คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
เรื่องการใช้สารกระตุ้นต้องห้ามในการแข่งขันกีฬานั้น มีมานานเป็นศตวรรษแล้ว และผู้ชนะการแข่งขันหลายรายที่ถูกตรวจพบก็มีอันต้องกระเด็นร่วงจากตำแหน่ง ถูกยึดแช้มป์คืน และถูกแบนจากการแข่งขันไปนาน เพราะเขาเห็นว่านอกจากจะเป็นการเอาเปรียบคู่แข่งแล้ว มันยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตัวนักกีฬาเองด้วย แต่ดูเหมือนว่า การแข่งขันจักรยานทางไกล อาจเป็นกีฬาชนิดเดียวในโลกที่อนุญาตให้ใช้สารกระตุ้น
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานต่อต้านการใช้สารกระตุ้นของสหรัฐอเมริกา ( United States Anti-Doping Agency - USADA ) ประกาศแบน แล้นซ์ อาร์มสตรอง ( Lance Armstrong ) แช้มป์จักรยานทางไกล เลอ ตูร เดอ ฟร้องซ์ ( Le Tour de France ) 7 สมัยซ้อน ชาวอเมริกา วัย 40 ปี ตลอดชีวิต แถมปลดออกจากทุกตำแหน่งแช้มป์ที่หมอนี่คว้าชัยมาได้นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 1998 อันนี้เหมารวมไปหมด ไม่ว่าจะเป็น เหรียญรางวัล ตำแหน่งแช้มป์ ชัยชนะแต่ละครั้ง การเข้าเส้นชัยสเตจต่างๆ คะแนน และเงินรางวัล แต่ แล้นซ์ ยังยื้อ และ สหภาพจักรยานนานาชาติ ( Union Cycliste Internationale - UCI ) องค์กรที่ควบคุมดูแลการแข่งขันรายการต่างๆยังไม่ยอมรับตาม USADA
USADA นำเรื่องฟ้องศาลใน เท็กซัส ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยบอกว่า แล้นซ์ เป็นจอมขนยาตัวฉกาจและใช้สารกระตุ้นต้องห้ามในการแข่งขัน โดยมีหลักฐานจากผลตรวจเลือดในช่วงปี 2009-2010 รวมทั้งจากคำให้การของเพื่อนๆนักปั่นจักรยานซึ่งต่างก็ระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้สารกระตุ้นต้องห้ามกันทั้งนั้น ฝ่าย แล้นซ์ เองก็ยืนยันในความบริสุทธิ์ และโวยว่า USADA ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการบังอาจมาสอบสวนตน แต่ศาลย้ำว่า USADA มีอำนาจ ทำให้เจ้าของฉายา เมลโล่ว์ จอนนี่ ตัดสินใจยุติการต่อสู้คดี สิ่งนี้นำไปสู่การประกาศแบนดังกล่าว
เพราะ การแข่งขันจักรยานทางไกล ต้องการสภาพร่างกายที่มีความอึด อดทนสูง การใช้สารกระตุ้นต้องห้ามที่นักปั่นจักรยานนิยมกันนั้น จึงมักเป็นพวก สเตอรอยด์ ( Steroid ) EPO รวมทั้ง การเปลี่ยนถ่ายเลือด
อย่างไรก็ตาม กีฬาที่ไม่ได้ต้องการความอึด อดทน แต่ต้องการความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ นักกีฬาก็ยังจะไปใช้สารกระตุ้นอีก โดยกลุ่มนี้มักจะเป็น แอนนาโบลิค สเตอรอยด์ ( Anabolic steroid ) ซึ่งก็จะมีผลข้างเคียงในทางลบมากมาย สำหรับผู้ชายคือ เกิดสิว การทำงานของตับบกพร่อง เพิ่มความต้องการทางเพศ แต่ดันหย่อนสมรรถภาพทางเพศ นมโต มีฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ ผมร่วง หัวล้านแน่นอน
สำหรับนักกีฬาหญิงจะเกิดผลข้างเคียงคือ เพิ่มความต้องการทางเพศ ปุ่มกระสันโตกระดูกหยุดการเจริญเติบโตเร็วเกินไป อันนี้คงทำให้ตัวเตี้ย ผมร่วง ประจำเดือนมาไม่ปกติ ผิวหยาบกระด้าง ใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปทางผู้ชาย รู้อย่างนี้แล้ว แข่งไม่ชนะ เพราะไม่ใช้ยา ก็ช่างมันเถอะ
