแนนเป็นกอบเป็นกำ แต่พอยก 6 นาชิโร่เริ่มเดินเบียดเข้าวงในได้ และตัดลำตัวได้จังๆ เล่นเอาเทพฤทธิ์หยุดไปเหมือนกัน และยิ่งพอยก 9 ไปแล้วนี่ โดนนาชิโร่ไล่บดอย่างเดียว ทำเอากองเชียร์หวาดเสียวว่าคะแนนจะออกหน้าไหน แถมยังชกที่ญี่ปุ่นอีก แต่สุดท้ายก็ชนะไปได้อย่างที่บอกไปข้างต้น ซึ่งถ้าดูจากคะแนนก็หวุดหวิดเต็มที
จากนี้ก็ต้องดูกันต่อนะครับว่าทีมงาน ก่อเกียรติยิม จะวางเส้นทางของ เทพฤทธิ์ ยังไง เรื่องเชิงมวยนั้น คงต้องปรับกันเรื่องการป้องกันตัว เพราะชกแบบลอยหน้าตลอดและเป็นมวยตั้งการ์ดไม่สูงด้วย ถ้าเจอมวยต่อยคมๆ ก็น่าเป็นห่วง แต่ก็มีจุดแข็ง แย็ปซ้ายทำได้ดีมาก และก็ต่อยได้แน่นดีใช้ได้เลยนะครับ ส่วนเรื่องพละกำลังนั้น เข้าใจว่า คงมีปัญหาเรื่องการควบคุมน้ำหนักพอสมควร ทีมงานก็ต้องดูนะครับว่าจะฝืนชกในรุ่นนี้ต่อไปไหวแค่ไหน หรือจะสามารถขยับรุ่นไป118 ปอนด์ได้หรือไม่ เท่าที่ทราบ ทางญี่ปุ่นเองก็มีอีกหลายตัวในรุ่นนี้ที่อยากชกกับเรา ซึ่งว่ากันจริงๆ เทพฤทธิ์ก็น่าจะมั่นใจพอสมควร จากการไปเก็บมวยญี่ปุ่นถึงที่มา 3 ไฟท์ติดๆ กันแล้ว โดยไปชนะคะแนนไดกิ คาเมดะ อดีตแชมป์รุ่นฟลายเวท และเก็บโทโมโนบุ ชิมิสึในยก 9 ก่อนจะมาชนะนาชิโร่ในไฟท์นี้ ดังนั้นทีมงานอาจจะทำเงินไปก่อนอีกซัก 1-2 ไฟท์ แล้วค่อยขยับขยาย เมื่อวันเสาร์ไดกิ คาเมดะ ก็มานั่งดูอยู่ด้วย อาจจะมีการเจรจากันไปแล้ว ก็น่าสนใจนะครับ
สัปดาห์นี้เรามาคุยกันเรื่องมวยสากลอาชีพกันบ้างนะครับ เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาช่วงบ่ายๆ มีการถ่ายทอดสดมวยสากลอาชีพป้องกันแชมป์โลกสถาบันหลักของนักชกชาวไทยจากประเทศญี่ปุ่น นี่ถือเป็นมหกรรมที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักที เพราะตอนนี้นักมวยไทยที่เป็นแชมป์โลกสถาบันหลักที่ได้รับการยอมรับ ก็มีแค่ 2 คนเท่านั้น แถมยังไปป้องกันแชมป์ถึงแดนปลาดิบอีก เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เพราะหลังๆ เราจะเห็นแต่มวยป้องกันแชมป์หรือชิงแชมป์สถาบันแปลกๆ ตั้งเองชกเองบ้าง หรือแชมป์ระดับภูมิภาค แต่ก็โปรโมทกันว่าเป็นบัลลังก์โลก และก็มักเป็นการชกในเมืองไทย จ้างมวยฟิลิปปินส์ หรืออินโดนีเซีย มาขึ้นเวทีรอนอน ดังนั้นผมเชื่อว่าน่าจะมีแฟนมวยสากลอาชีพส่วนใหญ่นั่งติดขอบจอแบบใจจดจ่อ