เรื่องการใช้สารกระตุ้นต้องห้ามในการแข่งขันกีฬานั้น มีมานานเป็นศตวรรษแล้ว และผู้ชนะการแข่งขันหลายรายที่ถูกตรวจพบก็มีอันต้องกระเด็นร่วงจากตำแหน่ง ถูกยึดแช้มป์คืน และถูกแบนจากการแข่งขันไปนาน เพราะเขาเห็นว่านอกจากจะเป็นการเอาเปรียบคู่แข่งแล้ว มันยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตัวนักกีฬาเองด้วย แต่ดูเหมือนว่า การแข่งขันจักรยานทางไกล อาจเป็นกีฬาชนิดเดียวในโลกที่อนุญาตให้ใช้สารกระตุ้น
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานต่อต้านการใช้สารกระตุ้นของสหรัฐอเมริกา ( United States Anti-Doping Agency - USADA ) ประกาศแบน แล้นซ์ อาร์มสตรอง ( Lance Armstrong ) แช้มป์จักรยานทางไกล เลอ ตูร เดอ ฟร้องซ์ ( Le Tour de France ) 7 สมัยซ้อน ชาวอเมริกา วัย 40 ปี ตลอดชีวิต แถมปลดออกจากทุกตำแหน่งแช้มป์ที่หมอนี่คว้าชัยมาได้นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 1998 อันนี้เหมารวมไปหมด ไม่ว่าจะเป็น เหรียญรางวัล ตำแหน่งแช้มป์ ชัยชนะแต่ละครั้ง การเข้าเส้นชัยสเตจต่างๆ คะแนน และเงินรางวัล แต่ แล้นซ์ ยังยื้อ และ สหภาพจักรยานนานาชาติ ( Union Cycliste Internationale - UCI ) องค์กรที่ควบคุมดูแลการแข่งขันรายการต่างๆยังไม่ยอมรับตาม USADA
USADA นำเรื่องฟ้องศาลใน เท็กซัส ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยบอกว่า แล้นซ์ เป็นจอมขนยาตัวฉกาจและใช้สารกระตุ้นต้องห้ามในการแข่งขัน โดยมีหลักฐานจากผลตรวจเลือดในช่วงปี 2009-2010 รวมทั้งจากคำให้การของเพื่อนๆนักปั่นจักรยานซึ่งต่างก็ระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้สารกระตุ้นต้องห้ามกันทั้งนั้น ฝ่าย แล้นซ์ เองก็ยืนยันในความบริสุทธิ์ และโวยว่า USADA ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการบังอาจมาสอบสวนตน แต่ศาลย้ำว่า USADA มีอำนาจ ทำให้เจ้าของฉายา เมลโล่ว์ จอนนี่ ตัดสินใจยุติการต่อสู้คดี สิ่งนี้นำไปสู่การประกาศแบนดังกล่าว
เพราะ การแข่งขันจักรยานทางไกล ต้องการสภาพร่างกายที่มีความอึด อดทนสูง การใช้สารกระตุ้นต้องห้ามที่นักปั่นจักรยานนิยมกันนั้น จึงมักเป็นพวก สเตอรอยด์ ( Steroid ) EPO รวมทั้ง การเปลี่ยนถ่ายเลือด
อย่างไรก็ตาม กีฬาที่ไม่ได้ต้องการความอึด อดทน แต่ต้องการความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ นักกีฬาก็ยังจะไปใช้สารกระตุ้นอีก โดยกลุ่มนี้มักจะเป็น แอนนาโบลิค สเตอรอยด์ ( Anabolic steroid ) ซึ่งก็จะมีผลข้างเคียงในทางลบมากมาย สำหรับผู้ชายคือ เกิดสิว การทำงานของตับบกพร่อง เพิ่มความต้องการทางเพศ แต่ดันหย่อนสมรรถภาพทางเพศ นมโต มีฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ ผมร่วง หัวล้านแน่นอน
สำหรับนักกีฬาหญิงจะเกิดผลข้างเคียงคือ เพิ่มความต้องการทางเพศ ปุ่มกระสันโตกระดูกหยุดการเจริญเติบโตเร็วเกินไป อันนี้คงทำให้ตัวเตี้ย ผมร่วง ประจำเดือนมาไม่ปกติ ผิวหยาบกระด้าง ใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปทางผู้ชาย รู้อย่างนี้แล้ว แข่งไม่ชนะ เพราะไม่ใช้ยา ก็ช่างมันเถอะ