แชมป์โลกชาวไทยของเรา เทพฤทธิ์ ศิษย์หมอเส็ง บินไปป้องกันแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท น้ำหนักไม่เกิน 115 ปอนด์ ของสมาคมมวยโลก หรือ WBA กับโนบูโอะ นาชิโร่ อดีตแชมป์ในรุ่นนี้ แฟนมวยชาวไทยคงจะจำกันได้ดี สำหรับมวยสากลอาชีพรุ่นนี้ของสถาบันนี้ คือรุ่นที่เขาทราย แกแล็คซี่ขวัญใจตลอดกาลชาวไทยเราเคยครองความยิ่งใหญ่มาก่อน (สมัยก่อนเรียกรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท) หลังจากป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ถึง 19 ครั้ง ส่วนเทพฤทธิ์นั้น ไปป้องกันแชมป์คราวนี้เป็นครั้งที่ 3
ผลการชก เทพฤทธิ์ก็เอาชนะคะแนนไปได้แบบกองเชียร์ลุ้นเหนื่อย คะแนนที่ออก 115-114, 115-113, และอีกท่านให้เสมอกัน 114-114 เรียกว่าชนะด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ (Majority Decision) ครับ โดยยกต้นๆ เทพฤทธิ์ทำได้ดีมาก กระแทกแย็ปซ้ายเข้าหน้านาชิโร่จังๆ จนนาชิโร่เข้าไม่ติด และมีหมัดฮุคขวาเข้าเป้าเป็นระยะๆ ทำคะแนนเป็นกอบเป็นกำ แต่พอยก 6 นาชิโร่เริ่มเดินเบียดเข้าวงในได้ และตัดลำตัวได้จังๆ เล่นเอาเทพฤทธิ์หยุดไปเหมือนกัน และยิ่งพอยก 9 ไปแล้วนี่ โดนนาชิโร่ไล่บดอย่างเดียว ทำเอากองเชียร์หวาดเสียวว่าคะแนนจะออกหน้าไหน แถมยังชกที่ญี่ปุ่นอีก แต่สุดท้ายก็ชนะไปได้อย่างที่บอกไปข้างต้น ซึ่งถ้าดูจากคะแนนก็หวุดหวิดเต็มที
จากนี้ก็ต้องดูกันต่อนะครับว่าทีมงาน ก่อเกียรติยิม จะวางเส้นทางของ เทพฤทธิ์ ยังไง เรื่องเชิงมวยนั้น คงต้องปรับกันเรื่องการป้องกันตัว เพราะชกแบบลอยหน้าตลอดและเป็นมวยตั้งการ์ดไม่สูงด้วย ถ้าเจอมวยต่อยคมๆ ก็น่าเป็นห่วง แต่ก็มีจุดแข็ง แย็ปซ้ายทำได้ดีมาก และก็ต่อยได้แน่นดีใช้ได้เลยนะครับ ส่วนเรื่องพละกำลังนั้น เข้าใจว่า คงมีปัญหาเรื่องการควบคุมน้ำหนักพอสมควร ทีมงานก็ต้องดูนะครับว่าจะฝืนชกในรุ่นนี้ต่อไปไหวแค่ไหน หรือจะสามารถขยับรุ่นไป118 ปอนด์ได้หรือไม่ เท่าที่ทราบ ทางญี่ปุ่นเองก็มีอีกหลายตัวในรุ่นนี้ที่อยากชกกับเรา ซึ่งว่ากันจริงๆ เทพฤทธิ์ก็น่าจะมั่นใจพอสมควร จากการไปเก็บมวยญี่ปุ่นถึงที่มา 3 ไฟท์ติดๆ กันแล้ว โดยไปชนะคะแนนไดกิ คาเมดะ อดีตแชมป์รุ่นฟลายเวท และเก็บโทโมโนบุ ชิมิสึในยก 9 ก่อนจะมาชนะนาชิโร่ในไฟท์นี้ ดังนั้นทีมงานอาจจะทำเงินไปก่อนอีกซัก 1-2 ไฟท์ แล้วค่อยขยับขยาย เมื่อวันเสาร์ไดกิ คาเมดะ ก็มานั่งดูอยู่ด้วย อาจจะมีการเจรจากันไปแล้ว ก็น่าสนใจนะครับ